กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ นิยาย บท 610

เนื่องจากได้รับบาดเจ็บสาหัสตอนที่อยู่ขั้วโลกเหนือ เยี่ยจิ่งหานจึงเฝ้ากู้ชูหน่วนเพื่อทำการพักฟื้นอยู่ในจวนหานอ๋อง โดยไม่ไปไหนทั้งนั้น

วันนี้ก็ถึงเวลารับประทานอาหารเที่ยงอีกครั้ง เยี่ยจิ่งหานมองไปที่โต๊ะที่เต็มไปด้วยอาหารมังสวิรัติ เลิกคิ้วและพูดอย่างเคร่งขรึมว่า "จวนท่านอ๋องไม่มีเนื้อสัตว์เลยหรือ? เหตุใดถึงกินผักทุกวันเลย?"

กู้ชูหน่วนเอามือเท้าคางอย่างไร้อารมณ์และกวาดสายตาไปยังโต๊ะอาหารที่เต็มไปด้วยผักโดยไม่มีความอยากอาหารเลย และจากนั้นมองไปยังชิงเฟิงที่มีคำถามด้วยเช่นกัน

มีแต่ผักทุกวี่วัน นางอยากจะกินเนื้อสัตว์ใจจะขาดอยู่แล้ว

ไหนบอกว่าคนป่วยต้องบำรุงเยอะๆ ไม่ใช่หรือ?

คนในโรงครัวทำอะไรกันอยู่?

ชิงเฟิงตัวสั่นเทาและกล่าวด้วยความโมโห "นายท่าน เนื้อสัตว์ในจวนท่านอ๋องถูกเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์หมดไปหมดแล้ว อาหารมื้อนี้ของท่านยังพอมีชิ้นเนื้อชิ้นเล็กอยู่บ้าง แต่ข้าน้อยและคนอื่นๆ ไม่ได้กินแม้แต่เศษเนื้อมาหลายวันแล้วขอรับ"

กู้ชูหน่วนเลือกคีบเนื้อชิ้นเล็กในอาหารออกมาและเกือบจะตกจากตะเกียบ

นี่เรียกว่าเนื้อเส้นหรือ?

ในหนึ่งจานแทบหาชิ้นเนื้อไม่ได้เลยด้วยซ้ำ ชิ้นเนื้อเส้นนั้นยังเล็กกว่าเส้นผมของนางอีก?

เยี่ยจิ่งหานกล่าวว่า "ยังกล้าเถียงอีก ต่อให้เนื้อทั้งหมดในจวนถูกเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์กินไปหมด พวกเจ้าไม่รู้จักไปหาซื้อมาจากข้างนอกเลยหรือ?"

"ข้าน้อยสั่งให้คนไปซื้อแล้วขอรับ แต่จมูกของเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์รับกลิ่นดีกว่าอะไรเป็นไหนๆ เพิ่งจะซื้อเนื้อกลับมาได้ ก็ถูกมันแย่งไปแล้วขอรับ ทุกครั้งที่มีคนไปซื้อก็ต้องแอบออกไปและพยายามมาหลายหนทางแล้ว แต่ยังคงหนีไม่พ้นสายตาของเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์อยู่ดีขอรับ"

กู้ชูหน่วน "......"

เยี่ยจิ่งหาน "......"

เมื่อพูดถึงเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ ชิงเฟิงเก็บอั้นความโกรธเอาไว้และอดไม่ได้ที่จะไล่มันออกไป

ทุกครั้งที่มันมา ทุกคนในจวนท่านอ๋องก็อย่าหวังได้กินเนื้อสัตว์

น้ำเสียงของเยี่ยจิ่งหานอ่อนลงเล็กน้อย "เช่นนั้นก็ซื้อเนื้อสัตว์มาเยอะหน่อย ต่อให้กระเพาะของเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ใหญ่มากเพียงใด เช่นนั้นก็คงไม่กินเนื้อสัตว์ทั้งหมดในเมืองหลวงนี้ไปได้หรอก"

"นายท่าน ตอนนี้เนื้อหมู เนื้อวัว เนื้อแกะ เนื้อไก่ เนื้อปลาและเนื้ออื่นๆ ในเมืองหลวงต่างก็ขึ้นราคากันหมด อีกอย่างข้าน้อยซื้อมาน้อย เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ก็แย่งไปน้อย ข้าน้อยซื้อมาเยอะ เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ก็แย่งไปเยอะ เนื้อสัตว์ทั่วทั้งเมืองหลวงเกือบจะถูกเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์กินไปหมดแล้วขอรับ"

"ตุ่บ......"

