กู้ชูหน่วนยกกำปั้นขึ้นและหันไปทางผู้เฒ่าที่ปกปิดใบหน้าและยิ้ม "ข้าน้อยกู้ชูหน่วน ขอบคุณท่านผู้อาวุโสที่เข้ามาช่วยเหลือ ไม่ทราบว่าท่านผู้อาวุโสคือ......"
"ข้าน้อยคารวะท่านผู้นำนิกายขอรับ"
เสียงที่เป็นระเบียบเรียบร้อยและทรงพลังดังก้องกังวาน
กู้ชูหน่วนโซเซเกือบจะยืนไม่มั่นคงและมองไปอย่างสับสนงุนงงที่ชายปกปิดใบหน้าที่คุกเข่าลง
"ผู้นำ......ผู้นำนิกาย......"
ผู้นำนิกายอะไร?
ผู้นำนิกายเทพอสูรหรือ?
ผู้เฒ่าที่ปกปิดใบหน้าถอดผ้าคลุมใบหน้าออกและเผยให้เห็นใบหน้าที่เป็นมิตร เขาน่าจะอายุเกินหกสิบปี แต่ร่างกายยังแข็งแรงดี การเคลื่อนไหวก็คล่องแคล่วฉับไวและกิริยาท่าทางของเขาก็ดีสง่างาม เมื่อเห็นก็รู้ได้ทันทีว่าเขาเป็นยอดฝีมือและยังเป็นหัวหน้าในตำแหน่งสูงมาเป็นเวลานาน
ผู้เฒ่ายิ้มและกล่าวว่า "ท่านผู้นำนิกาย ท่านลืมไปแล้วหรือ ข้าคือผู้เฒ่าสวี ประมุขชิงแห่งนิกายเทพอสูร ข้าและประมุขชิงเป็นหนึ่งในประมุขที่ที่เคียงบ่าเคียงไหล่กันมาตลอด"
จอมมารที่เปลี่ยนเสื้อผ้าสะอาดเรียบร้อยปรากฏตัวออกมา "ท่านมีกี่สถานะตัวตนกันแน่?"
ถึงแม้ว่าเยี่ยจิ่งหานจะไม่สามารถพูดออกมาได้ แต่เขากลับใช้สายตาส่งสัญญาณจ้องมองไปที่นาง ราวกับเขากำลังถามนางด้วยความสงสัยว่ายังมีอีกกี่สถานะตัวตน บอกมาให้หมด
กู้ชูหน่วนรู้สึกเกร็ง "ข้าสาบานได้ นอกเหนือจากอีกหนึ่งสถานะตัวตนที่ข้ามีอยู่นั้น ก็ไม่มีอีกแล้ว"
"สถานะตัวตนอะไรหรือ?"
"เอ่อ......สถานะตัวตนนี้ ข้าไม่อาจบอกได้ พวกเจ้ารู้แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว"
เยี่ยจิ่งหานและจอมมารต่างก็สงสัย
ไม่อาจบอกได้?
สถานะตัวตนมากมายต่างก็เปิดเผยออกมาแล้ว ยังมีสถานะตัวตนไหนที่ไม่อาจเปิดเผยได้?
หรือว่าสถานะตัวตนที่นางบอกจะหมายถึงพระชายาของเขา (นายหญิงของจอมมาร)?
เยี่ยจิ่งหานและจอมมารยิ่งคิดก็รู้สึกว่ายิ่งมีความเป็นไปได้
มีเยี่ยจิ่งหาน (จอมมาร) อยู่ ฉะนั้นนางจึงไม่กล้าพูดออกมาโดยตรง
คำพูดของจอมมารค่อนข้างจิกกัด "พี่หญิง ท่านปกปิดข้าจนน่าสงสาร"
กู้ชูหน่วนเบะปากและเบื่อหน่ายที่จะสนใจพวกเขาทั้งสองคน และไม่สนใจที่จะไปคาดเดาว่าพวกเขาทั้งสองคนกำลังคิดอะไร นางเพียงแค่ประคองผู้เฒ่าสวีลุกขึ้นยืน
"ก่อนหน้านี้สมองของข้าได้รับการกระทบกระเทือน มีหลายเรื่องราวที่ข้าจำไม่ได้แล้ว หากพวกเจ้าจำคนผิดละก็ เช่นนั้นอย่าโทษข้าก็แล้วกัน" ในขณะเดียวกันกู้ชูหน่วนก็หันไปมองไป๋จิ่นและสีชิ่น
"ท่านผู้นำนิกายพูดเหลวไหล บนโลกนี้นอกจากท่านแล้ว ใครยังจะสามารถมาเป็นผู้นำนิกายของนิกายเทพอสูรของพวกเราได้อีก"
"ท่านหัวหน้าเผ่า ไป๋จิ่นไม่มีทางจำคนผิดอย่างแน่นอน ท่านวางใจได้"
ถึงแม้ว่าสีชิ่นจะไม่พูดอะไร แต่มุมปากของนางก็เผยถึงรอยยิ้มและเห็นว่ากู้ชูหน่วนเป็นราวกับเทพเจ้า
"ในเมื่อพวกเจ้าเป็นคนของนิกายเทพอสูร เช่นนั้นแล้วพวกเจ้าปรากฏตัวขึ้นที่เผ่าเพลิงฟ้าได้อย่างไรหรือ?"
