“พระชายาเป็นอย่างไรบ้าง?”เยี่ยจิ่งหานกล่าวถามด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
“กราบทูลท่านอ๋อง พระชายาเหน็ดเหนื่อยจนเกินไป จิตใจเก็บกดหดหู่ซึมเศร้า บวกกับครั้งก่อนได้รับบาดเจ็บจากการระเบิด นางจะต้องพักผ่อนให้เพียงพอ และต้องไม่ทำงานหนักและวิตกกังวล มิฉะนั้น ร่างกายของนางจะได้รับผลกระทบอย่างมาก จนกระทั่งมีความกังวลถึงเรื่องชีวิตได้”
“เช่นนั้นตอนนี้ล่ะ?”
“กระหม่อมได้จ่ายเบิกยาแก่พระชายาแล้ว พักผ่อนสงบจิตสงบใจก็มิเป็นอะไรแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
เยี่ยจิ่งหานทอดถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก แล้วถามย้ำอีกว่า “เมื่อครู่เจ้าว่าอย่างไรนะ?พระชายาจิตใจเก็บกดหดหู่ซึมเศร้าหรือ?”
“พ่ะย่ะค่ะ พระชายาจิตใจหดหู่ คิดว่าน่าจะมีเรื่องราวมากมาย โรคทางใจจำเป็นต้องใช้ยาทางใจรักษา ท่านอ๋องต้องเร่งขจัดโรคทางใจของพระชายาออกด้วย ไม่อย่างนั้นเป็นอย่างนี้ต่อไป…..”
“เช่นนั้นเด็กที่อยู่ในท้องพระชายาล่ะ?”
“อันนี้….เหมือนว่าชีพจรพระชายาไม่นิ่ง กระหม่อมยังต้องติดตามอาการพ่ะย่ะค่ะ”
ชีพจรนี้ มีบ้างไม่มีบ้าง พวกเขาไม่รู้เลยว่าสรุปแล้วพระชายามีข่าวน่ายินดีหรือไม่
“ได้ ข้ารู้แล้ว ออกไปเถิด”
“พ่ะย่ะค่ะ…..”
หลังจากที่เหล่าหมอหลวงพากันออกไป เยี่ยจิ่งหานบ่นพึมพำกับตนเองว่า“เป็นเพราะข้า เจ้าเลยเป็นซึมเศร้าหดหู่ใจใช่หรือไม่?หรือว่าข้าโหดร้ายกับนางจนเกินไป?”
ชิงเฟิงเจ็บปวดหัวใจอย่างมาก
นายท่านดีต่อพระชายามาก ต่อให้ติดโคมไฟหาก็หาคนดีอย่างท่านอ๋องไม่ได้แล้ว
นายท่านโหดเหี้ยมอำมหิตกับพระชายาที่ไหนกัน?
อย่างชัดเจนคือพระชายาโหดเหี้ยมอำมหิตกับท่านอ๋อง
“กระจายคำสั่งออกไป ยกเลิกการกักบริเวณพระชายา ต่อไปดูแลพระชายาให้ดี พระชายาต้องการสิ่งใด เอาให้นางหมด ยกเว้นกลั่นยาอายุวัฒนะ”
“พ่ะย่ะค่ะ”
“ให้ทางห้องครัวทำอาหารที่พระชายาชอบ พยายามให้มีน้ำมันน้อยหน่อย”
“พ่ะย่ะค่ะ”
ภายในห้องบรรทม
เยี่ยจิ่งหานมองใบหน้าซีดเผือดที่กำลังหลับอยู่ จิตใจเกิดความรู้สึกก่อเหี่ยวเป็นอย่างมาก
มือที่เห็นกระดูกของเขาอย่างชัดเจนลูบสัมผัสใบหน้าของนางอยู่ จากนั้นกล่าวด้วยความจนปัญญาว่า“เจ้าอยากให้ข้าปฏิบัติกับเจ้าอย่างไรถึงจะดี”
เยี่ยจิ่งหานสัมผัสหน้าผากของนางโดยไม่ได้ตั้งใจและพบกับฝีมือความแข็งแกร่งของนาง
เยี่ยจิ่งหานตกใจ กล่าวขึ้นว่า“ยอดฝีมือระดับสอง เหตุใดขึ้นเร็วเช่นนี้?”
เกี่ยวกับยาอายุวัฒนะเหล่านั้นหรือไม่?
“พระชายากลั่นยาอายุวัฒนะอะไรออกมาหรือ?”
