ประเด็นมันอยู่ตรงนั้นเหรอ
สิ่งสำคัญก็คือถ้าเขาไม่ออกไปจากห้องตำรา นางจะหาม้วนหนังแกะโบราณได้อย่างไร
เมื่อเห็นว่าเยี่ยจิ่งหานกำลังจัดระเบียบห้องตำราอย่างคล่องแคล่ว กู้ชูหน่วนจึงถอนหายใจอย่างเศร้าสร้อย นางใช้สองมือเท้าคางแล้วกลอกตาไปมา
“ท่านอ๋อง ข้านอนไม่หลับ อยากจะชมจันทร์อยู่ที่นี่ ท่านกลับไปนอนก่อนเถิด”
“เช่นนั้นข้าจะชมจันทร์เป็นเพื่อนเจ้า”
"....."
เยี่ยจิ่งหานถอดผ้าคลุมและพาดลงบนไหล่ของนางอย่างเอาใจใส่
กู้ชูหน่วนกัดฟันเอ่ยไปว่า “ท่านอ๋อง พรุ่งนี้ท่านไม่ต้องไปที่ราชสำนักรึ”
“ไม่ไป จะอยู่เป็นเพื่อนเจ้า”
“จะทำแบบนี้ได้อย่างไร เวลานี้รัฐเยี่ยและรัฐหวากำลังสู้รบกันอย่างดุเดือด ท่านในฐานะเทพแห่งสงคราม ท่านควรจะให้ความสำคัญต่อบ้านเมือง แม้ว่าฝ่าบาทจะไม่ดีกับท่าน แต่ท่านก็ยังต้องคิดอย่างรอบคอบเพื่อประชาชน ข้าว่าท่านรีบกลับไปนอนดีกว่า พรุ่งนี้จะได้มีกำลังวังชา ไปทำหน้าที่ที่ราชสำนักด้วยสีหน้าผ่องใส”
“วางใจเถิด รัฐหวาบุกรุกรัฐเยี่ยไม่ได้อยู่แล้ว” แววตาของเยี่ยจิ่งหานเย็นเยียบ ทว่าในไม่ช้าความเยือกเย็นนั้นก็สลายไป
“ดังนั้นท่านจึงทำให้ฝ่าบาทปวดพระเศียรและต้องมาขอร้องท่านในที่สุด”
“อาหน่วน เจ้าไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องของบ้านเมือง”
ใครสนกัน
มีเยี่ยจิ่งหานกับแม่ทัพใหญ่เซี่ยวอยู่ที่นี่ รัฐหวาบุกรุกได้สิถึงจะเป็นเรื่องแปลก
“จริงด้วย แล้วท่านแม่ทัพใหญ่เซี่ยวกับเซี่ยวอวี่เซวียนล่ะ”
อุณหภูมิร่างกายของเยี่ยจิ่งหานเย็นลงเล็กน้อย ราวกับว่าเขาไม่ต้องการพูดถึงหัวข้อนี้ เขาเพียงแต่เอ่ยอย่างไม่ใส่ใจว่า “ตอนที่แม่ทัพใหญ่เซี่ยวถูกจับเข้าคุก เซี่ยวอวี่เซวียนไม่ได้อยู่ในจวน ดังนั้นจึงหนีไปได้”
ผู้หญิงคนนี้... เมื่อครู่เพิ่งบอกว่าจะไม่ไปยั่วยวนหรือเกี้ยวพาราสีใคร ตอนนี้กลับคิดถึงเซี่ยวอวี่เซวียนอีกแล้ว
“ฝ่าบาทไม่น่าจะจับท่านแม่ทัพใหญ่เซี่ยวไปทำอะไรใช่หรือไม่”
“ถ้าข้าคาดการณ์ไม่ผิด ภายในสามวันฝ่าบาทจะปล่อยตัวแม่ทัพใหญ่เซี่ยว ใช้ทั้งครอบครัวมาข่มขู่เพื่อให้แม่ทัพใหญ่เซี่ยวออกไปต่อสู้กับรัฐหวา” เพราะในราชสำนักไม่มีแม่ทัพอื่นให้เรียกใช้
อันกั๋วกงผู้นั้นคงเป็นแค่พวกขี้เมาหยำเปไม่ได้เรื่อง
“อ้อ...”
“เจ้าวิ่งวุ่นอยู่ข้างนอกมาตั้งหลายวัน คงไม่ได้นอนหลับพักผ่อนอย่างเต็มที่ เดี๋ยวข้าจะกลับไปนอนในห้องเป็นเพื่อนเจ้า”
“ไม่เป็นไร”
“เจ้าบอกปัดตลอด หรือว่า...”
