กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ นิยาย บท 677

ลูกศิษย์คนอื่นๆต่างทยอยคุกเข่าลง และกล่าวอย่างพร้อมเพรียงกันขึ้นว่า“ขอหัวหน้าเผ่าได้โปรดเพิกถอนคำสั่งด้วย”

ครั้งนี้แม้แต่ผู้อาวุโสไป๋เฉ่ายังไม่ยืนอยู่ฝั่งนางเลย แถมยังกล่าวเกลี้ยกล่อมว่า“อาหน่วน เอาเยี่ยจิ่งหานเข้ามาในเผ่าหยกมันไม่ใช่การกระทำที่ดี หากเขาเข้ามาที่เผ่าหยก คนในเผ่าไม่มีทางปล่อยเขาไป พอถึงเวลานั้นทำได้เพียงทำร้ายเขา”

“พวกท่านแต่ละคนบอกไม่ให้พาเข้า อย่างนั้นก็จะต้องให้ข้าทราบรู้ถึงสาเหตุด้วยใช่หรือไม่?”

“เรื่องนี้พูดแล้วยืดยาว รอกลับไปในเผ่าพวกเราค่อยคุยกัน”

“เช่นนั้นก็พูดอย่างกระชับเลย พวกเขาไม่เข้าเผ่าหยก ข้าก็ไม่กลับไป”

“เอ่อ……”

ทุกคนเงียบ อยากจะกล่าวพูดอะไรบางอย่าง ก็ไม่รู้ว่าจะเริ่มจากตรงไหน

สุดท้ายหลังจากที่ผู้อาวุโสไป๋เฉ่ากับผู้อาวุโสเก้าได้ปรึกษาหารือกันแล้ว ต่างพากันถอยหนึ่งก้าว

“เอาอย่างนี้นะ นอกจากเยี่ยจิ่งหานกับเจี้ยงเสวี่ย ยกเว้นจอมมารให้เขาเข้าไปในเผ่าหยกได้”

พอจอมมารได้ยินถึงกับใจชื้นขึ้นมาทันที ยกคางผงกใส่กู้ชูหน่วนด้วยความลำพองใจ

นับว่าเขาโชคดี เมื่อก่อนทำร้ายท่านพี่หญิงบาดเจ็บหนักแทบจะตายดิ้น ผู้อาวุโสเผ่าหยกเหล่านี้ก็ไม่ได้คิดเล็กคิดน้อยกับเขา

ดูเหมือนว่าในอนาคตเขาจะต้องเคารพผู้อาวุโสเหล่านี้สักหน่อยแล้ว

“ท่านปู่ไป๋เฉ๋า ท่านปู่เก้า พวกท่านรู้นิสัยของข้าดี หากไม่ให้เหตุผลที่เหมาะสม ข้าไม่มีทางที่จะละทิ้งพวกเขาได้”

ผู้อาวุโสไป๋เฉ๋ากัดฟันกรอดกล่าวว่า“เช่นนั้นก็ให้เจี้ยงเสวี่ยเข้าได้ ส่วนเยี่ยจิ่งหานไม่ว่าจะกล่าวพูดอะไรก็ไม่ให้เข้าไป”

ลูกศิษย์คนหนึ่งรีบร้อนเข้ามารายงาน“หัวหน้าเผ่า ผู้อาวุโส ที่สระบัวมีแขกมาเยือนสี่คน ดูการแต่งตัวแล้วเป็นคนของเผ่าเพลิงฟ้า อีกทั้งวรยุทธ์ไม่เลวเลยทีเดียว”

พอได้ฟัง ผู้คนที่อยู่ตรงนั้นล้วนคาดเดาออก

เป็นผู้อาวุโสสูงสุดทั้งสี่ของเผ่าเพลิงฟ้าเป็นแน่แท้

พวกเขาทำลายเขตอาคมแรกแล้วจริงๆและได้ไล่ล่ามาที่นี่

“ไอ้แก่ทั้งสี่ที่ตายยากนี้ ทำร้ายคนเผ่าหยกของพวกเรามากมาย ครั้งนี้ข้าจะทำให้พวกมันมาแล้วกลับไปไม่ได้”

