กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ นิยาย บท 700

“ท่านพูดจาเหลวไหลอันใดกัน? ผู้ใด เป็นผู้ใดที่บอกว่าต้องการให้อาเฉินสังเวย เรียกเขาออกมาข้าจะเผชิญหน้ากับเขาเอง”

“ผู้เฒ่าหก หากเจ้าไม่ได้ฟื้นจากความเมาก็ไปนอนตรงฝั่งหนึ่งอย่าได้รบกวนเข้ามาด้วยได้หรือไม่ การเสียสละคนไม่กี่คนสามารถปลดคำสาปโลหิตของเผ่าหยกได้นี่เป็นบุญของเขา”

“เหลวไหล พูดจาไร้สาระ บุญอันใดกัน หากว่าเป็นบุญจริงๆเหตุใดท่านไม่กระโดดลงไปสังเวยหล่ะจำต้องนำคนดีๆชีวิตรุ่งโรจน์ผู้หนึ่งลงดาบ”

ผู้อาวุโสหกโกรธจัดจึงด่าทอคำสบถหยาบคายออกมาโดยตรงโดยไม่ไว้หน้าผู้อาวุโสรองเห็นเลยแม้แต่น้อย

สีหน้าของผู้อาวุโสรองโกรธมากจนแปรเปลี่ยนเป็นเขียวขึ้นมา

ที่ผ่านมาในสถานที่ลำพังไม่ไว้หน้าเขาก็ช่างเถอะแต่ในขณะนี้ต่อหน้าผู้คนมากมายกลับดุด่าเขาเช่นนี้

เขากล่าวอย่างโกรธเคืองว่า “เจ้าพูดจาให้มันดีๆหน่อย หากว่าสามารถช่วยเผ่าหยกได้เจ้าคิดว่าข้าจะไม่อยากสังเวยหรือ? เพียงแต่ว่าข้าไม่ใช่ร่างกายของหยางบริสุทธิ์แล้วข้าสังเวยจะมีประโยชน์อันใด?”

“ผู้ใดที่พูดพล่ามอยู่ที่นั่นว่าต้องการการสังเวยจากหยางบริสุทธิ์และหยินบริสุทธิ์ มีความสามารถเจ้าก็เรียกเขาออกมาข้าจะคุยหลักกการกับเขาด้วยตนเอง ชีวิตของคนสองคนที่เป็นๆอยู่ด้วยคำพูดประโยคหนึ่งอันใดของเขาถึงต้องเสียสละ”

“เจ้าเป็นบ้าอันใด? นั่นสืบทอดมาจากบรรพบุรุษ เป็นไปได้หรือที่บรรพบุรุษก็หลอกลวงเรา นอกจากนี้เดิมทีอี้เฉินเฟยก็ไม่สามารถช่วยชีวิตให้รอดได้แล้ว เพียงแค่สิ้นลมในไม่ช้าหรือเร็วก็เท่านั้น”

"เพี๊ยะ......"

ผู้อาวุโสหกยกมือขึ้นตบผู้อาวุโสรองอย่างรุนแรง ในปากดุด่าคำสบถหยาบคายมากมายก่ายกองกระทั่งฉุดผู้อาวุโสรองล้มลงไปบนพื้นเลยโดยตรงและทุบตีอยู่ที่พื้นอย่างรุนแรง

หลังจากถูกทุบตีด้วยความประหลาดใจรวมทั้ง ในคืนนี้เกิดเรื่องย่ำแย่มากมายขึ้นผู้อาวุโสรองก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟเช่นเดียวกัน

จึงประสานตัวกับผู้อาวุโสหกกันขึ้น

ในเมื่อเขาไร้ยางอาย เขาก็ไม่มีสิ่งใดต้องหวาดกลัว

เมื่อผู้อาวุโสท่านอื่นเห็นเช่นนี้ต่างก็เกลี้ยกล่อมแยกให้ออกจากกัน

กู้ชูหน่วนคร้านที่จะสนใจเรื่องทะเลาะระหว่างพวกเขาจึงเพียงแค่อ้อนวอนอย่างน่าเวทนาไร้ว่า "ท่านพี่เฉินเฟยท่านลงมาก่อนดีหรือเปล่า?"

