กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ นิยาย บท 714

ไม่ทันรอให้กู้ชูหน่วนได้กล่าว คนใช้ผู้หนึ่งก็เดินเข้ามากระซิบข้างหูของกู้ชูหน่วนด้วยอย่างรีบร้อน กู้ชูหน่วนขมวดคิ้ว รู้สึกหนาวสะท้านไปทั้งตัว

หัวใจของเหวินเส่าอี๋และเยี่ยจิ่งหานเต้นตึกตัก บางทีเผ่าหยกอาจจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นก็ได้?

กู้ชูหน่วนโบกมือไปมา คนใช้เข้าใจ จึงรีบถอยออกไป

กู้ชูหน่วนมองไปทางเหวินเส่าอี๋และเยี่ยจิ่งหานด้วยสายตาเย็นชา ก่อนจะหลุดหัวเราะออกมา และกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “สะสางบัญชีอะไรกันเล่า เรื่องระหว่างเรามันมีเยอะกว่านั้น”

“เชิญเหวินเส่าอี๋พูดก่อนเถิด เจ้าเข้ามาในเผ่าหยกระยะหนึ่งแล้ว ฤทธิ์เดชจากคำสาปโลหิตของเผ่าหยกก็เจ็บปวดร้าวรานเพียงนั้น ผู้คนจำนวนมากต้องมีชีวิตตกนรกอย่างไร เจ้าก็คงเห็นแล้วสินะ”

เหวินเส่าอี๋ก้มหน้าลง ดวงตาสีดำขลับดุจหมึกดำคู่นั้นได้ฉายแววเห็นใจ

เพียงแต่ความเห็นใจนี้ถูกเขาข่มเอาไว้มาเนิ่นนาน มันอยู่ลึกเสียจนไม่มีใครเห็น

เผ่าหยกช่างน่าสงสารยิ่งนัก น่าสงสารยิ่งกว่าที่เขาจินตนาการไว้หลายพันเท่า

เพียงแต่นางกับเขาจะพูดเรื่องเหล่านี้กันเพื่ออะไร?

ความเจ็บปวดรวดร้าวที่บรรพบุรุษเผ่าเพลิงฟ้ากำหนดไว้กับพวกเขา กำลังจะตกมาสู่เขาทั้งหมด?

“เผ่าเพลิงฟ้าถือโอกาสที่เผ่าหยกต้องคำสาปโลหิต สังหารเผ่าหยกที่มีมานานกว่านับพันปีจนสิ้นซาก จากเผ่าผู้ยิ่งใหญ่เกรียงไกร บัดนี้เผ่าหยกต้องเปลี่ยนผันกลายเป็นเผ่าที่ต้องซ่อนอยู่ในมุมใดมุมหนึ่งในใต้หล้านี้ ใช้ชีวิตเหมือนตายทั้งเป็น”

“เพื่อช่วงชิงไข่มุกมังกรเม็ดที่เจ็ด จึงต้องปล่อยข่าวลือว่าไข่มุกมังกรเม็ดนั้นอยู่ในมือของพวกเรา ปลุกระดมผู้มีอำนาจจากทั่วสารทิศในใต้หล้าเข้ามาช่วงชิง ทำลายเผ่าหยกของเราจนไม่เหลือชิ้นดี”

“เหตุใดท่านถึงได้พูดเรื่องเหล่านี้กับข้า?” เหวินเส่าอี๋ปรายตาขึ้นเล็กน้อย และกล่าวถามตรง ๆ

กู้ชูหน่วนแสยะยิ้มเย็นยะเยือก “เหตุใดนั้นหรือ? แก้แค้นให้ท่านพ่ออย่างไรเล่า เจ้าเป็นนายน้อยของเผ่าเพลิงฟ้า เจ้าว่าข้าคิดจะทำอะไรละ?”

“ดังนั้น.....ท่านจึงอยากฆ่าข้า?”

เหวินเส่าอี๋กล่าวด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง นัยน์ตาที่อบอุ่นคู่นั้นได้จ้องมองไปยังกู้ชูหน่วนอย่างไม่ละสายตา ราวกับอยากรู้ว่ากู้ชูหน่วนจะมีจิตสังหารจริงหรือไม่

วันนั้นเขาถูกโซ่ตรวนล่ามไว้ เป็นเขาที่ส่งอินเอ๋อร์มาปกป้องเขา

วันนั้นที่หนองบึง ยามที่เขามีอันตราย ก็เป็นนางที่พาเขาไปอย่างมีเงื่อนไข

แม้ว่าพวกเขาจะเป็นศัตรูกัน แต่ถึงกระนั้นเรื่องระหว่างทั้งสองคนก็ยังต้องสะสาง

นางจะฆ่าเขาได้อย่างไร?

