"ใกล้วันครบรอบที่ท่านพ่อของเจ้าอายุหกสิบแล้วไม่ใช่หรือ?เจ้าไม่ต้องกลับไปเตรียมการหรือ?" กู้ชูหน่วนมองไปที่เซี่ยวอวี่เซวียนในทันที
เซี่ยวอวี่เซวียนตบหัวตัวเอง "ไอ้หยา ข้าลืมไปได้อย่างไร แม่สาวอัปลักษณ์ ข้าคงต้องกลับไปก่อน อีกสามวันก็เป็นวันครบรอบที่ท่านพ่อของข้าอายุหกสิบแล้ว เมื่อถึงวันแล้วท่านอย่าลืมมาร่วมงาน"
"ได้ ข้าไปแน่นอน"
กู้ชูหน่วนยิ้ม เมื่อมองดูเซี่ยวอวี่เซวียนที่เดินจากไป ทันใดนั้นนางก็เรียกเขา
"เสี่ยวเซวียนเซวียน......"
"มีอะไรหรือ?"
"ท่านพ่อของเจ้าอายุมากแล้ว เขาปกป้องบ้านบ้านเมืองไปด้วย เลี้ยงดูพวกเจ้าไปด้วย มันไม่ง่ายเลย หากเจ้าว่างก็อยู่เป็นเพื่อนเขา และอย่ายั่วโมโหให้เขาโกรธ"
เซี่ยวอวี่เซวียนยกมุมปากขึ้น ราวกับว่าเขาต้องการจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เขาก็กลืนคำพูดทั้งหมดลงไป และยิ้มให้กู้ชูหน่วนอย่างสบายใจ
"วางใจได้ ก่อนหน้านี้ข้าเสเพลและไม่ได้เรื่องไม่ได้ราว ต่อไปข้าจะกตัญญูต่อเขาให้มาก ๆ"
เขามีความสงสัยอยู่ในใจ สองวันมานี้พวกเขาผิดปกติมากเกินไป
แต่เขาก็ยังเลือกที่จะเชื่อ เชื่อผู้หญิงที่เขาชอบ และเชื่อว่าแม่สาวอัปลักษณ์จะไม่ทำร้ายท่านพ่อของเขา
หลังจากที่เซี่ยวอวี่เซวียนจากไป รอยยิ้มของกู้ชูหน่วนก็ค่อย ๆ จางลง จากนั้นก็ถูกแทนที่ด้วยความโศกเศร้าและภาระหน้าที่อันหนักอึ้ง
"ท่านพี่หน่วน ท่านเป็นอะไรไป?ทำไมจู่ ๆ ถึงได้โศกเศร้าขึ้นมา?หรือว่าอาลัยอาวรณ์เซี่ยวอวี่เซวียน?ให้ข้าไปเรียกเขากลับมาดีหรือไม่?"
"น้องหญิงฮวาฉี่หลัว เจ้าช่วยอะไรข้าหน่อยได้หรือไม่?"
"แน่นอนว่าได้ ท่านพี่หน่วนบอกมาเถอะ"
"หุบปากของเจ้าเสีย อย่ามาพูดพล่อย ๆ ต่อหน้าข้าอีก และอย่ามาวิ่งเพ่นพ่านต่อหน้าข้า ข้าอยากอยู่เงียบ ๆ"
"ได้......ก็ได้......แล้วนานแค่ไหน?"