“สาวน้อยยังจำสิ่งที่ท่านพี่เฉินเฟยพูดก่อนหน้านี้ได้ไหม? ความปรารถนาสูงสุดของท่านพี่เฉินเฟยในชีวิตนี้ไม่ใช่การปลดคำสาปโลหิตแต่หวังว่าเจ้าจะไร้ซึ่งความกังวลชั่วชีวิต”

“เจ้าอย่าได้เศร้าเสียใจเลย แม้ว่าท่านพี่เฉินเฟยจะตายไปแล้วดวงวิญญาณก็จะอยู่เคียงข้างเจ้าเสมอ เจ้านั้นไม่เคยสูญเสียข้าไป”

“ท่านกล่าวสิ่งเหล่านี้กับข้าทำไมกัน ข้าต้องการให้ท่านลงมา ท่านรีบลงมาสิ......”

กู้ชูหน่วนทรุดตัวลงคุกเข่าลงเสียงดังตุ๊บพร้อมกับตะโกนร้องอย่างบ้าคลั่ง น้ำตาที่กลั้นไว้เป็นเวลานานดังกับไข่มุกที่ร่วงหล่นไหลลงมาทีละหยดๆ

เหวินเส่าอี๋และจอมมารไม่เคยเห็นกู้ชูหน่วนที่ไร้ซึ่งวิธีช่วยเหลือและเศร้าเสียใจเช่นนี้

คนหนึ่งต้องการประคองนางขึ้นแต่ถูกคนของเผ่าหยกรั้งไว้แน่น

คนหนึ่งต้องการปลอบโยนนางแต่ถูกผู้อาวุโสสูงสุดขวางเอาไว้

พลังของจอมมารระเบิดออกมาในทันทีพร้อมกับรัศมีแห่งการสังหารก็หลั่งไหลพรั่งพรูออกมา “ปล่อยซะ ไม่เช่นนั้นข้าจะสังการเจ้าเดี๋ยวนี้”

“เจ้าไปตอนนี้แล้วจะทำสิ่งใดได้?”

"เรื่องของข้า"

จอมมารยกแขนเสื้อขึ้นผู้อาวุโสสูงสุดก็ถูกสะท้านถอยไปสองสามก้าว อวัยวะภายในก็เคลื่อนไหวขึ้นชั่วหนึ่ง

“หากว่าอี้เฉินเฟยไม่ตายท่านหัวหน้าเผ่าก็ต้องตาย นี่เป็นสิ่งที่เจ้าต้องการหรือ?” ผู้อาวุโสสูงสุดกล่าวเสียงดัง

ฝีเท้าของจอมมารราวกับว่าจะเต็มไปด้วยตะกั่ว จนขยับเขยื้อนเช่นไรก็ไม่สามารถขยับได้

ร่องรอยความสับสนแว๊บผ่านใบหน้าอันมีเสน่ห์ของเขา

ในท่ามกลางความวุ่นวายยุ่งเหยิงนั้นทุกสิ่งทุกอย่างก็ไม่ทันการเสียแล้ว

ทันใดนั้นก็เห็นอี้เฉินเฟยยกริมฝีปากขึ้นยิ้มและมองกู้ชูหน่วนด้วยความเป็นห่วง มุมปากดังเช่นดังเดิมและกล่าวอย่างทะนุถนอมว่า "รักตนเองให้ดีๆ ความสุขของเจ้าก็คือความสุขของข้า"

กล่าวแล้วอี้เฉินเฟยกางแขนออกพร้อมหายใจเข้าลึกและกระโดดลงไปในเตากลั่นยา

ก่อนที่เขาจะเสียชีวิตแววตาคู่ยิ้มแย้มทั้งน้ำตานั่นยังสะท้อนอยู่ในดวงตาอันสะพรึงกลัวของกู้ชูหน่วน

จนตายก็ไม่ยอมละสายตาออก

"อย่า......"

กู้ชูหน่วนรีบพุ่งเข้าไปอย่างโซซัดโซเซ

แต่กลับถูกเปลวเพลิงอันลุกโชนบังคับให้ถอยออก

เปลวเพลิงอันลุกโชนตามหลังการสังเวยของอี้เฉินเฟย อุณหภูมิร้อนขึ้นกว่าเก่าหลายร้อยเท่า ซึ่งกำลังคนนั้นไม่สามารถเข้าใกล้ได้เลย

และไฟที่โหมกระหน่ำนั้นชั่วขณะที่อี้เฉินเฟยกระโดลงไปแทบจะสลายกระดูกและเลือดของเขาจนหมด

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์