รอนางตื่นมาอีกครั้งได้เข้าไปที่หุบเขาตันหุยแล้ว
จอมมารนั่งอยู่ในเกี้ยวตลอด มองใบหน้านางที่หลับสนิทอยู่
กู้ชูหน่วนลืมตาขึ้นช้าๆกล่าวว่า“ที่นี่คือที่ไหนหรือ?”
“หุบเขาตันหุย”
“ข้าหลับนานแค่ไหนแล้ว?”
“สองชั่วยามเท่านั้นเอง”
กู้ชูหน่วนออกจากเกี้ยว เท่าที่มองเห็นเป็นห้องทั่วไปห้องหนึ่ง วางเกี้ยวไว้ตามลำดับอยู่จำนวนสิบกว่าเกี้ยว
ด้านนอกห้องมีแสงไฟมากมาย เหล่าลูกศิษย์ของหุบเขาตันหุยกำลังพากันตรวจลาดตะเวน
หุบเขาตันหุยใหญ่มาก มีพระตำหนักเชื่อมต่อกัน ยอดของพระตำหนักทุกแห่งจะมีผังปรากฏการณ์ของจักรวาลอินหยาง
“โครกคราก”
ไม่รู้ว่าท้องของใครร้องดังขึ้น
จอมมารเหลือบมองที่ท้องของนาง ยิ้มและกล่าวว่า“ท่านพี่หญิงน่าจะหิวแล้ว ข้าจะไปหาของกินให้ท่านนะ”
“ได้ เดินทางระวังด้วย อย่าทำให้คนของหุบเขาตันหุยตกใจล่ะ”
“รู้แล้ว ท่านพี่หญิงสงบจิตสงบใจรออยู่ที่นี่นะ ไม่นานข้าจะกลับมา”
จอมมารฉีกยิ้ม และมันเป็นยิ้มที่บริสุทธิ์มาก
เห็นเพียงแสงสีขาวแฉลบผ่าน ตรงหน้าจะยังมีร่างตำแหน่งที่อยู่ของจอมมารที่ไหนกัน
กู้ชูหน่วนกล่าวว่า“เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ เจ้าไปสำรวจภูมิประเทศของหุบเขาตันหุยดู จากนั้นกลับมาเล่าให้ข้าฟัง ข้าจะได้วาดภาพแผนที่ ดูว่าที่ไหนจะค่อนข้างมีความหวังว่าจะหากุญแจรูปดาวเจอ”
สิ่งที่ตอบกลับกู้ชูหน่วนมีเพียงความเงียบว่างเปล่า
กู้ชูหน่วนก้มศีรษะลงมองข้อมือตนเอง
แต่ทว่าบนข้อมือของตนเองกับเปลือยเปล่า ไม่มีอะไรเลย
เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ล่ะ?
แวบไปที่แห่งไหนอีกแล้ว?
ไม่ใช่ร่วงระหว่างเดินทางหรอกนะ หรือว่าเนิบนาบไปหาของกินแล้ว
กู้ชูหน่วนกระอักเลือด
เมื่อก่อนตอนอยู่จวนหานอ๋อง มันมักจะแอบชอบไปโขมยกินเนื้อในห้องครัวช่วงเวลากลางดึก
จวนหานอ๋องรู้ว่าเป็นสัตว์เลี้ยงของนาง ทุกคนต่างหลิ่วหูหลิ่วตาปล่อยมัน
แต่ที่นี่คือหุบเขาตันหุย ถูกจับได้จริงผู้ใดจะออมมือแก่มัน ต่อให้เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์หนีไว ก็จะต้องทำให้คนของหุบเขาตันหุยกู่ตกใจได้อย่างแน่นอน
รออยู่ห้องได้สักพักหนึ่ง เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ไม่กลับมา จอมมารก็เช่นกัน
พอมองท้องฟังยิ่งมืดขึ้นเรื่อยๆ กู้ชูหน่วนจึงนั่งไม่ติดแล้ว
เพียงแค่หาของกิน จะต้องไปถึงสองชั่วยามเชียวหรือ วนรอบหุบเขาตันหุยหนึ่งรอบก็ควรจะกลับมาได้แล้ว
กู้ชูหน่วนผลักประตูออกไป ถือโอกาสตอนฟ้ามืด แอบเดินไปทางห้องครัว เพื่ออยากจะหาจอมมารและเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ให้เจอก่อน
หุบเขาตันหุยใหญ่มาก นางเห็นมีทหารอารักขาตรวจสอบลาดตระเวนอีกหนึ่งชุดเดินมา
สถานการณ์คับขัน นางเลยเขาไปแอบอยู่ในตำหนักหนึ่งที่อลังการสวยงาม
“แคร็ก…..”
เพิ่งจะหลบได้ ก็มีคนผลักประตู จากนั้นได้มีน้ำเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้น
“ผู้นำแห่งหุบเขา ไม่รู้ว่าดึกดื่นอย่างนี้ ท่านมาหาข้ามีเรื่องอะไรหรือ?”
น้ำเสียงนี้ เหตุใดถึงได้คุ้นหูนัก?
มันเหมือนกับว่าเป็นน้ำเสียงของน่าหลานหลิงลั่วเลย
กู้ชูหน่วนยืดคอขึ้นเล็กน้อย เป็นอย่างที่คิดคนที่พูดคุยอยู่ตรงหน้า ไม่ใช่น่าหลานหลิงลั่วแล้วจะเป็นใครไปได้
นอกจากน่าหลานหลิงลั่ว ยังมีชายวัยกลางคนผู้หนึ่ง
ชายวัยกลางคนรูปร่างสูง บรรยากาศรอบตัวของเขาโอบล้อมไปด้วยความพาลและการยกตนข่ม พอมองแล้วรู้เลยว่าไม่ใช่คนธรรมดา
“ได้ยินว่าพ่อของเจ้าได้รับปากเรื่องการแต่งงานของเจ้า หญิงสาวผู้นั้นเป็นคนที่เก่งกาจมีความสามารถ เป็นคนที่มีชื่อเสียงอยู่ในเมืองหลวง”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์
เป็นนางเอกที่นิสัยแย่ที่สุดตั้งแต่เคยอ่านมา...
คือตัวเองไม่มีเงิน แต่คิดจะเอาทุกอย่างด้วยราคาสูงเสียดฟ้า แล้วก็หาคำพูดให้คนอื่นจ่ายแทน ตัวเองหาประโยชน์จากคนใกล้ตัวแต่กลับเอาใจให้คนอื่นตลอดเนี่ยนะ...
แม่นางกู้เกินเยียวยาแล้วเด้อ 555...
เยี่ยเฟิงเป็นคนดีมาก แต่เขาทนงตัวเกินไป ชีวิตที่ผู้อื่นฝ่าฟันเพื่อแย่งชิงลมหายใจเขาไว้ แต่เขาก็ดิ้นรนกลับไปหาความตายอยู่เรื่อย...
ท่านอาจารย์พูดให้คิดดีมากเลย แต่อาหน่วนจะเข้าใจไหม นางดูมั่นหน้า มั่นใจเกิตเหตุแบบไม่สนสี่สนแปดใดใดเลย...
อยากให้กลับมาอัพเดทไวๆนะคะ ขอบคุณมากค่ะ...
สรุปเรื่องนี้มีตอนจบมั้ยค่ะ...
รอตอนจบอยู่นะคะ ใจบางไม่ไหวแล้วทรมาน...
รออัพเดทอยู่นะคะ...
เมื่อไหร่จะอัพต่อค่ะ...