กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ นิยาย บท 689

“ยังไม่ได้สติ?”

นั่นหมายความว่าไม่มีทางคอยปลอบโยนอยู่ข้างกายกู้ชูหน่วน

“นี่ เจ้าคิดจะทำอะไร คงไม่ได้คิดเรื่องไม่ดีหรอกใช่หรือไม่ ถ้าเจ้ากล้าคิดเรื่องไม่ดีละก็ ข้าจะไปบอกท่านพี่หน่วนกับพวกผู้อาวุโส”

“นาง...คืนนี้นางจะเป็นทุกข์ เจ้าควรจะอยู่กับนางให้มากขึ้นถ้ามีเวลา”

“นาง? นางไหน? ท่านพี่หน่วนน่ะรึ ท่านพี่หน่วนจะเป็นทุกข์ได้อย่างไร นางจะมีความสุขอย่างไม่ทันตั้งตัวสิไม่ว่า เจ้าไม่รู้หรอกว่านางกับประมุขชิงมีความผูกพันกันมากแค่ไหน”

อินเอ๋อร์โบกมืออย่างไม่ใส่ใจและฮัมเพลงออกไปจากเรือน คิดแค่ว่าคำพูดของเหวินเส่าอี๋เป็นเรื่องที่น่าขัน

เหวินเส่าอี๋รู้สึกตรงกันข้ามกับอินเอ๋อร์ที่กำลังมีความสุข ความรู้สึกของเขาหนักอึ้ง มองไปยังทิศทางที่กู้ชูหน่วนจากไปอยู่เนิ่นนานโดยไม่ยอมละสายตาไปไหน

สิ่งที่เรียกว่า ‘เคล็ดวิชาคืนชีพบุปผาผลิบาน’ คือการใช้วิชาลับกับผู้ที่ป่วยหนักไร้หนทางเยียวยา เป็นการฟื้นฟูบุคคลที่ใกล้ตายขึ้นมาใหม่

หลังจากฟื้นฟู คนผู้นั้นจะกลายเป็นคนปกติที่ไม่มีความผิดปกติใดๆ

แต่องคาพยพทุกส่วนของร่างกายจะถูกทำลายทั้งหมด อย่างมากสุด คนผู้นั้นจะประคองชีวิตอยู่ได้แค่วันเดียวเท่านั้น

พูดให้ลึกลงไปก็คือ วิชาคืนชีพบุปผาผลิบานคือการดึงพลังทั้งหมดของคนพูดนั้นออกมาใช้ ให้คนผู้นั้นมีเวลาใช้ชีวิตอีกนิดเพื่อสั่งเสียเป็นครั้งสุดท้าย

ในการต่อสู้วันนั้น อี้เฉินเฟยได้รับบาดเจ็บสาหัสครั้งแล้วครั้งเล่า อีกทั้งยังยอมสละชีวิตเพื่อช่วยกู้ชูหน่วน ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่อาการของเขาจะดีขึ้น

แค่ประคองตัวมาจนถึงตอนนี้ก็นับว่าเกินขีดจำกัดแล้ว

เขาคงรู้ว่าตัวเองจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน ดังนั้นจึงขอร้องให้จอมมารช่วยเขา...

เขานึกภาพไม่ออกเลยว่ากู้ชูหน่วนจะโศกเศร้าเพียงใดหลังจากอี้เฉินเฟยตายจากไป เขาทำได้เพียงจ้องมองแผ่นหลังของนางที่เดินจากไป คอยเฝ้ามองนางเงียบๆ

ณ เรือนไม้ไผ่ กู้ชูหน่วนได้กลิ่นหอมอันชวนสดชื่นของมวลดอกไม้ทันทีที่ก้าวเข้ามา

อี้เฉินเฟยแต่งกายด้วยอาภรณ์สีขาว เรียบง่ายและสะอาดตา ใบหน้าของเขาหล่อเหลางดงามจนดูเหมือนไม่ใช่บุรุษชาวโลก

เขาถือจานขนมเปี๊ยะดอกไม้มาวางลงบนโต๊ะทีละจาน เมื่อเห็นกู้ชูหน่วนบุกเข้ามา รอยยิ้มอันอบอุ่นก็ปรากฏขึ้นที่มุมปากของเขา “ข้าว่าจะทำทุกอย่างให้เรียบร้อยก่อนแล้วค่อยเรียกท่านมา ทำให้ท่านแปลกใจเล่นๆ ไม่คิดว่าท่านจะจมูกไว ดมตามขนมมารวดเร็วขนาดนี้”

