กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ นิยาย บท 701

"ท่านพี่หน่วน..."

ผู้คนรอบๆ อยากเข้าไปพยุงกู้ชูหน่วนขึ้น แต่กลับถูกกู้ชูหน่วนสะบัดทิ้งอย่างเหี้ยมโหด

นางกุมขมับไว้แน่น บทสนทนาผุดขึ้นในหัวของนางไม่หยุด ทุกประโยคล้วนทำให้นางรู้สึกตายทั้งเป็น

"ท่านพี่เฉินเฟย ขลุ่ยหยกเลานี้ของท่านงามยิ่งนัก มอบให้ข้าได้หรือไม่?"

"ขลุ่ยหยกเลานี้ต้องมอบให้แก่ภริยาของข้าเท่านั้น เจ้าอยากได้จริงๆ หรือ?"

"เพคะ"

"ก็ได้ รอให้เจ้าโตแล้ว ท่านพี่เฉินเฟยจะมอบขลุ่ยหยกนี้ให้กับเจ้า"

"ย่อมได้เพคะ"

"ท่านพี่เฉินเฟย ได้ยินมาว่าท่านถูกผู้อาวุโสสูงตีใช่หรือไม่เพคะ?"

"มิเป็นไรหรอก เพียงแผลเล็กเท่านั้น ไม่เจ็บหรอก"

"เพราะว่าท่านเด็ดบุปผาในเผ่าหยกจนหมด เพื่อทำขนมเปี๊ยะดอกไม้ให้กับข้าใช่หรือไม่?"

"เจ้าเด็กน้อย เพียงแค่เจ้าอยากกิน อย่าว่าแต่เผ่าหยกเลย แม้นจะเป็นบุปผาทั้งโลกันต์ ข้าก็จะเด็ดมาทำขนมเปี๊ยะดอกไม้ที่หลากหลายให้เจ้าจงได้"

"ท่านนั่นแหละที่เป็นเด็กน้อย ถูกผู้อาวุโสสูงตีเพียงนี้แล้ว ยังหัวเราะได้"

"เพียงแค่เจ้าดีใจก็คุ้มค่าแล้ว"

เพราะเหตุใด...

เพราะเหตุใดในหัวของนางถึงได้มีภาพเหล่านี้ปรากฏออกมาได้?

นี่เป็นบทสนทนาเมื่อครั้งยังเยาว์วัยระหว่างเจ้าของร่างเดิมกับอี้เฉินเฟยอย่างนั้นหรือ?

"เจ้ายอมรับตำแหน่งหัวหน้าเผ่าจริงๆ แล้วงั้นหรือ?"

"ข้าคือธิดาศักดิ์สิทธิ์ ดำรงตำแหน่งหัวหน้าเผ่าเป็นชะตาของข้า ตามหาไข่มุกมังกรก็เป็นชะตาของข้าด้วย"

"เป็นหัวหน้าเผ่า...ลำบากมาก...ทั้งยัง...มิสามารถครองรักกับคนในเผ่าด้วย"

"ขออภัยด้วย..."

"ไม่...ไม่มีอะไรต้องขออภัยหรอก หากเจ้าเป็นหัวหน้าเผ่า ข้าก็จักพยายามผึกวรยุทธ์ พัฒนาตนเอง เพื่อเป็นผู้อาวุโสสูงให้จงได้ และช่วยเจ้าบรรเทาความทุกข์ยากลำบากตลอดกาล"

"ท่านมิจำเป็นต้อง..."

"เป็นคนของเผ่าหยกเหมือนกัน เพื่อเผ่าหยกแล้ว เจ้ายอมเสียสละได้ แต่ท่านพี่เฉินเฟยในฐานะพี่ชาย จะไม่ช่วยเจ้าได้อย่างไร ตั้งแต่บัดนี้ ข้าจะเป็นพี่ชายของเจ้าแต่เพียงผู้เดียว หากเจ้ามีเรื่องลำบากอันใดก็มาหาข้าได้เสมอ"

ปวด...

ปวดเหลือเกิน...

เหตุใดนางจึงปวดหัวและปวดใจมากเพียงนี้กัน

เหตุใดนางจึงรู้สึกว่าหัวใจของท่านพี่เฉินเฟยกำลังปวดร้าว เหตุใดเขาถึงเจ็บปวดมากเพียงนี้กัน

"อาหน่วน เรื่องบางเรื่องเงาสามารถจัดการได้ เจ้ามิจำเป็นต้องจัดการด้วยตนเองไปเสียทุกเรื่องหรอก เช่นนั้น จะทำให้ร่างกายเจ้าแย่ลงนะ"

"ผู้คนนับหมื่นในเผ่าหยกกำลังรอให้ข้ากำจัดคำสาปโลหิตอยู่ ข้าไม่มีเวลารอต่อไปแล้ว ก่อนหน้านี้ก็มีถูกเงาหนึ่งหักหลัง ครั้งนี้ก็ถูกเงาอีกตนหนึ่งหักหลังอีก มีเงาเยอะเกินไปก็มิใช่เรื่องดีเท่าไรนัก นับแต่บัดนี้เป็นต้นไป ยกเลิกเงาทั้งหมด เผ่าหยกจะไม่มีเงาอีกต่อไป"

"ธารน้ำแข็งนั้นอันตรายนัก ข้าไม่อนุญาตให้เจ้าไปเพียงลำพังเด็ดขาด"

