“หรือว่าเยี่ยจิ่งหานจะมองดูบ้านเมืองล่มสลายหรือ เขาก็เป็นเสด็จอาของแผ่นดิน” “ใช่สิ เนื่องจากเขาเป็นเสด็จอาของแผ่นดินดังนั้นหลังจากรัฐเยี่ยล่มสลายลงแล้วเขานำกองทัพใหญ่ขับไล่ให้รัฐหวาให้ล่าถอยไป ถึงเวลานั้นเขาต้องการขึ้นครองราชบัลลังก์ก็เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลผู้ใดจะกล้าฝืนใจต่อเขา กลับเป็นเจ้าที่กลายเป็นผู้ที่ถูกทอดทิ้งผู้นี้"
จักรพรรดิเยี่ยมีคำพูดมากมายที่ทรงต้องการปิดปากนางแต่ว่าทรงหาเหตุผลที่จะปิดปากนางไม่ได้
กู้ชูหน่วนน้ำเสียงโล่งใจ "ดังนั้นพระองค์ทรงเลือกที่จะเชื่อหม่อมฉันยังดีซะกว่า หม่อมฉันรับประกันว่าเยี่ยจิ่งหานจะสามารถขับไล่รัฐหวาและปกป้องรัฐเยี่ยของเราให้ปลอดภัยเพคะ"
“เยี่ยจิ่งหานจะฟังเจ้าหรือ?”
“แน่นอนเพคะ คิดว่าฝ่าบาทก็คงจะทรงเคยได้ยินว่าท่านอ๋องตามใจหม่อมฉันเช่นไรบ้าง”
“แต่เหตุใดเจ้าถึงช่วยข้าหล่ะ?” พระองค์มักจะทรงรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติแต่หลังจากครุ่นคิดไปมาแล้วก็ทรงคิดไม่ออกว่าที่ใดผิดปกติกันแน่
"ในครรภ์ของหม่อมฉันได้ตั้งท้องบุตรของเทพแห่งสงครามไม่ใช่หรือเพคะ เมื่อไม่กี่วันก่อนหม่อมฉันฝันและฝันถึงวิญญาณของพระโพธิสัตว์กวนอิมมาเข้าฝัน พระโพธิสัตว์กวนอิมกล่าวว่าเทพแห่งสงครามได้สังหารผู้คนจำนวนมากมายและมี่พลังพิฆาตแรงเกินไป เด็กได้รับผลกระทบจากเขาและยากที่จะคลอดออกมาได้อย่างปลอดภัยเว้นแต่จะหาดวงตารูปหัวใจสวมติดกายไว้จึงจะสามารถปกปักรักษาเด็กให้ปลอดภัย หม่อมฉันคิดว่าฝ่าบาทคือโอรสมังกรแท้จริง หากว่าพระองค์ทรงช่วยค้นหาด้วยพระองค์เองเช่นนั้นหม่อมฉันก็จะสามารถค้นหาดวงตารูปหัวใจนั้นที่วิญญาณพระโพธิสัตว์กวนอิมม่เข้าฝันอย่างแน่นอนเพคะ
"แล้วพระโพธิสัตว์กวนอิมได้กล่าวหรือไม่ว่าลูกในท้องของเจ้าเป็นชายหรือหญิง"
“กล่าวเพคะ เป็นเด็กผู้หญิงเหมือนกับหม่อมฉัน”
จักรพรรดิเยี่ยถอนหายใจด้วยความโล่งอก
เป็นเด็กผู้หญิงก็ดีแล้ว หากว่าเป็นเด็กผู้ชายไม่แน่ว่าเทพแห่งสงครามอาจแย่งชิงราชบัลลังก์ให้ลูกชายของเขา
“ก็ได้ ให้ข้าช่วยตามหาดวงตารูปหัวใจก็ได้แต่เจ้าต้องช่วยถอนทัพให้กับข้าก่อน”
“กระทำทั้งสองสิ่งพร้อมกันสิเพคะเพื่อเป็นการประหยัดเวลา หม่อมฉันจะวาดดวงตารูปหัวใจให้พระองค์ทอดพระเนตร ใช่แล้วเพคะพระโพธิสัตว์กวนอิมให้หม่อมฉันตามหาดวงตารูปหัวใจนั้นหามีประวัติความเป็นมานานนับพันปีแล้วซึ่งเป็นของเก่าแก่ พระองค์อย่าได้ทรงหาสิ่งของวุ่นวายยุ่งเหยิงอันใดเป็นก่ายกองมานะเพคะ"
กู้ชูหน่วนหยิบพู่กันขึ้นแล้ววาดดวงตารูปหัวใจออกมา
"สัดส่วนต้องเท่ากันทุกประการ มากไปหนึ่งชุ่นก็ไม่ได้น้อยไปหนึ่งชุ่นก็ไม่ได้ จะต้องเหมือนกันทุกประการพอดิบพอดี"
จักรพรรดิเยี่ยทรงขมวดพระขนง “ซับซ้อนเช่นนี้เลยหรือ? ต้องมีประวัติศาสตร์นับพันปีและมีขนาดเท่าๆกัน สิ่งนี้คงหาได้ยากนัก”
“เมื่อเทียบกับผืนแผ่นดินของรัฐเยี่ยฝ่าบาททรงคิดว่าสิ่งนี้หาได้ยากหรือว่าผืนแผ่นดินรักษาเอาไว้ได้ยากเพคะ”
จักรพรรดิเยี่ยทรงหดหู่พระทัย
พูดจาเป็นชุดๆ เหตุใดเมื่อก่อนพระองค์ถึงไม่รู้ว่านางพูดจาได้แหลมคมเช่นนี้
พระองค์นำภาพวาดมาทอดพระเนตรแล้วทอดพระเนตรอีกและอดไม่ได้ที่จะทรงสงสัยว่า “น่าแปลก เหตุใดข้าถึงได้มองดวงตารูปหัวใจนี้คุ้นเคยนักนะ? มันคืออัญมณีชิ้นหนึ่งใช่หรือไม่ อัญมณีสีแดงเพลิงราวเฉกเช่นเดียวกับหินสีเลือดไก่ซึ่งแดงเสมือนเลือดไหลออกมา”
ใจกู้ชูหน่วนเต้น "ทำไม พระองค์ทรงเคยเห็นหรือเพคะ?"
