กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ นิยาย บท 468

ประเด็นมันอยู่ตรงนั้นเหรอ

สิ่งสำคัญก็คือถ้าเขาไม่ออกไปจากห้องตำรา นางจะหาม้วนหนังแกะโบราณได้อย่างไร

เมื่อเห็นว่าเยี่ยจิ่งหานกำลังจัดระเบียบห้องตำราอย่างคล่องแคล่ว กู้ชูหน่วนจึงถอนหายใจอย่างเศร้าสร้อย นางใช้สองมือเท้าคางแล้วกลอกตาไปมา

“ท่านอ๋อง ข้านอนไม่หลับ อยากจะชมจันทร์อยู่ที่นี่ ท่านกลับไปนอนก่อนเถิด”

“เช่นนั้นข้าจะชมจันทร์เป็นเพื่อนเจ้า”

"....."

เยี่ยจิ่งหานถอดผ้าคลุมและพาดลงบนไหล่ของนางอย่างเอาใจใส่

กู้ชูหน่วนกัดฟันเอ่ยไปว่า “ท่านอ๋อง พรุ่งนี้ท่านไม่ต้องไปที่ราชสำนักรึ”

“ไม่ไป จะอยู่เป็นเพื่อนเจ้า”

“จะทำแบบนี้ได้อย่างไร เวลานี้รัฐเยี่ยและรัฐหวากำลังสู้รบกันอย่างดุเดือด ท่านในฐานะเทพแห่งสงคราม ท่านควรจะให้ความสำคัญต่อบ้านเมือง แม้ว่าฝ่าบาทจะไม่ดีกับท่าน แต่ท่านก็ยังต้องคิดอย่างรอบคอบเพื่อประชาชน ข้าว่าท่านรีบกลับไปนอนดีกว่า พรุ่งนี้จะได้มีกำลังวังชา ไปทำหน้าที่ที่ราชสำนักด้วยสีหน้าผ่องใส”

“วางใจเถิด รัฐหวาบุกรุกรัฐเยี่ยไม่ได้อยู่แล้ว” แววตาของเยี่ยจิ่งหานเย็นเยียบ ทว่าในไม่ช้าความเยือกเย็นนั้นก็สลายไป

“ดังนั้นท่านจึงทำให้ฝ่าบาทปวดพระเศียรและต้องมาขอร้องท่านในที่สุด”

“อาหน่วน เจ้าไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องของบ้านเมือง”

ใครสนกัน

มีเยี่ยจิ่งหานกับแม่ทัพใหญ่เซี่ยวอยู่ที่นี่ รัฐหวาบุกรุกได้สิถึงจะเป็นเรื่องแปลก

“จริงด้วย แล้วท่านแม่ทัพใหญ่เซี่ยวกับเซี่ยวอวี่เซวียนล่ะ”

อุณหภูมิร่างกายของเยี่ยจิ่งหานเย็นลงเล็กน้อย ราวกับว่าเขาไม่ต้องการพูดถึงหัวข้อนี้ เขาเพียงแต่เอ่ยอย่างไม่ใส่ใจว่า “ตอนที่แม่ทัพใหญ่เซี่ยวถูกจับเข้าคุก เซี่ยวอวี่เซวียนไม่ได้อยู่ในจวน ดังนั้นจึงหนีไปได้”

ผู้หญิงคนนี้... เมื่อครู่เพิ่งบอกว่าจะไม่ไปยั่วยวนหรือเกี้ยวพาราสีใคร ตอนนี้กลับคิดถึงเซี่ยวอวี่เซวียนอีกแล้ว

“ฝ่าบาทไม่น่าจะจับท่านแม่ทัพใหญ่เซี่ยวไปทำอะไรใช่หรือไม่”

“ถ้าข้าคาดการณ์ไม่ผิด ภายในสามวันฝ่าบาทจะปล่อยตัวแม่ทัพใหญ่เซี่ยว ใช้ทั้งครอบครัวมาข่มขู่เพื่อให้แม่ทัพใหญ่เซี่ยวออกไปต่อสู้กับรัฐหวา” เพราะในราชสำนักไม่มีแม่ทัพอื่นให้เรียกใช้

อันกั๋วกงผู้นั้นคงเป็นแค่พวกขี้เมาหยำเปไม่ได้เรื่อง

“อ้อ...”

“เจ้าวิ่งวุ่นอยู่ข้างนอกมาตั้งหลายวัน คงไม่ได้นอนหลับพักผ่อนอย่างเต็มที่ เดี๋ยวข้าจะกลับไปนอนในห้องเป็นเพื่อนเจ้า”

“ไม่เป็นไร”

“เจ้าบอกปัดตลอด หรือว่า...”

“ท่านอ๋องคิดไปถึงไหนแล้ว ข้าเพียงแค่หิวเท่านั้น ท่านก็รู้ว่าคนท้องมักจะหิวง่าย”

“อยากกินอะไร ข้าจะให้คนไปทำให้”

“ข้าไม่อยากกินของที่คนใช้ทำ ข้าอยากกินของที่ท่านอ๋องทำให้”

ชิงเฟิงที่อยู่ด้านนอกได้ยินแล้วถึงกับปาดเหงื่อ

ให้ท่านอ๋องทำเองน่ะหรือ

ช่างน่าขันยิ่งนัก

ฐานะของท่านอ๋องคืออะไร เขาจะไปทำอาหารให้นางกินได้อย่างไร

ทว่าเขากลับเห็นเยี่ยจิ่งหานครุ่นคิดนิดหนึ่งก่อนจะถามว่า “เจ้าอยากกินอะไร”

“ข้าวต้มปลา อยากกินข้าวต้มปลา อยากให้ท่านฆ่าปลาเองและปรุงเองด้วย นั่นจึงจะมีรสชาติของความรักและความสุข”