"ท่านผู้นำนิกาย ข้าน้อยปกปิดชื่อแซ่จริงและใช้ชีวิตอยู่ในเผ่าเพลิงฟ้ามากว่าห้าสิบปีแล้ว คนเหล่านี้ก็อยู่ในเผ่าเพลิงฟ้ามาตั้งแต่เกิด เมื่อสิบปีก่อน พวกข้าบังเอิญมาพบกับเส้นทางลับนี้ขึ้น จากนั้นจึงแอบส่งคนมาจัดการเพื่อให้ใช้งานได้ เพื่อเกรงว่าจะมีสักวันหนึ่งที่ท่านผู้นำนิกายแอบบุกรุกเข้ามายังเผ่าเพลิงฟ้าและไม่สามารถหลบหนีออกไปได้ โชคดีที่เส้นทางลับนี้ถึงเวลาได้ใช้ประโยชน์เสียที"
"ปกปิดชื่อแซ่จริงมากว่าห้าสิบปี?"
"ใช่ เผ่าเพลิงฟ้าและนิกายเทพอสูรของพวกเรามีความเกลียดแค้นที่ไม่อาจประนีประนอมกันได้ ตอนที่อดีตท่านผู้นำนิกายอายุยังน้อยนั้นก็ได้สั่งการวางแผนเรื่องทั้งหมด"
"เช่นนั้นแล้วพวกเจ้ารู้เรื่องของเผ่าเพลิงฟ้ามากน้อยเพียงใด?"
"เผ่าเพลิงฟ้ามีความลับมากมาย ถึงแม้ว่าข้าจะอยู่อาศัยที่นี่มากว่าห้าสิบปี มีสถานที่หลายแห่งที่ข้าไม่อาจเข้าไปได้ หากต้องการกำจัดเผ่าเพลิงฟ้า เกรงว่าจะเป็นเรื่องที่ยากลำบากพอสมควร"
ผู้เฒ่าสวีกวาดสายตาไปยังเยี่ยจิ่งหานและจอมมาร แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์
เป็นนางเอกที่นิสัยแย่ที่สุดตั้งแต่เคยอ่านมา...
คือตัวเองไม่มีเงิน แต่คิดจะเอาทุกอย่างด้วยราคาสูงเสียดฟ้า แล้วก็หาคำพูดให้คนอื่นจ่ายแทน ตัวเองหาประโยชน์จากคนใกล้ตัวแต่กลับเอาใจให้คนอื่นตลอดเนี่ยนะ...
แม่นางกู้เกินเยียวยาแล้วเด้อ 555...
เยี่ยเฟิงเป็นคนดีมาก แต่เขาทนงตัวเกินไป ชีวิตที่ผู้อื่นฝ่าฟันเพื่อแย่งชิงลมหายใจเขาไว้ แต่เขาก็ดิ้นรนกลับไปหาความตายอยู่เรื่อย...
ท่านอาจารย์พูดให้คิดดีมากเลย แต่อาหน่วนจะเข้าใจไหม นางดูมั่นหน้า มั่นใจเกิตเหตุแบบไม่สนสี่สนแปดใดใดเลย...
อยากให้กลับมาอัพเดทไวๆนะคะ ขอบคุณมากค่ะ...
สรุปเรื่องนี้มีตอนจบมั้ยค่ะ...
รอตอนจบอยู่นะคะ ใจบางไม่ไหวแล้วทรมาน...
รออัพเดทอยู่นะคะ...
เมื่อไหร่จะอัพต่อค่ะ...