“เยี่ยเฟิงรูปงามขนาดนั้น ต่อให้คนเหล่านี้จะรูปงามเพียงใดก็ไม่มีทางสู้เยี่ยเฟิงได้ ไม่อย่างนั้นผู้นำกองธงของพวกเราจะโปรดปรานเขามาหลายต่อหลายปีได้อย่างไร”
“เยี่ยเฟิงไม่ใช่แค่รูปงาม แต่ยังเพียบพร้อมทั้งการบู๊การบุ๋น ใครๆ ก็ชอบเขาทั้งนั้น ได้ยินมาว่าผู้นำกองธงโบตั๋นพยายามขอเยี่ยเฟิงจากผู้นำกองธงของเราอยู่หลายครั้ง แต่ผู้นำกองธงของเราไม่เต็มใจมอบเขาให้”
“ไม่มีทาง แม้แต่ผู้นำกองธงโบตั๋นก็ยังสนใจเยี่ยเฟิงอย่างงั้นเรอะ”
“นอกจากผู้นำกองธงโบตั๋น ยังมีผู้นำกองธงสุ่ยเซียน* กับผู้นำกองธงสาวเย่า*ด้วย”
กู้ชูหน่วนยืนพิงอยู่ข้างประตูและอดไม่ได้ที่จะเยาะเย้ย “ที่แท้สิบสองกองธงบุปผาก็ตั้งชื่อตามสิบสองเทพแห่งบุปผานี่เอง พวกกากเดนนี่ทำให้ชื่อที่ดีงามของเทพแห่งบุปผาทั้งสิบสองต้องด่างพร้อย
เมื่อถึงภาพผู้ชายร่างใหญ่ทัดดอกไม้บนหัวขึ้นมา กู้ชูหน่วนก็อดขนลุกไม่ได้
อี้เฉินเฟยยิ้มและกล่าวว่า “นอกจากผู้นำกองธงสุ่ยเซียน ผู้นำกองธงอื่นๆ ล้วนเป็นผู้ชายทั้งหมด”
“ดังนั้นผู้นำกองธงสุ่ยเซียนก็เลยสนใจเยี่ยเฟิงงั้นเหรอ”
“ผู้นำกองธงสุ่ยเซียนชำนาญในการใช้พิษ นางชื่นชอบการทดลองใช้พิษกับหนุ่มรูปงาม ที่นางอยากได้ตัวเยี่ยเฟิงน่าจะไม่ใช่เพราะสนใจในตัวเขา แต่คงอยากได้เยี่ยเฟิงไปทดสอบพิษ”
กู้ชูหน่วนหน้าคว่ำ
พวกถือธงที่อยู่ตรงหน้ายังคงพูดคุยกันอยู่
“พวกเจ้าบอกว่าคราวนี้เยี่ยเฟิงไม่ได้นำระฆังวิญญาณสะบั้นกลับมาด้วย พวกเจ้าว่าผู้นำธงของเราจะโกรธจนฆ่าเขาตายหรือว่าส่งตัวเขาให้หัวหน้ากองธงคงอื่นๆ รึ? ก่อนหน้านี้ผู้นำกองธงของพวกเราก็ส่งคนปรนนิบัติไปให้ผู้นำกองธงคนอื่นอยู่บ่อยๆ”
“นั่นก็พูดยาก รู้แต่ว่าเยี่ยเฟิงทำให้ท่านไม่พอใจแน่นอน ฮึ เมื่อไม่นานมานี้ทุกคนยังอิจฉาที่เขาได้รับความโปรดปรานจากผู้นำกองธง ขอแค่นำระฆังวิญญาณสะบั้นกลับมาได้ก็จะเป็นอิสระแล้วแท้ๆ แต่ตอนนี้... ฮึ... ไม่รู้จริงๆ ว่าเขาคิดอะไรอยู่ นอกจากจะไม่นำระฆังวิญญาณสะบั้นกลับมา เขายังไปช่วยคุณหนูสามแห่งจวนอัครเสนาบดีต่อสู้กับปรมาจารย์เจียงอีก”