“ท่านอ๋องคิดไปถึงไหนแล้ว ข้าเพียงแค่หิวเท่านั้น ท่านก็รู้ว่าคนท้องมักจะหิวง่าย”
“อยากกินอะไร ข้าจะให้คนไปทำให้”
“ข้าไม่อยากกินของที่คนใช้ทำ ข้าอยากกินของที่ท่านอ๋องทำให้”
ชิงเฟิงที่อยู่ด้านนอกได้ยินแล้วถึงกับปาดเหงื่อ
ให้ท่านอ๋องทำเองน่ะหรือ
ช่างน่าขันยิ่งนัก
ฐานะของท่านอ๋องคืออะไร เขาจะไปทำอาหารให้นางกินได้อย่างไร
ทว่าเขากลับเห็นเยี่ยจิ่งหานครุ่นคิดนิดหนึ่งก่อนจะถามว่า “เจ้าอยากกินอะไร”
“ข้าวต้มปลา อยากกินข้าวต้มปลา อยากให้ท่านฆ่าปลาเองและปรุงเองด้วย นั่นจึงจะมีรสชาติของความรักและความสุข”
“ตกลง เจ้ารออยู่นี่ ข้าจะรีบไปทำมาให้” เยี่ยจิ่งหานพิจารณาอย่างลึกซึ้งถึงคำว่ารสชาติแห่งความรักและความสุข
กู้ชูหน่วนถอนหายใจอย่างโล่งอก
ในที่สุดก็เกลี้ยกล่อมปีศาจผู้นี้ออกไปได้เสียที
“ท่านอ๋อง ข้าไม่อยากเห็นหน้าชิงเฟิงกับเจี้ยงเสวี่ย สั่งให้พวกเขาออกไปด้วยสิเพคะ ข้าจะชมจันทร์และอ่านตำราอยู่ที่นี่ ไม่อยากถูกพวกหน้าโง่สองคนนี้รบกวน”
สีหน้าของชิงเฟิงและเจี้ยงเสวี่ยดูไม่ดีนัก
พวกเขาโง่ที่ไหน
คิดว่าพวกเขาชอบปรนนิบัตินางนักหรือ
นอกจากนั้น... พวกเขาแค่คอยเฝ้าอยู่ข้างนอก ถ้านางไม่สั่ง พวกเขาก็เข้าไปรบกวนนางไม่ได้
เยี่ยจิ่งหานเหลือบมองกู้ชูหน่วนอย่างครุ่นคิดนิดหนึ่ง จากนั้นจึงสั่งให้ชิงเฟิงและเจี้ยงเสวี่ยออกไป
“รอข้าอยู่ที่นี่ ข้าจะรีบกลับมา”
“รีบไปเถิดๆ” กลับมาช้าเท่าไหร่ก็ยิ่งดี
หลังจากแน่ใจว่าเยี่ยจิ่งหานออกไปแล้ว กู้ชูหน่วนจึงถอนหายใจยืดยาวอย่างขุ่นใจ จากนั้นจึงเริ่มค้นหาม้วนหนังแกะโบราณตามกล่องและชั้นต่างๆ ภายในห้องตำรา
ในห้องครัว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์
เป็นนางเอกที่นิสัยแย่ที่สุดตั้งแต่เคยอ่านมา...
คือตัวเองไม่มีเงิน แต่คิดจะเอาทุกอย่างด้วยราคาสูงเสียดฟ้า แล้วก็หาคำพูดให้คนอื่นจ่ายแทน ตัวเองหาประโยชน์จากคนใกล้ตัวแต่กลับเอาใจให้คนอื่นตลอดเนี่ยนะ...
แม่นางกู้เกินเยียวยาแล้วเด้อ 555...
เยี่ยเฟิงเป็นคนดีมาก แต่เขาทนงตัวเกินไป ชีวิตที่ผู้อื่นฝ่าฟันเพื่อแย่งชิงลมหายใจเขาไว้ แต่เขาก็ดิ้นรนกลับไปหาความตายอยู่เรื่อย...
ท่านอาจารย์พูดให้คิดดีมากเลย แต่อาหน่วนจะเข้าใจไหม นางดูมั่นหน้า มั่นใจเกิตเหตุแบบไม่สนสี่สนแปดใดใดเลย...
อยากให้กลับมาอัพเดทไวๆนะคะ ขอบคุณมากค่ะ...
สรุปเรื่องนี้มีตอนจบมั้ยค่ะ...
รอตอนจบอยู่นะคะ ใจบางไม่ไหวแล้วทรมาน...
รออัพเดทอยู่นะคะ...
เมื่อไหร่จะอัพต่อค่ะ...