กู้ชูหน่วนเกือบจะตกจากเก้าอี้และจ้องมองไปที่ชิงเฟิงด้วยความไม่อยากจะเชื่อ

เยี่ยจิ่งหานก็ไม่เชื่อเช่นกัน

ชิงเฟิงรีบกล่าว "จริงๆ ขอรับ ไม่เพียงแค่เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ตัวเดียวเท่านั้นที่กิน มันยังเรียกงูตัวอื่นมากินเนื้อสัตว์อีกด้วย มีงูชนิดเดียวกับเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์มาก็ว่าแย่แล้ว แต่ตอนที่พวกมันจากไปก็ยังเอาเนื้อสัตว์กลับไปอีกด้วย"

ชิงเฟิงชี้ไปทางขวามือ ตรงนั้นคืออุทยานพฤกษาของจวนท่านอ๋องที่มีขนาดใหญ่และกว้างขวาง เมื่อมองออกไปจากหน้าต่างของพวกเขา ก็สามารถเห็นอุทยานพฤกษาได้พอดี

กู้ชูหน่ววนและเยี่ยจิ่งหานต่างพากันมองออกไป เมื่อเห็นเข้าพวกเขาก็ไม่อาจอยู่เฉยได้อีกต่อไป

อุทยานพฤกษานั้นเต็มไปด้วยงูจำนวนมาก มีงูตัวเล็กตัวใหญ่ งูมีพิษและงูไร้พิษ งูที่มีลวดลายหลากหลาย โดยแทบจะปกคลุมไปด้วยงูทุกชนิด

และที่อยู่ตรงกลางก็คือเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ม้วนเนื้อย่างเป็นกองและกินอย่างเอร็ดอร่อย จากนั้นเรอเป็นระยะและใช้หางของมันลูบท้องไปมา และมันยังส่งเสียงออกมาอย่างมีความสุข

ราวกับกำลังบอกให้เพื่อนๆ ของมันกินให้อร่อย โดยไม่ต้องเกรงใจ

และงูพวกเดียวกับมันก็ไม่ได้รู้สึกเกรงใจเลยสักนิด แต่ละตัวกินอย่างไม่หยุดหย่อน ท้องของงูแต่ละตัวล้วนกลมป่อง

หากไม่เห็นด้วยตาตัวเอง พวกเขาไม่มีทางเชื่อเด็ดขาดว่าบนโลกนี้จะมีงูมากมายหลายชนิดเช่นนี้

และยิ่งไม่อยากเชื่อว่า จวนท่านอ๋องจะมีงูเข้ามามากมายเช่นนี้

เมื่อมองไปยังงูเหล่านั้นอีกครั้ง บางตัวก็กินอิ่มหนำและจากไป และจากนั้นก็มีกลุ่มใหม่เลื้อยคลานเข้ามาเป็นวัฏจักรวนเวียนเช่นนี้เพื่อกินเนื้อสัตว์

และไม่รู้ว่าพวกมันได้รับข่าวคราวจากไหน ว่าเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์เลี้ยงอาหารอยู่ที่นี่

กู้ชูหน่วนรู้สึกหนักใจ

แน่นอนว่าไม่ใช่เป็นสัตว์เลี้ยงตัวโปรดที่นางเลี้ยงไว้

สัตว์เลี้ยงตัวโปรดของนางไม่ตะกละตะกลามและไม่โง่เช่นนี้

เยี่ยจิ่งหานรู้สึกขนลุก "จวนของข้าจะให้ใครเข้ามาก็ได้อย่างนั้นหรือ? งูมากมายเช่นนี้แอบเลื้อยเข้ามากินเนื้อสัตว์ พวกเจ้าไม่คิดห้ามปรามขัดขวางเลยหรือ"

ชิงเฟิงเบะปากและน้ำเสียงโมโหเล็กน้อย "ข้าน้อยก็อยากจะขัดขวาง แต่เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ออกคำสั่งเอาไว้และบอกว่านายท่านได้รับปากมันเอาไว้ว่ากลับถึงจวนหารอ๋องแล้ว จะให้มันกินเนื้อทุกชนิดตามสบาย ไม่ว่ามันจะกินมากเพียงใดก็ตามขอรับ"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์