“สิ่งนี้......ข้าก็จำไม่ค่อยได้แล้ว แต่ว่าเหมือนเคยเห็นตอนเด็กเนื่องจากว่ามันเป็นรูปหัวใจซึ่งรูปทรงสวยงามนักแต่ว่าแดงจนน่ากลัวยิ่งนัก ดังนั้นข้าจึงยังมีความทรงจำอยู่บ้างเล็กน้อย "
“ดวงตารูปหัวใจนี้อยู่ที่ใดเพคะ?”
“นานเกินไปแล้วข้าจำไม่ได้เสียแล้ว รู้แค่ว่าเคยเห็นเพียงครั้งเดียวตอนเด็ก”
กู้ชูหน่วนชิงภาพเหมือนนั้นกลับมาแล้วเปลี่ยนสีหน้าในทันที "ฝ่าบาทก็ทรงคิดดูให้ดี หากว่าฝ่าบาทคิดไม่ออกว่าเคยทอดพนะเนตรเห็นดวงตารูปหัวใจนี้ที่ใด หม่อมฉันก็คิดไม่ออกว่าจะให้เทพแห่งสงครามล่าถอยได้เช่นไร”
“เจ้า......นี่เจ้าข่มขู่ข้า”
“แล้วแต่พระองค์จะทรงคิดอย่างไร ไม่ว่าบ้านเมืองจะถูกทิ้งไปจริงๆก็ไม่ใช่เรื่องของหม่อมฉัน หม่อมฉันก็ยังคงกินดนอยู่ดีเช่นดังเดิม”
“กู้ชูหน่วน เจ้าบังอาจนัก”
“ใครใช้ให้หม่อมฉันเป็นชายาเสด็จอาของพระองค์ ใครใช้ให้หม่อมฉันเป็นภรรยาของเทพแห่งสงคราม ดังนั้นหม่อมฉันจึงได้บังอาจและมีความสามารถที่จะจองหอง หากพระองค์ไม่พอพระทัยก็ทรงไปหาเยี่ยจิ่งหานเลยโดยตรง”
หากมิใช่เพราะสถานะของนาง จักรพรรดิเยี่ยทรงอยากจะพระราชทานผ้าขาวผืนหนึ่งให้นางเพื่อให้นางฆ่าตัวตายอยู่ตรงนั้น
ทันใดนั้นจู่ๆพระองค์ก็ทรงกลับรู้ตัวอีกครั้ง “ดูเหมือนข้าจะจำได้แล้วเป็นองค์หญิงตังตัง ตอนเด็กที่คอขององค์หญิงตังตังสวมดวงตารูปหัวใจอยู่ซึ่งแดงเสียจนราวกับว่าเลือดจะออกเช่นนั้น หลายๆคนหัวเราะเยาะนาง ภายหลังองค์หญิงตังตังโมโหจึงไม่ยอมสวมสร้อยเส้นนั้นอีกเลย หลังจากนั้นก็ไม่มีใครเคยเห็นอีกเลย”
“ดังนั้นความหมายของพระองค์คือดวงตารูปหัวใจอยู่กับที่องค์หญิงตังตัง?”
“น่าจะใช่นะ แต่ว่าด้วยนิสัยขององค์หญิงตังตัง สิ่งของที่นางไม่ชอบก็คงจะทิ้งไปเลย สร้อยเส้นนั้นก็ไม่รู้ว่าถูกนางโยนทิ้งไปหรือเปล่า”
“วันนี้เป็นวันพิธีก้าวผ่านวัยเยาว์ขององค์หญิงตังตังใช่ไหม?”
"ใช่......ใช่สิ"
"ไป พวกเราไปดูกัน"
“เมื่อครู่เจ้าไม่ได้บอกว่าเพียงแค่ข้าช่วยเจ้าตามหาดวงตารูปหัวใจพบ เจ้าก็จะช่วยล่าถอยทัพให้ข้าไม่ใช่หรือ?”