“ตกลง เจ้ารออยู่นี่ ข้าจะรีบไปทำมาให้” เยี่ยจิ่งหานพิจารณาอย่างลึกซึ้งถึงคำว่ารสชาติแห่งความรักและความสุข

กู้ชูหน่วนถอนหายใจอย่างโล่งอก

ในที่สุดก็เกลี้ยกล่อมปีศาจผู้นี้ออกไปได้เสียที

“ท่านอ๋อง ข้าไม่อยากเห็นหน้าชิงเฟิงกับเจี้ยงเสวี่ย สั่งให้พวกเขาออกไปด้วยสิเพคะ ข้าจะชมจันทร์และอ่านตำราอยู่ที่นี่ ไม่อยากถูกพวกหน้าโง่สองคนนี้รบกวน”

สีหน้าของชิงเฟิงและเจี้ยงเสวี่ยดูไม่ดีนัก

พวกเขาโง่ที่ไหน

คิดว่าพวกเขาชอบปรนนิบัตินางนักหรือ

นอกจากนั้น... พวกเขาแค่คอยเฝ้าอยู่ข้างนอก ถ้านางไม่สั่ง พวกเขาก็เข้าไปรบกวนนางไม่ได้

เยี่ยจิ่งหานเหลือบมองกู้ชูหน่วนอย่างครุ่นคิดนิดหนึ่ง จากนั้นจึงสั่งให้ชิงเฟิงและเจี้ยงเสวี่ยออกไป

“รอข้าอยู่ที่นี่ ข้าจะรีบกลับมา”

“รีบไปเถิดๆ” กลับมาช้าเท่าไหร่ก็ยิ่งดี

หลังจากแน่ใจว่าเยี่ยจิ่งหานออกไปแล้ว กู้ชูหน่วนจึงถอนหายใจยืดยาวอย่างขุ่นใจ จากนั้นจึงเริ่มค้นหาม้วนหนังแกะโบราณตามกล่องและชั้นต่างๆ ภายในห้องตำรา

ในห้องครัว

“ใครก็ได้เข้ามา”

“เพคะพระชายา”

“จัดการที่นี่ให้เรียบร้อยเหมือนสภาพเดิม”

“เพคะ...”

“ส่วนเจ้า พาข้าไปที่ห้องของท่านอ๋อง”

กู้ชูหน่วนขี้เกียจเกินกว่าจะสนใจห้องตำราที่ระเกะระกะไม่เป็นระเบียบ

นางไม่เชื่อว่าเยี่ยจิ่งหานจะไม่รู้ว่านางค้นห้องตำราจนยุ่งเหยิง

นางต้องใช้โอกาสตอนที่เขาไปทำข้าวต้มปลารีบไปหาม้วนหนังแกะโบราณที่ห้องของเขา กันไม่ให้เขาไหวตัวทันและเอาม้วนหนังแกะโบราณไปซ่อนอีก

หลังจากคนรับใช้เดินนำนางไปถึงห้องของเยี่ยจิ่งหาน ที่ด้านหลัง เยี่ยจิ่งหานก็กลับมาพร้อมกับข้าวต้มปลาในมือ

กู้ชูหน่วนอธิบายว่า “อยากหาหนังสือดีๆ อ่านสักเล่มที่ห้องตำรา แต่ว่าไม่เจอเล่มที่น่าสนใจเลย ข้าเหนื่อยนิดหน่อยจึงมาที่ห้องของท่าน ต้องขออภัยจริงๆ ที่ทำให้ห้องตำราของท่านเละเทะ”

“ไม่เป็นไร แค่ให้คนใช้ไปทำความสะอาดก็เรียบร้อย รอนานแล้วนี่ ข้าวต้มปลาเสร็จแล้ว”

เยี่ยจิ่งหานวางข้าวต้มปลาลงบนโต๊ะและตักใส่ถ้วยให้นางด้วยตัวเอง ทั้งยังช่วยนางเป่าให้คลายร้อน ราวกับว่าเขาไม่สังเกตเห็นความผิดปกติต่างๆ ของกู้ชูหน่วน

ข้าวต้มปลาหน้าตาน่ากินจนกู้ชูหน่วนที่ยุ่งวุ่นวายตลอดทั้งคืนอดหิวไม่ได้

นางถูไม้ถูมือ “หอมมาก หิวจะตายอยู่แล้ว”

“ช้าก่อน มีก้างปลา”

เยี่ยจิ่งหานนั่งลงตรงหน้าและแกะก้างปลาอย่างเอาใจใส่

ใบหน้าของเขาหล่อเหลา เมื่ออยู่ภายใต้แสงเทียน โครงหน้าที่ชัดเจนนั้นก็ยิ่งดูอ่อนโยน แม้แต่ดวงตาที่เยียบเย็นดั่งบึงน้ำไร้ก้นบึ้งก็ยังเต็มไปด้วยความนุ่มนวล

กู้ชูหน่วนรู้สึกโง่งมไปพักหนึ่ง

“เอาละ ไม่มีก้างแล้ว แต่เวลากินต้องระวังหน่อยนะ อย่าให้ติดคอ”

“ขอบคุณ”

เมื่อข้าวต้มปลาเข้าปากจึงสัมผัสได้ถึงกลิ่นหอมและรสชาติที่กลมกล่อม อีกทั้งยังละลายในปาก ดูออกเลยว่าคนทำทำอย่างตั้งใจจริงๆ

“ข้าวต้มปลานี่ท่านทำเองหรือ”

นางสูดจมูกฟุดฟิดราวกับได้กลิ่นคาวปลาที่ยังติดตัวเยี่ยจิ่งหาน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์