ใบหน้าของกู้ชูหน่วนยังคงไร้ความรู้สึกใด เพียงแค่กล่าวอย่างเนิบช้าว่า “ข้าเป็นหัวหน้าเผ่าของเผ่าหยก ย่อมต้องยืนพิจารณาจากมุมมองของเผ่าหยก เจ้าอย่าได้โทษข้าละกัน หากจะโทษก็ต้องโทษที่เจ้าเป็นนายน้อยของเผ่าเพลิงฟ้า”

ประโยคนี้เท่ากับประกาศโทษประหารชีวิตของเหวินเส่าอี๋

ฝ่ามือของเหวินเส่าอี๋สั่นระริกเล็กน้อย สีหน้าไม่ค่อยสู้ดีนัก

แต่กลับได้ยินกู้ชูหน่วนกล่าวต่อว่า “เจ้ามีสติปัญญาและเฉลียวฉลาด พรสวรรค์ในด้านการต่อสู้ก็สูง แม้ว่าตอนนี้จะตกต่ำมาระดับหนึ่ง แต่ขอแค่เจ้าพยายามมากกว่านี้ ไม่ช้าก็เร็วจะต้องมีสักวันที่เจ้าได้กลับมาระดับหกอีกครั้ง กระทั่งไต่ถึงระดับเจ็ด ข้าคงปล่อยให้อันตรายใด ๆ มาคุกคามเผ่าหยกไม่ได้”

“ข้าทำได้แค่ต้องทำลายวรยุทธ์ของเจ้า ขังเจ้าไว้ในคุกใต้ดินที่มืดมิดของเผ่าหยกชั่วนิจนิรันดร์”

กู้ชูหน่วนพูดเน้นย้ำตรงคำว่าทำลายวรยุทธ์

ครั้นได้ยินประโยคนี้ ไม่ว่าเหวินเส่าอี๋หรือเยี่ยจิ่งหานก็ล้วนตื่นตกใจกันทั้งนั้น

คนที่ฝึกฝนการต่อสู้ให้ความสำคัญกับวรยุทธ์มาก

ทำลายวรยุทธ์ของเขา สู้ฆ่าเขาไปตายรู้แล้วรู้รอดดีกว่า

เดิมทีวรยุทธ์ของเขาก็ถูกลดลงระดับหนึ่งอยู่แล้ว ซึ่งก็เหมือนกับตายทั้งเป็น หากวรยุทธ์ถูกทำลายอีก เกรงว่าเหวินเส่าอี๋เองก็คงมีชีวิตอยู่ต่อไปไม่ได้

เหวินเส่าอี๋หัวเราะอย่างขมขื่น “ในเมื่อท่านกลัวข้าถึงเพียงนั้น ก็สู้ฆ่าข้าไปเสียรู้แล้วรู้รอด”

“เจ้าไม่ได้มีจิตใจเลวทราม เคยช่วยชีวิตข้ามาแล้วหลายครา ข้าจะเนรคุณเจ้าได้อย่างไร”

เหวินเส่าอี๋คลี่ยิ้มอย่างฉับพลัน รอยยิ้มนั้นช่างอ้างว้างยิ่งนัก

เขาผงกศีรษะขึ้น มองไปยังกู้ชูหน่วน ด้วยสายตาที่แฝงไปด้วยความคาดหวัง

“หากข้าไม่ใช่นายน้อยของเผ่าเพลิงฟ้าละ เราจะยังเป็นสหายต่อกันได้หรือไม่?”

กู้ชูหน่วนเมินหน้าไปทางอื่น สายตาก็ไม่แม้แต่จะมองเหวินเส่าอี๋ “น่าเสียดายที่เจ้าเป็นคนของเผ่าเพลิงฟ้า และเป็นนายน้อยของเผ่าเพลิงฟ้า”

เงียบสงัด.......

ภายในคุกเกิดความเงียบอย่างน่าประหลาด เงียบเสียจนได้ยินเสียงเลือดที่ไหลเวียนอยู่ในหัวใจของเหวินเส่าอี๋

กู้ชูหน่วยโบกมือ ผู้อาวุโสของเผ่าหยกสองคนได้เดินรุดขึ้นหน้า

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์