กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ นิยาย บท 543

พื้นดินสั่นสะเทือนเป็นหลุมลึกหลายหลุมอีกครั้ง ซึ่งแต่ละหลุมยังมีความลึกมากกว่าเกือบเท่าตัวคน

หลังคาของคานแกะสลักและเรือนจิตรกรรมฝาผนังที่อยู่ไกลออกไปก็ได้รับความเสียหาย และแม้แต่สิงโตยักษ์ที่ทางเข้าห้องโถงก็กลายเป็นฝุ่นผงภายใต้ฝ่ามือของพวกเขา

นี่เป็นการเรียนรู้จุดแข็งจุดอ่อนของศิลปะการต่อสู้หรือ?

เห็นได้ชัดว่านี่คือการไล่ล่าฆ่าฟันอย่างดุเดือดชัดๆ

ฮวาฉี่หลัวดึงแขนเสื้อของไป๋จิ่นและเอามือเท้าคางพูดออกมาว่า "ท่านพี่ไป๋จิ่น ท่านคิดว่าท่านพี่กู้ดีกับเผ่าเพลิงฟ้ามากกว่า หรือว่าดีกับเผ่าหยกมากกว่าหรือ?"

ไป๋จิ่นไม่พูดอะไร แต่สายตาเมื่อมองไปยังเผ่าเพลิงฟ้านั้นกลับเป็นสายตาที่ไม่เป็นมิตรและไม่หวังดี

แต่สายตาที่ไม่เป็นมิตรนั้นได้หายไปอย่างรวดเร็ว เร็วจนแทบไม่ทันได้ตั้งตัว

น้ำเสียงของนางราบเรียบ ราวกับไม่ได้มีความสนใจอะไร "ไม่ต้องยุ่งเรื่องไร้สาระนี้หรอก"

"......"

ไป๋จิ่นกลอกตาใส่ฮวาฉี่หลัว

นางแทบอดไม่ได้ที่อยากให้ทุกคนได้รับรู้ความสัมพันธ์ของกู้ชูหน่วนและพวกนางเช่นนั้นเลยหรือ?

สีชิ่นหยิบกระจกเล็กๆ ขึ้นมาอย่างเกียจคร้านและมองดูการแต่งหน้าอันละเอียดอ่อนบนใบหน้าของนาง ท่าทางของนางเต็มไปด้วยเสน่ห์อันเป็นธรรมชาติ นางยิ้มและกล่าวว่า "ท่านผู้นำหุบเขาน่าหลาน งานการชุมนุมแบ่งปันยาอายุวัฒนะของหุบเขาตันหุยช่างสนุกสนานครึกครื้นยิ่งนัก ไม่เพียงแค่ได้รับชมวิธีการปรุงยาเล่นแร่แปรธาตุของเหล่านักปรุงยาเท่านั้น แถมยังได้รับชมศิลปะการต่อสู้ของผู้มีฝีมือสูงส่งที่หาตัวจับยากอีกด้วย"

ผู้นำแห่งหุบเขาน่าหลานยิ้มอย่างอับอายและพูดไม่ออก

เขาหวังเพียงแค่ให้คนเหล่านี้ประนีประนอมให้กันบ้างเท่านั้น และอย่างได้ทำให้หุบเขาตันหุยของพวกเขาถล่มทลายลงก็พอแล้ว

ทุกคนต่างพากันมองไปที่เหล่านักปรุงยาทั้งหลายที่กำลังทำการกลั่นยา จากนั้นมองไปที่เยี่ยจิ่งหานและจอมมารที่กำลังต่อสู้อยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือ และมองไปที่เผ่าเพลิงฟ้าและเผ่าหยก พวกเขารู้สึกตาลายอย่างมาก

ทั้งสามแห่งนี้ ไม่ว่าแห่งใดก็ล้วนต่างสะดุดตา และไม่สามารถพบเห็นได้ในวันปกติทั่วไป พวกเขาอดไม่ได้ที่จะจดจ่อกับทุกสิ่งตลอดเวลาและไม่ยอมพลาดแม้แต่นิดเดียว

เพียงแต่การต่อสู้ของยอดฝีมือที่สูงส่งนั้นรวดเร็วเหลือเกิน เร็วจนมองไม่เห็นว่าคนเหล่านี้เคลื่อนไหวอย่างไร

"ตู้มๆๆ......"

