กู้ชูหน่วน “...”
จอมมารยิ้มเยาะ “พี่หญิง ท่านบอกเขาไปสิว่าข้าไม่ใช่ใครที่ไหน ข้าคือเจ้าแห่งเผ่าปีศาจ ซือม่อเฟย”
ทันทีที่เขาพูดประโยคนี้ ผู้คนที่กำลังเฝ้าดูเรื่องตื่นเต้นเมื่อครู่ก็แย่งกันหลบออกมา ราวกับว่าคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าคือจอมปีศาจผู้ยิ่งใหญ่
กู้ชูหน่วนมองบนพื้นที่เต็มไปด้วยรองเท้าหลายแบบอย่างเลื่อนลอย
คนพวกนี้ต้องเล่นใหญ่ขนาดนี้เลยเรอะ
ต่อให้เขาเป็นจอมมารก็ไม่เห็นต้องกลัวขนาดนี้เสียหน่อย
จอมมารเอ่ยอย่างโอ้อวดว่า “ดูสิ ชื่อเสียงของข้าเลื่องลือไปทั่วหล้า”
เยี่ยจิ่งหานยิ้มเยาะ “ชื่อเสียงอื้อฉาวนะสิ”
กู้ชูหน่วนแทรกไปว่า “นี่ พวกท่านคุยกันไปก่อนแล้วกัน ข้ายังมีเรื่องต้องทำ ขอตัวก่อนละ”
“หยุดอยู่ตรงนั้น”
เยี่ยจิ่งหานกับจอมมารตะโกนขึ้นพร้อมกัน
กู้ชูหน่วนระงับความไม่พอใจเอาไว้และฉีกยิ้มอย่างเสแสร้ง “นายท่านทั้งสองมีอะไรจะสั่งเสียอีกเจ้าคะ”
“พี่หญิง ข้าจะแต่งงานกับท่านนะ” จอมมารยิ้มยิงฟัน เป็นรอยยิ้มที่ใสสะอาดราวกับแก้วภูเขาไฟ*
คำตอบที่จอมมารได้รับคือกำปั้นของเยี่ยจิ่งหาน
ปึ่งๆๆ
ฝ่ามือทั้งสองปะทะกัน ต้นไม้อายุนับร้อยปีที่อยู่ไม่ไกลจากตรงนั้นสั่นไหวอย่างรุนแรงจนกระทั่งถูกถอนรากถอนโคน ตกลงกระแทกพื้นเสียงโครมคราม
“ผู้หญิงของข้า เจ้าไม่มีสิทธิ์ยุ่ง”
น้ำเสียงของเยี่ยจิ่งหานแฝงไปด้วยความโกรธ ฝ่ามือหนึ่งแข็งแกร่งกว่าอีกฝ่ามือหนึ่ง
จอมมารหลบเลี่ยงได้อย่างสง่างาม ร่างสีแดงเพลิงเหมือนปีศาจ เคลื่อนตัวไปมาอยู่หน้าประตูวัง บางครั้งบางคราวก็นำดอกลำโพงออกมา
ดอกลำโพงสวยงามเพริศพรายราวกับเป็นดอกไม้ที่งดงามที่สุดในโลก แต่ถ้าหากร่างกายสัมผัสกับดอกลำโพง ร่างกายจะเหี่ยวเฉาจนเหลือแต่กระดูกในทันที
ตู้ม!