“ใช่ เขาเรียกหาความโหดร้ายโดยแท้ ปรมาจารย์เจียงคอยกลั่นแกล้งเขามาตลอด แต่เขาก็ยังกล้าขัดคำสั่งของท่านปรมาจารย์เพื่อคนนอกเพียงคนเดียว ถ้าเขาไม่ถูกปรมาจารย์เจียงฉีกเป็นชิ้นๆ ละก็ อย่ามาเรียกข้าว่าคนแซ่ลั่ว”
กู้ชูหน่วนขมวดคิ้วมุ่น
นางให้ระฆังวิญญาณสะบั้นกับเยี่ยเฟิงไปแล้วไม่ใช่เหรอ
เป็นไปได้ไหมว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นกับเยี่ยเฟิง เขาจึงไม่ได้นำระฆังวิญญาณสะบั้นกลับมา
“เมื่อก่อนเวลาผู้นำกองธงของพวกเราเล่นสนุกจนเบื่อ ก็มักจะส่งคนคอยปรนนิบัติเหล่านั้นมาให้พวกเรา ไม่รู้ว่าคราวนี้ท่านผู้นำกองธงจะส่งเยี่ยเฟิงมาให้พวกเราเชยชมหรือเปล่า ถ้าส่งมาให้พวกเราเชยชมได้ละก็ คิดแล้วชื่นใจจริงๆ”
“เจ้าก็คิดไกลเกินไปแล้ว ถ้าผู้นำกองธงจะให้ก็คงให้ผู้นำกองธงคนอื่น จะส่งมาให้พวกเราทำไม”
“ถ้าข้าเป็นเยี่ยเฟิง หากนำระฆังวิญญาณสะบั้นกลับมาไม่ได้ ให้ตายข้าก็ไม่มีทางกลับมาเด็ดขาด ไม่รู้จริงๆ ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขา”
“ชู่ว เจ้าพูดอะไรออกมาน่ะ ไม่กลัวหัวหลุดจากบ่ารึไง”
“ใช่ๆๆ ข้านี่ปากเสียจริง เรื่องที่เราคุยกันวันนี้อย่าแพร่งพรายออกไปละ”
กู้ชูหน่วนลูบคาง ทันใดนั้นก็ยิ้มหน้าบานและสาวเท้าเข้าไปในห้องพลางเอ่ยว่า “โอ้โห พวกท่านมาเล่นพนันกันอยู่ที่นี่ไม่ยอมบอกข้า ข้าก็หาอยู่ตั้งนาน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่แปลให้อ่านนะคะ อ่านถึง 1174 แล้วรอตอนต่อไปอยู่ค่ะ...
ไม่อัพจบเหรอคะ...
เป็นนางเอกที่นิสัยแย่ที่สุดตั้งแต่เคยอ่านมา...
คือตัวเองไม่มีเงิน แต่คิดจะเอาทุกอย่างด้วยราคาสูงเสียดฟ้า แล้วก็หาคำพูดให้คนอื่นจ่ายแทน ตัวเองหาประโยชน์จากคนใกล้ตัวแต่กลับเอาใจให้คนอื่นตลอดเนี่ยนะ...
แม่นางกู้เกินเยียวยาแล้วเด้อ 555...
เยี่ยเฟิงเป็นคนดีมาก แต่เขาทนงตัวเกินไป ชีวิตที่ผู้อื่นฝ่าฟันเพื่อแย่งชิงลมหายใจเขาไว้ แต่เขาก็ดิ้นรนกลับไปหาความตายอยู่เรื่อย...
ท่านอาจารย์พูดให้คิดดีมากเลย แต่อาหน่วนจะเข้าใจไหม นางดูมั่นหน้า มั่นใจเกิตเหตุแบบไม่สนสี่สนแปดใดใดเลย...
อยากให้กลับมาอัพเดทไวๆนะคะ ขอบคุณมากค่ะ...
สรุปเรื่องนี้มีตอนจบมั้ยค่ะ...
รอตอนจบอยู่นะคะ ใจบางไม่ไหวแล้วทรมาน...