“ใช่สิ หม่อมฉันเคยกล่าว แต่ว่าตอนนี้พระองค์ยังช่วยหม่อมฉันหาไม่พบไม่ใช่หรือ หาให้พบก่อนค่อยว่ากัน”
“แต่ว่า.......เฮ้อ......เจ้าปล่อยมือ ข้าเป็นถึงจักรพรรดิแห่งรัฐเยี่ยซึ่งเป็นที่เคารพสูงสุด เจ้าดึงคอเสื้อของข้าเช่นนี้แล้วข้าจะเอาหน้าไปไว้ที่ใด?”
"เสียงขีดข่วน"
“ปล่อยมือ กู้ชูหน่วน ข้าสั่งให้เจ้าปล่อยมือ”
ไม่ว่าจักรพรรดิเยี่ยจะดิ้นรนเช่นไรก็ราวกับเด็กซึ่งถูกกระชากคอเสื้อไปทางด้านหน้า
ตลอดทางนางกำนัลและองครักษ์หลายคนก็ได้เห็นกันหมดแล้ว เพียงแต่ไม่มีใครกล้าออกเสียง แต่ละคนคุกเข่าก้มหมอบศีรษะลงและหวาดกลัวจนเนื้อตัวสั่นสะท้าน
พระชายาหานก็ไม่ไว้หน้าฝ่าบาทเลย
ในวังหลวงก็กล้าปฏิบัติต่อฝ่าบาทเช่นนี้
อีกด้านหนึ่งของอุทยานอวี้ฮวา ที่นั่นร่ายรำทำเพลงเสียงดนตรีกระทบครื้นเครงไปครึ่งวังหลวง
เหล่าเสนาบดีไม่น้อยหลายพาภริยาและธิดาร่วมพิธีก้าวผ่านวัยเยาว์ขององค์หญิงตังตัง แต่ละคนพูดคุยหัวเราะเฮฮากัน
แต่ที่มากที่สุดคือทั้งหมดชื่นชมความสวยสดดีงามขององค์หญิงตังตัง กล่าวจนองค์หญิงตังตังหัวเราะรื่นเริงอย่างมีความสุขออกมาเลยโดยตรง
พระพันปีประทับนั่งอยู่ที่นั่งหลักที่สองโดยทร่ปรากฏรอยยิ้มอันมีความสุขทั่วใบหน้า
องค์หญิงตังตังก็ไม่รู้ว่ากำลังพูดคุยสิ่งใดกับผู้ใดอยู่โดยที่หัวเราะรื่นเริงออกมาเป็นครั้งคราว
ที่นี่สนุกสนานรื่นเริงกัน ด้วยคำพูดของขันทีประโยคหนึ่งได้ขัดจังหวะขึ้นมา
“ฝ่าบาทเสด็จแล้ว พระชายาหานเสด็จแล้ว”
สีหน้าขององค์หญิงตังตังเปลี่ยนไปในทันที
ฝ่าบาทไม่ได้มีอันใดแต่ว่ากู้ชูหน่วนมาทำสิ่งใดที่นี่?
วันนี้เป็นพิธีก้าวผ่านวัยเยาว์ของพรองค์ซึ่งพระองค์ไม่ได้เชิญนาง
“กระหม่อมถวายบังคมฝ่าบาทขอพระองค์ทรงพระเจริญหมื่นปีหมื่นปีหมื่นหมื่นปี พระชายาหานพันหนึ่งพันปีพันพันปี”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์
เป็นนางเอกที่นิสัยแย่ที่สุดตั้งแต่เคยอ่านมา...
คือตัวเองไม่มีเงิน แต่คิดจะเอาทุกอย่างด้วยราคาสูงเสียดฟ้า แล้วก็หาคำพูดให้คนอื่นจ่ายแทน ตัวเองหาประโยชน์จากคนใกล้ตัวแต่กลับเอาใจให้คนอื่นตลอดเนี่ยนะ...
แม่นางกู้เกินเยียวยาแล้วเด้อ 555...
เยี่ยเฟิงเป็นคนดีมาก แต่เขาทนงตัวเกินไป ชีวิตที่ผู้อื่นฝ่าฟันเพื่อแย่งชิงลมหายใจเขาไว้ แต่เขาก็ดิ้นรนกลับไปหาความตายอยู่เรื่อย...
ท่านอาจารย์พูดให้คิดดีมากเลย แต่อาหน่วนจะเข้าใจไหม นางดูมั่นหน้า มั่นใจเกิตเหตุแบบไม่สนสี่สนแปดใดใดเลย...
อยากให้กลับมาอัพเดทไวๆนะคะ ขอบคุณมากค่ะ...
สรุปเรื่องนี้มีตอนจบมั้ยค่ะ...
รอตอนจบอยู่นะคะ ใจบางไม่ไหวแล้วทรมาน...
รออัพเดทอยู่นะคะ...
เมื่อไหร่จะอัพต่อค่ะ...