ไป๋เฉ่าดึงผู้อาวุโสเก้าไว้ แล้วกล่าวตำหนิว่า“แก้คำสาปโลหิตสำคัญ ตอนนี้ไม่ใช่เวลาจะเป็นหรือตาย สระบัวแห่งนี้อาจจะไม่สามารถรับพวกเขาได้ พวกเรารีบกลับไปคิดวิธีปิดกั้นเขตอาคมทางเข้าที่สองเถอะ หลีกเลี่ยงการที่พวกเขาจะหาเจอ”

ผู้อาวุโสเก้าทั้งโมโหทั้งเกลียดชัง

ไม่ง่ายที่จะมีโอกาสดีๆ แต่ทว่าไร้หนทางที่จะสังหารพวกเขาได้ น่าหงุดหงิดจริงๆ

แต่ไป๋เฉ่าพูดก็ถูก หากพวกเขาแค่คนเดียวก็ไม่มีอะไรที่น่ากลัว สระบัวสามารถรับมือได้

แต่พวกเขามากันสี่คน

ความแข็งแกร่งนี้ คนธรรมดาจะรับมือได้ที่ไหนกัน

คนในเผ่าจำนวนมากออกไปแล้ว ตอนนี้ยอดฝีมือในเผ่าเหลือไม่มาก

ทุกคนต่างอยากกลับไปอย่างรวดเร็วทันใจ แต่กู้ชูหน่วนกับเจี้ยงเสวี่ยไม่เคลื่อนไหวเลย

ไป๋เฉ่ากระทืบเท้าอย่างรีบร้อนกล่าวขึ้นมาว่า“อาหน่วน ท่านคือหัวหน้าเผ่าหยก เวลานี้ท่านไม่สามารถเลอะเทอะได้แล้วนะ”

“ท่านเห็นข้าตั้งแต่เล็กจนโต หรือว่านิสัยข้าเป็นอย่างไร ท่านไม่รู้หรือ?ความเป็นจริงแล้วเพราะเหตุใดพวกท่านถึงเกลียดชังเยี่ยจิ่งหาน?”

“ยังจะเพราะเหตุใดเล่า ผู้ใดให้เขามีแม่ที่น่าขยะแขยงอย่างนั้นล่ะ”

“ท่านหมายถึงพระสนมอวี้หรือ?แต่ข้าก็เป็นลูกสาวของพระสนมอวี้มิใช่หรือไร?”

“อาหน่วน เรื่องนี้พูดแล้วมันยาว…..”

“ท่านพูดคำว่าพูดแล้วเรื่องมันยาวให้น้อยหน่อยนะ ไม่ก็พูดมาให้กระชับ ไม่ก็ให้เยี่ยจิ่งหานเข้าไป ไม่อย่างนั้น พวกท่านเอาไข่มุกมังกรกลับกันเองเถิด”

“ท่าน….ท่านคิดยั่วโมโหพวกข้าหรือ?”

“พวกท่านเรียกข้าว่าหัวหน้าเผ่า หรือว่าข้าที่เป็นหัวหน้าเผ่าอย่างสง่างาม แม้แต่สิทธิที่จะเอาคนหนึ่งกลับเผ่าด้วยก็ไม่มีหรือ?หรือที่พวกท่านดีกับข้า เพียงเพราะให้ข้าหลอมรวบรวมไข่มุกมังกร แก้คำสาปโลหิต?”

“อาหน่วน ท่านพูดทำร้ายจิตใจคนเกินไปแล้ว คนในเผ่าปฏิบัติต่อท่านอย่างไร หรือว่าท่านเองยังรับรู้ไม่ได้หรือ?”