"หนึ่งวันหนึ่งคืน" กู้ชูหน่วนอยากจะพูดว่าสามวันสามคืน แต่นางรู้ดีว่หนึ่งวันหนึ่งคืนก็มากพอแล้ว
"ก็ได้ เช่นนั้นข้าจะไปเล่นกับผู้อื่น แล้วพรุ่งนี้เวลานี้ข้าจะกลับมาหาท่าน"
ฮวาฉี่หลัวหันกลับมามองเป็นระยะ ๆ และรอให้กู้ชูหน่วนเรียกนาง แต่กู้ชูหน่วนก็นั่งเงียบ ๆ อยู่นอกประตู นางเอามือทั้งสองข้างกอดหัวเข่าของตัวเองไว้ ไม่รู้ว่านางกำลังคิดอะไรอยู่ และไม่รู้ว่าโศกเศร้าอะไร
เวลาผ่านไปอย่างช้า ๆ กู้ชูหน่วนไม่รู้ว่าตนเองนั่งอยู่ที่นี่นานแค่ไหนแล้ว นางนั่งจนขาทั้งสองข้างชา
จากนั้นนางก็ลุกขึ้นและเดินเข้าไปในห้องดูลั่วอิ่ง
ในนั้นจักรพรรดิฉู่กำลังพูดคุยเป็นเพื่อนลั่วอิ่ง แม้ว่าสิ่งที่เรียกว่าการพูดคุยจะเป็นการที่จักรพรรดิฉู่พูดคุยกับตนเองก็ตาม
อัครมเหสีทรงปรุงอาหารด้วยตนเอง นางทำของบำรุงและอาหารมากมาย และเรียกให้ั่วอิ่งมาทานอาหาร
ช่างเป็นภาพที่มีความสุข
เหมือนครอบครัวที่อยู่ด้วยกันสามคน
หากไม่ได้เห็นด้วยตาของตนเอง นางก็คงไม่เชื่อผู้ที่อยู่ตรงหน้านางคือจักรพรรดิและอัครมเหสี ผู้ที่มีอำนาจสูงสุดในรัฐฉู่
"แม่นางกู้ ทำไมเจ้ายืนอยู่หน้าประตูและไม่ยอมเข้ามา รีบเข้ามาชิมหน่อย ข้าทำอาหารง่าย ๆ ไม่รู้ว่าจะถูกปากของเจ้าหรือไม่?"
หลังจากที่ถูกค้นพบ กู้ชูหน่วนก็เข้าไปอย่างเปิดเผย
"กลิ่นหอมมากดี พระองค์ทรงทำเองทั้งหมดเลยหรือเพคะ?"
กู้ชูหน่วนดูคร่าว ๆ บนโต๊ะมีอาหารอยู่ประมาณเจ็ดแปดอย่าง มีทั้งไก่ เป็ด ปลา เนื้อ และผัก ดูจากหน้าตาและกลิ่นแล้ว รสชาติก็คงจะไม่ได้ทิ้งห่าง
อัครมเหสีฉู่ฝืนยิ้ม "ไม่ได้ทำอาหารมาหลายปีแล้ว รู้สึกไม่ค่อยชิน ทำให้แม่นางกู้ต้องขบขันแล้ว"
จักรพรรดิฉู่ยิ้มอย่างจริงใจ "จะเป็นไปได้อย่างไร อาหารเหล่านี้ยังคงรสชาติเหมือนเดิม ไม่เปลี่ยนแปลงเลยแม้แต่น้อย แม่นางฉี่หลัวล่ะ?ข้าให้คนไปตามนางมาทานอาหารด้วยกัน และมาลองชิมฝีมือของอวิ๋นเอ๋อร์"
กู้ชูหน่วนรีบกล่าวว่า "ไม่ต้องหรอกเพคะ นางกินไปแล้ว และหลับไปแล้ว"
ช่างน่าขบขัน ไม่ง่ายเลยที่จะสะบัดนางออกไป หากยังตามติดนางอีก นางก็คงถูกก่อกวน
"แม่นางฉี่หลัวเข้านอนเร็ว เช่นนั้นพวกเราไปกินกันก่อนเถอะ"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์
ไม่อัพจบเหรอคะ...
เป็นนางเอกที่นิสัยแย่ที่สุดตั้งแต่เคยอ่านมา...
คือตัวเองไม่มีเงิน แต่คิดจะเอาทุกอย่างด้วยราคาสูงเสียดฟ้า แล้วก็หาคำพูดให้คนอื่นจ่ายแทน ตัวเองหาประโยชน์จากคนใกล้ตัวแต่กลับเอาใจให้คนอื่นตลอดเนี่ยนะ...
แม่นางกู้เกินเยียวยาแล้วเด้อ 555...
เยี่ยเฟิงเป็นคนดีมาก แต่เขาทนงตัวเกินไป ชีวิตที่ผู้อื่นฝ่าฟันเพื่อแย่งชิงลมหายใจเขาไว้ แต่เขาก็ดิ้นรนกลับไปหาความตายอยู่เรื่อย...
ท่านอาจารย์พูดให้คิดดีมากเลย แต่อาหน่วนจะเข้าใจไหม นางดูมั่นหน้า มั่นใจเกิตเหตุแบบไม่สนสี่สนแปดใดใดเลย...
อยากให้กลับมาอัพเดทไวๆนะคะ ขอบคุณมากค่ะ...
สรุปเรื่องนี้มีตอนจบมั้ยค่ะ...
รอตอนจบอยู่นะคะ ใจบางไม่ไหวแล้วทรมาน...
รออัพเดทอยู่นะคะ...