"ไม่เข้าถ้ำเสือ ใยจะได้ลูกเสือ"

"ที่นั่นมีอสุรกายระดับเจ็ดนะ"

"อย่าว่าแต่ระดับเจ็ดเลย แม้นจะเป็นระดับคน ระดับดิน หรือระดับฟ้า ข้าก็จะไป"

"การตามหาไข่มุกมังกรมิใช่ชะตาของเจ้าแต่เพียงผู้เดียว เหตุใดเจ้าจึงต้องลำบากตนเองถึงเพียงนี้"

"เพราะว่า...ข้าเป็นหัวหน้าเผ่าของเผ่าหยก...ข้าไม่มีทางเลือกอื่น"

กู้ชูหน่วนเหงื่อเย็นไหลหยด

ทั้งๆ ที่เป็นความทรงจำของเจ้าของร่างเดิม แต่กลับราวกับว่านางเคยผ่านเหตุการณ์เหล่านี้มาอย่างไรอย่างนั้น

นางรับรู้ถึงความยึดมั่นและจนปัญญาของเจ้าของร่างเดิมได้อย่างชัดเจน

นางรับรู้ถึงความเจ็บปวดและความอาลัยอาวรณ์ของอี้เฉินเฟย

ฮวาฉี่หลัวและคนอื่นๆ เขย่าตัวกู้ชูหน่วนอย่างรุนแรง อยากจะเขย่าให้นางตื่น

“ท่านพี่หน่วน ตื่นเถอะ อี้เฉินเฟยตายไปแล้ว ท่านอย่าคิดมากอีกเลย”

“แย่แล้ว แรงผนึกของอาหน่วนยิ่งอยู่ยิ่งอ่อนลงแล้ว ผนึกของนางใกล้จะถูกทำลายลงแล้ว”

จอมมารเงยหน้าทันที

นั่นเป็นภาพที่หัวหน้าเผ่าคนก่อนทิ้งตำราทำมือไว้กับนางเล่มหนึ่ง

ในตำราเขียนไว้ว่าต้องการรวมไข่มุกมังกรทั้งเจ็ดลูกเข้าด้วยกันนั้น จำต้องใช้ผู้ที่มีหยินและหยางบริสุทธิ์ถวายอย่างเต็มใจเท่านั้น

นางมิอาจเชื่อความจริงนี้ได้ เพราะว่าอี้เฉินเฟยก็คือผู้ที่มีหยางบริสุทธิ์คนนั้น

ดังนั้น นางจึงนำตำราทำมือนี้ไปพบท่านผู้อาวุโสสูงสุด เพื่อยืนยัน

พอดีกับอี้เฉินเฟยที่ไปพบท่านผู้อาวุโสสูงสุด เพื่อถามไถ่เนื้อหาในตำราเช่นกัน

แต่ผู้อาวุโสสูงสุดผู้มึนงง กลับทำให้ตำราทำมือของนางและอี้เฉินเฟยสลับกัน นำตำราทำมือของนางให้กับอี้เฉินเฟย

นางจึงรีบเร่งตามหาอี้เฉินเฟย เพื่อนำตำราทำมือนั้นกลับมา

อี้เฉินเฟยมึนงง

นางในตอนนั้น เกรงว่าอี้เฉินเฟยจะเห็นเนื้อหาในตำราเข้า จึงได้ถามเขาอย่างระแวดระวัง

อี้เฉินเฟยก็ตอบนางอย่างนุ่มนวลว่า เขายังไม่ได้เปิดดู นางก็แย่งตำราไปเสียแล้ว ในตำราต้องเขียนเรื่องเขาไม่ดีแน่นอน

นางเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง และมิอาจรู้ได้ว่าจริงๆ แล้วอี้เฉินเฟยได้เปิดดูตำราทำมือนี้หรือไม่

หลังจากนั้น…เรื่องนี้ก็จบไป

แต่บัดนี้…

เกรงว่าอี้เฉินเฟยน่าจะเปิดดูเนื้อหาในตำราทำมือเล่มนั้นแล้ว

หรือไม่ก็เขาคิดหาวิธีสร้างค่ายกล จึงได้ไปตามหาตำราทำมือเมื่อปีก่อน และได้เห็นเนื้อหาในตำราไปเสียแล้ว

เพราะเช่นนั้น…เขาถึงเลือกที่จะถวาย เพื่อสมปราถนาของนาง…

“เร็วเข้า พวกเจ้าเร็วหน่อยสิ แรงผนึกยิ่งอยู่ยิ่งอ่อนลง ลำแสงโลหิตยิ่งอยู่ยิ่งสว่างขึ้นแล้ว” ฮวาฉี่หลัวกังวลจนถูมือตนเอง

เหล่าผู้อาวุโสสูงต่างก็ใช้พลังอย่างสุดความสามารถ แต่ทว่าพวกเขาก็มิอาจกดทับลำแสงโลหิตไว้ได้

พวกเขาเองก็อยากจะกดทับลำแสงโลหิตลงไปโดยไว

ตอนนั้น เพื่อช่วยนางสร้างผนึก มีผู้อาวุโสสูงหลายท่านที่เสียสละใช้พลังไปจนหมดตัว

พวกเขามิได้เกรงกลัวการสละชีพ แต่ที่กลัวคือ กลัวว่าหลังจากสละชีพไปแล้ว ยังคงไม่สามารถควบคุมผนึกของกู้ชูหน่วนไว้ได้เท่านั้น

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์