ภายในเรือนเต็มไปด้วยขนมเปี๊ยะดอกไม้ทุกรสชาติ นอกจากนี้ยังมีสุราและอาหารที่นางโปรดปรานอีกมากมาย

ภายในครัว จอมมารม้วนแขนเสื้อและกำลังยุ่งอยู่กับการนวดแป้ง เมื่อเห็นนางมาเขาก็ผละจากก้อนแป้งในมือและวิ่งไปหานางอย่างอดไม่ได้

“พี่หญิง ได้ยินว่าท่านชอบกินขนมเปี๊ยะดอกไม้ที่อี้เฉินเฟยทำ ข้าเลยเรียนรู้เคล็ดลับจากเขามา ต่อไปจะได้ทำให้ท่านกินบ้าง”

กู้ชูหน่วนมองใบหน้าที่แดงระเรื่อของเขาและเอ่ยอย่างมึนงง “ท่านพี่เฉินเฟย ท่าน...”

“แปลกใจใช่หรือไม่? ข้าเองก็แปลกใจเช่นกัน ไม่คิดว่าอาการเจ็บป่วยของข้าจะหายได้ ผู้อาวุโสสูงสุดบำเพ็ญเพียรอยู่หลายวัน พยายามคิดหาวิธีเพื่อรักษาข้า ไม่นานมานี้เอง ในที่สุดเขาก็คิดหาวิธีได้ เขาจัดยาให้ขา ข้ากินไปเพียงครั้งเดียวร่างกายก็รู้สึกดีขึ้นมาทันที”

กู้ชูหน่วนไม่เชื่อคำพูดเหล่านั้นเลยแม้แต่คำเดียว

นางเองก็เป็นหมอ

นางจะไม่รู้เชียวหรือว่าคนใกล้ตายเป็นอย่างไร หรือมียาสารพัดนึกนักอะไรที่จะช่วยฟื้นฟูร่างกายได้รวดเร็วทันตาเช่นนี้

ยิ่งไปกว่านั้นเขายังมีคำสาปโลหิตติดตัว

นางจับชีพจรของอี้เฉินเฟย คราวนี้เขาไม่ได้ปฏิเสธและยอมให้นางจับชีพจรแต่โดยดี

ชีพจรของอี้เฉินเฟยแข็งแรงและมีพลัง เขาดูเหมือนคนทั่วไปและไม่เหมือนคนป่วยเลยสักนิด

บาดแผลเก่าบนร่างกายของเขาก็หายเป็นปกติแล้วเช่นกัน

นี่มัน...

“ผู้อาวุโสไป๋เฉ่าตรวจชีพจรให้ข้าแล้วเหมือนกัน เขาบอกว่าอาการบาดเจ็บทั้งหมดหายดีแล้ว ข้าเองยังแทบไม่อยากเชื่อ”

“ท่านแน่ใจนะว่าผู้อาวุโสสูงสุดรักษาท่านหายแล้ว”

“พี่เฉินเฟยเคยโกหกท่านหรือ”

“เช่นนั้นผู้อาวุโสสูงสุดผู้นั้นอยู่ที่ไหน ข้าจะไปหาเขา”

“ผู้อาวุโสสูงสุดไม่ได้ออกจากการบำเพ็ญเพียร เขาให้คนมาส่งยาให้ข้า ส่วนตัวเองยังคงบำเพ็ญเพียรอยู่”

บำเพ็ญเพียรอะไรกัน เผ่าหยกแย่ขนาดนี้ยังจะมาบำเพ็ญเพียรอีกรึ

“คิดอะไรอยู่รึ อาการของพี่เฉินเฟยหายดีแล้ว ท่านไม่ได้ใจหรืออย่างไร” อี้เฉินเฟยเขี่ยจมูกของนางอย่างนึกเอ็นดู ท่าทีดูสนิทสนมเป็นอย่างมาก

จอมมารหึงจนเริ่มมีควันกรุ่นอยู่ในใจ ทว่าเมื่อนึกถึงสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นกับอี้เฉินเฟย ความโกรธเหล่านั้นก็จางหายไปเหมือนหมอกควัน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์