กู้ชูหน่วนยังอยากถามอีก แต่แรงอำมหิตเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ กู้ชูหน่วนเลยกักเก็บกดความสงสัยไว้ และพาคนอื่นๆรีบไปที่เขตคาถาที่สอง

เพราะเผ่าหยกห้ามคนนอกเข้าออก ครั้งนี้แม้จะให้พวกจอมมารเข้ามา แต่ทว่าจำเป็นต้องปิดตา

จอมมารไม่พอใจ แต่เพื่อกู้ชูหน่วนแล้ว เขาเลยปิดตากับเยี่ยจิ่งหาน เจี้ยงเสวี่ยด้วย

เพิ่งจะเข้ามาเขตอาคมชั้นที่สอง ผู้อาวุโสสูงสุดทั้งสี่คนก็ได้ตามมาแล้ว

เพียงแค่นิดเดียว นิดเดียวเท่านั้นพวกเขาก็จะถูกตามทัน

“เขตอาคมที่สอง สามารถปิดกั้นพวกเขาได้หรือไม่?”กู้ชูหน่วนไม่ค่อยวางใจ เขตอาคมที่หนึ่งแกร่งกล้าอย่างนั้น พวกเขายังทะลายได้ในระยะเวลาอันสั้น เขตอาคมที่สองจะปิดกั้นได้นานเท่าไหร่กัน

“หัวหน้าเผ่าวางใจเถิด เว้นแต่คนที่มีพละกำลังความแข็งแกร่งระดับเจ็ดถึงจะมาทำลายได้ ไม่มีผู้ใดทะลายมันได้หรอก ต่อให้พวกเขาเป็นชั้นสูงสุดระดับหกก็ทำลายไม่ได้”

“แต่ความแข็งแกร่งพวกเขาสี่คนรวมกัน เพียงพอจะรับมือกับยอดฝีมือระดับเจ็ดคนหนึ่งได้เลยนะ”

“วางใจเถิด เขตอาคมที่สองไม่สามารถทำลายได้ ต่อให้ทะลายได้ ยังมีเขตที่สาม เขตที่สามต่อให้เป็นชั้นสูงสุดระดับเจ็ดก็ทะลายไม่ได้”

กู้ชูหน่วนไม่เข้าใจ ว่าเพราะเหตุใดเหล่าผู้อาวุโสไป๋เฉ่าถึงได้มั่นใจอย่างนี้

หรือว่าเผ่าหยกยังมียอดฝีมือที่เกินชั้นสูงสุดระดับเจ็ด?

ไป๋เฉ่าหัวเราะเจื่อนๆกล่าวว่า“หัวหน้าเผ่า ท่านนี่ให้เกียรติเผ่าหยกเกินไปแล้ว หลายปีที่ผ่านมาผู้คนในเผ่าไม่มีความตั้งใจที่จะฝึกวรยุทธ์ศิลปะการต่อสู้เพราะการทรมานจากคำสาปโลหิต และแม้แต่ผู้ที่มีพรสวรรค์ในศิลปะการต่อสู้ ก็ไม่ได้มีชีวิตรอดอยู่ได้นานนักหรอก เป็นไปได้อย่างไรที่จะไปถึงชั้นสูงสุดระดับเจ็ด”

“เช่นนั้น….”

“เมื่อก่อนบรรพบุรุษของเราเคยจัดวางมันลง หลายปีแล้ว และตอนนี้ก็ผ่านไปหลายร้อยปีแล้ว ไม่ต้องพูดถึงเผ่าหยกเลย สำนักใหญ่บนโลกใบนี้ยังไม่มีคนที่สามารถเข้าถึงความแข็งแกร่งชั้นสูงสุดของระดับที่เจ็ดได้เลย”

“ใช่หรือ เช่นนั้นบรรพบุรุษของเผ่าหยกความสามารถมากล้นเหลือเกิน”

กู้ชูหน่วนเดินตามเหล่าผู้อาวุโสไป๋เฉ่าไปด้านหน้าอย่างต่อเนื่อง

จอมมารถือโอกาสอาศัยสถานการณ์นี้อิงแอบที่อ้อมแขนของกู้ชูหน่วน และพยายามออดอ้อน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์