“กราบทูลท่านอ๋อง กระหม่อมไม่ทราบพ่ะย่ะค่ะ ยาอายุวัฒนะที่พระชายากลั่นเรียบร้อยแล้วล้วนเก็บไว้ในวงแหวนอวกาศพ่ะย่ะค่ะ”
“ออกไปเถิด”
คนธรรมดาจะพัฒนาทักษะได้ ยังยากกว่าการขึ้นไปบนฟ้าเลย
แต่นางเพิ่งจะใช้เวลาเท่าไหร่เอง ก็ได้ยอดฝีมือระดับสอง เป็นอย่างนี้ต่อไป นางอยากจะได้ระดับห้า ก็ไม่ใช่เรื่องยาก
มีหลายเรื่องราวที่เยี่ยจิ่งหานไม่เข้าใจ
ไม่รู้ว่ากู้ชูหน่วนลืมตาขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ นางกล่าวด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาว่า“ท่านอ๋อง ท่านมาได้อย่างไร”
นางอยากลุกขึ้น เยี่ยจิ่งหานให้นางนอนลง กล่าวว่า“ร่างกายเจ้ายังไม่แข็งแรง นอนลงเถิด ดีต่อลูกด้วย”
กู้ชูหน่วนยิ้มอย่างอบอุ่นกล่าวว่า“ท่านไม่โกรธแล้วหรือ?”
เยี่ยจิ่งหานหันศีรษะไปอีกทางด้วยความทรนง ไม่สนใจนาง
กู้ชูหน่วนทอดถอนหายใจออกมา กล่าวด้วยความเศร้าสร้อยว่า“ท่านอ๋อง ข้ารู้ตัวว่าผิดแล้ว อย่าโกรธได้ไหม?ดูสิ ตอนนี้ไม่ใช่ว่าข้าได้รับกรรมตามสนองแล้วหรือ ถูกระเบิดจนได้รับบาดเจ็บ โดยเฉพาะหน้าอก เจ็บจนหายใจไม่ออก”
เยี่ยจิ่งหานตระหนก กล่าวว่า“ทหาร เรียกหมอหลวงมา”
หมอหลวงเหล่านี้ตรวจอาการอย่างไร คิดไม่ถึงเลยว่าฮูหยินของเขาจะทุกข์ทรมานอะไรอย่างนี้?
ยังบอกกับเขาว่าพระชายาไม่เป็นอะไรอีก
กู้ชูหน่วนรู้สึกอบอุ่นหัวใจ กล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานว่า“ท่านอ๋อง ตอนนี้หม่อมฉันไม่อยากเห็นหมอหลวงเหล่านั้น อีกสักครู่ก็ดีแล้ว ท่านอย่ากังวลเลย”
นางอ่อน แน่นอนว่าเยี่ยจิ่งหานต้องอ่อนด้วย
เขาดึงผ้าห่มช่วยกู้ชูหน่วน เพื่อไม่ให้นางได้รับความเย็น
“ให้หมอหลวงตรวจสักหน่อย ข้าจะได้วางใจ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่แปลให้อ่านนะคะ อ่านถึง 1174 แล้วรอตอนต่อไปอยู่ค่ะ...
ไม่อัพจบเหรอคะ...
เป็นนางเอกที่นิสัยแย่ที่สุดตั้งแต่เคยอ่านมา...
คือตัวเองไม่มีเงิน แต่คิดจะเอาทุกอย่างด้วยราคาสูงเสียดฟ้า แล้วก็หาคำพูดให้คนอื่นจ่ายแทน ตัวเองหาประโยชน์จากคนใกล้ตัวแต่กลับเอาใจให้คนอื่นตลอดเนี่ยนะ...
แม่นางกู้เกินเยียวยาแล้วเด้อ 555...
เยี่ยเฟิงเป็นคนดีมาก แต่เขาทนงตัวเกินไป ชีวิตที่ผู้อื่นฝ่าฟันเพื่อแย่งชิงลมหายใจเขาไว้ แต่เขาก็ดิ้นรนกลับไปหาความตายอยู่เรื่อย...
ท่านอาจารย์พูดให้คิดดีมากเลย แต่อาหน่วนจะเข้าใจไหม นางดูมั่นหน้า มั่นใจเกิตเหตุแบบไม่สนสี่สนแปดใดใดเลย...
อยากให้กลับมาอัพเดทไวๆนะคะ ขอบคุณมากค่ะ...
สรุปเรื่องนี้มีตอนจบมั้ยค่ะ...
รอตอนจบอยู่นะคะ ใจบางไม่ไหวแล้วทรมาน...