ดินทรายและก้อนหินที่พระราชวังชิวเฟิงปลิดปลิว เงาดำเคลื่อนไหววูบวาบ
เหล่าข้ารับใช้ล่าถอยออกไปอีก บางคนถูกลูกหลงจนบาดเจ็บหรือไม่ก็ตายคาที่
กู้ชูหน่วนกระตุกมุมปาก นางกลอกตาให้พวกเขาก่อนจะเดินว่างท่ากลับไปที่พระราชวัง
ชิงเฟิงคิดว่ากู้ชูหน่วนจะกลับไปแยกตัวหมอนั่นออกเพื่อช่วยนายท่านของเขา แต่ไม่คิดว่ากู้ชูหน่วนจะผล็อยหลับไปเริ่มหายใจอย่างสม่ำเสมอ
เขานึกโกรธขึ้นมา
“พระชายา พิษเหมันต์ของนายท่านกำเริบ ร่างกายได้รับบาดเจ็บสาหัส นอกจาก... นอกจากนี้ยังสูญเสียวรยุทธไปมาก เป็นเรื่องยากที่นายท่านจะรับมือกับจอมมารในเวลานี้”
“พระชายา ท่านฟังข้าอยู่หรือไม่”
กู้ชูหน่วนเอ่ยอย่างรำคาญว่า “บ่นอะไรของเจ้า ข้าง่วง”
“นายท่านยังต่อสู้กับจอมมารอยู่ข้างนอกนะพ่ะย่ะค่ะ”
“ถ้าชอบการต่อสู้มากนักก็ปล่อยให้เขาสู้ไป ยังไงก็ฆ่าไม่ตายหรอกน่า” อย่าคิดว่านางไม่รู้ว่าที่พระราชวังชิวเฟิงแห่งนี้เต็มไปด้วยผู้มีฝีมือมากมาย
คนที่จะเสียผลประโยชน์เกรงว่าจะมีแค่ซือม่อเฟย
ไม่ว่าทักษะการต่อสู้ของซือม่อเฟยจะสูงส่งแค่ไหน แต่ที่นี่คืออาณาเขตของเยี่ยจิ่งหาน
นอกจากนี้เยี่ยจิ่งหานเป็นเจ้าบ้านที่จะถูกเอาเปรียบได้เสียที่ไหน
“นายท่านต่อสู้กับจอมมารเพื่อนท่าน ท่านจะนอนหลับอย่างสงบสุขเช่นนี้ได้อย่างไร”
กู้ชูหน่วนเลิกผ้าห่มและหาวหนึ่งฟอด เอ่ยอย่างเฉื่อยชาว่า “ชิงเฟิง นี่ไม่ใช่นิสัยเจ้า ลองบอกสิมาว่าทำไมข้าต้องไปดูการต่อสู้ พวกเจ้ากำลังพยายามทำอะไร”
ดวงตาของชิงเฟิงเป็นประกาย เขาไม่กล้ามองกู้ชูหน่วนที่อยู่ในห้องตรงๆ และพูดอึกอักว่า “กระหม่อมเพียงแต่เสียใจแทนนายท่าน นายท่านกำลังต่อสู้อยู่ข้างนอก แต่พระชายากลับไม่แยแส ทำให้นายท่านผิดหวังเป็นอย่างมาก”
กู้ชูหน่วนยิ้มเยาะ
นี่มันความคิดของไอ้บ้าตัวไหน?
ให้นางไปให้กำลังใจ แล้วจากนั้นยังไงต่อ ให้นางไปเข้าแถวงั้นเหรอ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์
เป็นนางเอกที่นิสัยแย่ที่สุดตั้งแต่เคยอ่านมา...
คือตัวเองไม่มีเงิน แต่คิดจะเอาทุกอย่างด้วยราคาสูงเสียดฟ้า แล้วก็หาคำพูดให้คนอื่นจ่ายแทน ตัวเองหาประโยชน์จากคนใกล้ตัวแต่กลับเอาใจให้คนอื่นตลอดเนี่ยนะ...
แม่นางกู้เกินเยียวยาแล้วเด้อ 555...
เยี่ยเฟิงเป็นคนดีมาก แต่เขาทนงตัวเกินไป ชีวิตที่ผู้อื่นฝ่าฟันเพื่อแย่งชิงลมหายใจเขาไว้ แต่เขาก็ดิ้นรนกลับไปหาความตายอยู่เรื่อย...
ท่านอาจารย์พูดให้คิดดีมากเลย แต่อาหน่วนจะเข้าใจไหม นางดูมั่นหน้า มั่นใจเกิตเหตุแบบไม่สนสี่สนแปดใดใดเลย...
อยากให้กลับมาอัพเดทไวๆนะคะ ขอบคุณมากค่ะ...
สรุปเรื่องนี้มีตอนจบมั้ยค่ะ...
รอตอนจบอยู่นะคะ ใจบางไม่ไหวแล้วทรมาน...
รออัพเดทอยู่นะคะ...
เมื่อไหร่จะอัพต่อค่ะ...