กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ นิยาย บท 611

วันที่สองหลังจากงดเนื้อ

เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์แบกท้องอันโตแอบเข้าไปในห้องนอนของกู้ชูหน่วน มันขู่ต่อต้านดังฟ่อๆๆเพื่อให้กู้ชูหน่วนคืนอาหารการกินให้กับมันในทันที

กู้ชูหน่วนไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมอง "ไม่เห็นประกาศจากจวนอ๋องเหรอ? จวนอ๋องถูกพวกเจ้ากินจนไม่มีอันจะกินแล้ว ไม่มีเนื้อ"

"เยี่ยจิ่งหานรับปากกับข้าไว้ว่าจะดูแลให้ข้ากินจนอิ่มหนำสำราญ"

“เขาเคยกล่าวเช่นนั้นแต่ไม่ได้บอกว่าจะดูแลให้เจ้ากินอิ่มไปตลอดชีวิต และไม่ได้บอกว่าจะดูแลสนใจพวกพ้องผองเพื่อนและป้าเจ็ดป้าแปดเหล่านั้นของเจ้าให้กินจนอิ่มไปด้วย"

“พวกเขาไม่ใช่ป้าเจ็ดป้าแปดของข้า”

“โอ๊ยเจ้าก็ยังรู้นะ ข้าคิดว่าเจ้าลืมไปหมดแล้ว เช่นนั้นเจ้ายังจำได้หรือไม่ว่าข้าเป็นนายหญิงของจวนหานอ๋อง ทรัพย์สมบัติส่วนหนึ่งของจวนหานอ๋องก็เป็นของข้าส่วนหนึ่งด้วย”

“นายท่าน ท่านรังแกงูเอาเปรียบข้าที่ช่วยท่านออกมาอย่างยากเย็นแสนเข็ญ”

“หากเจ้าไม่ชอบก็ไปให้พ้นซะ ไม่มีผู้ใดขัดขวางเจ้า”

เดิมทีเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ที่มีหลักการเหตุผลเมื่อได้ยินประโยคนี้เข้าก็ชะงักงันในทันที

มันบิดร่างอ้วนของมันและบิดตัวคลานเข้าไปยังข้างเท้าของกู้ชูหน่วนด้วยและกล่าวด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อยว่า “นายท่าน ท่านไม่สามารถได้รับผลประโยชน์แล้วแล้วถีบหัวส่งได้”

"ไปให้พ้น"

กู้ชูหน่วนเกือบจะยกเท้าขึ้นเตะมันออกไป

“ข้าไปให้พ้นแล้วต่อไปก็จะไม่มีงูมาพันท่านแล้ว”

“ข้าจำได้เมื่อก่อนข้าเคยเป็นยอดฝีมือระดับเจ็ดใช่ไหม แม้ว่าตอนนี้ความสามารถของข้าจะลดลงไปบ้างแต่ว่าเพียงแค่ข้าปลดผนึกออกก็สามารถฟื้นคืนสู่ขั้นสูงสุดได้ตลอดเวลา ท่านว่าข้าฟื้นคืนกลับไปยังขั้นสูงสุดแล้วจะทำให้เทพอสุรกายระดับสี่ไม่กี่ตัวเชื่องนั้นเป็นไปได้หรือว่าจะไม่สามารถจัดการได้?”

เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์เบือนหน้าด้วยความไม่พอใจพร้อมกล่าวอย่างภาคภูมิใจว่า "ขณะที่อยู่ที่ขั้วโลกเหนือข้าได้กินแกนผลึกไปมากมายจนตอนนี้ข้าอยู่ระดับห้าแล้ว"

กู้ชูหน่วนหยิบมันขึ้นมาเลยโดยตรง

นางรู้ว่าเจ้าสารเลวนี่หายตัวไปก็เพียงเพื่อหาแกนผลึกกิน

และก็ไม่รู้ว่ามันกินไปมากเพียงใดจึงเพิ่มพูนขึ้นหนึ่งระดับ

“ตอนนี้ข้าไม่มีความสามารถอันใดทั้งนั้นแต่ความสามารถในการย่างเนื้อนั้นยอดเยี่ยมยิ่งนักโดยเฉพาะย่างเนื้องู ไม่ได้กินเนื้อมานานหลายวันแล้ว ข้าก็คิดถึงรสชาติของเนื้องูอยู่บ้างจริงๆ”

“ฟ่อฟ่อ......”

เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ตกใจจนหลุดจากมือของนางและรักษาระยะห่างของมัน

“นายท่าน ข้าเป็นสัตว์เลี้ยงตัวโปรดของท่านนะ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้”

“หากเจ้าต้องกาาติดตามข้าต่อไปและกินเนื้อย่างของข้าก็เชื่อฟังคำพูดของข้า อย่าได้เห็นเนื้อก็ลอยหายไปทุกครั้ง มิเช่นนั้นจะไม่รังเกียจที่จะเปลี่ยนเป็นสัตว์เลี้ยงตัวโปรดที่ไว้ใจได้ตัวหนึ่ง”

“พูดไปพูดมาก็โกรธที่ข้าทิ้งพวกท่านไปกินแกนผลึกในขณะที่อยู่ที่ขั้วโลกเหนือ”

กู้ชูหน่วนยิ้มและหยิบหางเล็กๆของมันขึ้นมา "เจ้ารู้หรือไม่ว่าเจ้าโยนพวกข้าทิ้งขณะที่อยู่ที่ขั้วโลกเหนือหน่ะ?"

“ข้าคือราชาแห่งงูนะ นายท่านท่านดึงหางข้าเช่นนี้ไม่ได้จะทำให้ข้ารู้สึกลำบากใจได้”

“ราชาแห่งงู? เจ้าอยู่ต่อหน้าข้าเรียกตัวเองว่าราชาด้วย? เฮ้อ......ช่างมันเถอะ แม้ว่าเจ้าจะเป็นสัตว์เลี้ยงตัวโปรดของข้าแต่ว่าข้าไม่เคยกินเนื้อราชาแห่งงูเลย วันนี้อย่างไรก็ต้องลิ้มลองดูเสียแล้วและคนในจวนอ๋องทุกคนก็ได้ลิ้มรสเนื้อสัตว์ด้วย"

เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ทั้งโกรธทั้งโมโหและรู้สึกไม่ได้รับความยุติธรรมจึงอดไม่ได้ที่จะต่อต้านว่า "ด้านนอกยังมีผองเพื่อนมากมายมองดูอยู่ ท่านจะไม่ไว้หน้าข้าสักหน่อยเลยหรือ"

กู้ชูหน่วนมองตามสายตาของมันไป เป็นตามนั้นผองเพื่อนของเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ยืดคอมองดูทุกสิ่งทุกอย่างทั้งหมดที่นี่ เมื่อเห็นนางกวาดตามองมา งูหลากหลายสีสันและขนาดแตกต่างกันต่างก็วิ่งหนีกันระนาวราวกับว่านางเป็นภัยอันตรายที่จะย่างพวกมันกิน

กู้ชูหน่วนคลายหางงูของมันและตบๆมืออย่างช้าๆ "ข้าไม่ได้ปิดหน้าต่างหมดหรอกหรือ? เหตุใดถึงได้เปิดออกเสียแล้ว"

เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ร้องไห้เสียงฟ่อๆๆๆ

“ข้าก็ไม่ใช่เพียงแค่อยากอวดกำลังต่อหน้าเพื่อนซักครั้งก็เลยแอบเปิดหน้าต่างออกหน่ะสิ สุดท้ายแล้วท่านไม่ไว้หน้าข้าเลยแม้แต่น้อยภายหน้าข้าจะเป็นราชาแห่งงูอยู่ได้อย่างไร พวกเขาจะต้องหัวเราะข้าลับหลังเป็นแน่ ข้าไม่มีหน้าไปพบงูแล้ว”

กล่าวแล้วเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ก็ร้องไห้เสียงฟ่อๆๆพร้อมทั้งทำท่าเง้างอนอยู่บนพื้น

กู้ชูหน่วนตกตะลึง

นี่......

ตำหนินางสินะ?

"เมื่อครู่เสี่ยวฮวามองข้าด้วยสายตาที่ต่างออกไปเสี่ยวฮวาต้องคิดว่าข้าไร้ประโยชน์เป็นแน่"

"

“ใครคือเสี่ยวฮวา?” แฟนหรือ?

"ก็เป็นงูน้อยสีสันสวยงามตัวนั้นตัวที่สวยที่สุด"

ในสวนดอกไม้เต็มไปด้วยงูไปทั่ว ไปพวกหนึ่งก็มาอีกพวกหนึ่งนางจะรู้ได้อย่างไรว่าตัวไหนสวยที่สุดและจะรู้ได้อย่างไรว่าตัวไหนคือเสี่ยวฮวา

แม้ว่าเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์จะไม่น่าเชื่อถือแต่ในยามคับขันอย่างน้อยก็ช่วยชีวิตนางไว้หลายครั้ง กู้ชูหน่วนอุ้มร่างกายอันอ้วนพีของมันขึ้นแล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลขึ้นมาบางส่วนว่า "พอแล้ว ไม่ต้องร้องไห้แล้วร้องจนข้าเวียนศีรษะหมดแล้ว" หมูย่างห้าตัว”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์