หลังจากเสียงที่ดึงกึกก้องนี้ พระตำหนักแห่งหนึ่งก็ถล่มพังทลายลงมา หัวใจของผู้นำแห่งหุบเขาเจ็บปวดอย่างมาก

เขากลัวว่าการต่อสู้ครั้งนี้จะส่งผลกระทบต่อคนอื่น ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงออกคำสั่ง "เปิดการทำงานของค่ายกลอาคมแยกตัว"

ค่ายกลอาคมแยกตัวนี้ตั้งอยู่ตรงกลางสนามต่อสู้เพื่อป้องกันการทำลายล้างที่จะกระทบไปยังบริเวณอื่น

พลังภายนอกตาข่ายป้องกันจะไม่กระทบไปยังผู้คนภายในตาข่ายป้องกัน

และนี่ก็เป็นหนึ่งในค่ายกลชั้นสูงของหุบเขาตันหุยของพวกเขา โดยปกติแล้วหากไม่ถึงขั้นวิกฤติร้ายแรงของหุบเขาตุนหุยละก็ จะมีการใช้งานน้อยอย่างมาก

หุบเขาตันหุยไม่ได้ใช้งานสิ่งนี้มาเป็นเวลากว่าร้อยปีแล้ว

และการเปิดการใช้งานในครั้งนี้นั้น เป็นเพราะเกรงว่าแขกผู้มีเกียรติที่เขาเชิญมานั้นจะต่อสู้กันอย่างดุเดือดเกินไป และส่งผลกระทบถึงผู้คนที่อยู่ที่นี่

เมื่อพูดไปแล้วก็เป็นเรื่องน่าตลกขบขันเหลือเกิน

ลูกศิษย์ของหุบเขาตันหุยรับคำสั่งไปปฏิบัติและเปิดการใช้งานค่ายกล โดยจัดตั้งตาข่ายป้องกันโปร่งใสไว้ตรงกลางสนามการต่อสู้

ขณะที่กำลังเปิดการทำงานตาข่ายโปร่งใสนั้น ลูกไฟขนาดใหญ่ก็กระแทกลงมาอย่างแรง

ลูกไฟมีขนาดใหญ่มากประมาณหนึ่งเมตร และมีพลังแห่งสายฟ้าอยู่ในนั้น

ทุกคนต่างพากันตกใจกลัว

ลูกไฟนี้มีพลังการสังหารที่อัดแน่นและดุร้ายอย่างมาก หากถูกโยนเข้าใส่ละก็ เกรงว่าชีวิตนี้ก็อาจจบสิ้นลง

มีบางคนที่หวาดกลัวรีบลุกขึ้นและพากันหาที่หลบซ่อน

สถานการณ์ตอนนี้วุ่นวายไปหมด

แม้แต่ฮวาฉี่หลัวก็ตื่นตระหนกเช่นกัน

"โห พลังการทำลายล้างช่างยิ่งใหญ่เหลือเกิน ท่านพี่ไป๋จิ่น ฝีมือการต่อสู้ของคนนี้ไม่ด้อยไปกว่าท่านเลย"

ท่ามกลางความหวาดกลัว โชคดีที่เปิดการทำงานของค่ายกลแยกตัว เช่นนั้นก็ไม่รู้ว่าลูกไฟนั่นจะฆ่าคนไปมากเพียงใด

"ตู้มๆ.......ปังๆ......"

มีลูกไฟจำนวนมากถูกโยนออกมาอีกครั้ง

หัวใจของทุกคนสั่นสะท้าน

มีบางคนพูดขึ้นมาด้วยเสียงสั่นคลอน "ท่านผู้นำแห่งหุบเขาน่าหลาน ค่ายกลนี้มีความมั่นคงหรือไม่?"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์