“ไม่ว่าจะเป็นผู้ใด เพียงแค่กล้าแตะต้องเส่าอี๋ นางจะต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย เอาชีวิตมา”
“แก่ตายยาก ข้าไม่ถูกใจเจ้ามาตั้งนานแล้ว วันนี้เจ้าไปลงนรกพร้อมกับเหวินเส่าอี๋เถิด”
“ตุ้มๆๆ…..”
ข้างหูมีเสียงระเบิดดังขึ้นอย่างรุนแรง
หูของกู้ชูหน่วนแทบจะหนวกดับเลยทีเดียว
นางอยากพาเหวินเส่าอี๋ออกจากสนามรบ แต่บริเวณโดยรอบทุกแห่งหนลอยเต็มไปด้วยเศษซากกระเบื้อง นางจึงไร้ซึ่งหนทางที่จะถอยร่น เพียงแค่ก้าวพลาดพลั้งก้าวเดียว พวกเขาล้วนจะต้องตายอยู่ที่นี่อย่างอนาถ
อยู่ที่เดิมอย่างน้อยก็มีผู้อาวุโสเสวี่ยเย่ปกป้อง
ไม่รู้ผู้อาวุโสเสวี่ยเย่เกรงว่าเหวินเส่าอี๋จะได้รับบาดเจ็บหรือไม่ จึงได้ดึงดูดฮวาอิ่งไป เสียงของสนามรบห่างไกลจากพวกเขามากขึ้นเรื่อยๆ
กู้ชูหน่วนถึงได้ประคองเหวินเส่าอี๋ ประคองจนไปถึงสถานที่ที่ปลอดภัยเป็นการชั่วคราว
ลูกศิษย์ของเผ่าเพลิงฟ้าได้ยินข่าวต่างรีบมา ทั้งหมดได้ถูกทั้งสองคนทำให้ได้รับบาดเจ็บ ตายอยู่ตรงสถานที่เกิดเหตุ แม้แต่ซากศพยังไม่หลงเหลือทิ้งไว้
“เหวินเส่าอี๋ ท่านฟื้นสิ รีบฟื้นขึ้นมา”
นางต้องถือโอกาสนี้หลบหนี ไม่อย่างนั้นไม่ว่าเสวี่ยเย่หรือเงาชนะ ชีวิตนางล้วนต้องถูกบีบ
แต่ถ้านางไปแล้ว เหวินเส่าอี๋จะทำอย่างไร?
เสวี่ยเย่ชนะถือเป็นเรื่องดี หากเงาชนะล่ะ?
เขาก็ไม่ใช่ว่าต้องตายหรือ?
วรยุทธ์ของพวกเขาพอกัน ล้วนเป็นยอดฝีมือชั้นสูงสุดระดับหก
ผู้อาวุโสสูงสุดเสวี่ยเย่อายุมาก และแน่นอนว่าไม่ได้ดีเท่าเงา แต่ว่าด้วยเรื่องของประสบการณ์เขาดีกว่าเงามาก
สงครามการสู้รบครั้งนี้ คนที่จะชนะไม่แน่นอน
กู้ชูหน่วนอุตลุด ทำได้เพียงแอบหลบเป็นการชั่วคราว เพื่อดูสถานการณ์ก่อน หากสถานการณ์ไม่ดีนางค่อยพาเหวินเส่าอี๋หนี และคิดหาวิธีอื่น
สิ่งที่ทำให้นางคิดไม่ถึงคือ การต่อสู้ครั้งยิ่งใหญ่จะจบสิ้นลงก็จบเลย ทั้งหมดไม่มีสัญญาณเลยสักนิดหนึ่ง
ผู้อาวุโสสูงสุดเสวี่ยเย่ยืนตรงราวกับพู่กันอยู่ตรงหน้านาง และมองนางด้วยสายตาเยือกเย็น
เสวี่ยเย่ได้รับบาดเจ็บ และยังบาดเจ็บไม่น้อยด้วย แม้จะพยายามปิดบังอำพรางอย่างไร ก็รับรู้ได้ถึงความรู้สึกเหน็ดเหนื่อยอย่างมากของเขา
และกู้ชูหน่วนยังสัมผัสได้ถึงบรรยากาศลมหายใจที่ไม่แน่วนิ่ง มันกระเพื่อมแผ่ซ่านขึ้นมา ชัดเจนว่าทำร้ายถึงรากฐานแล้ว
ทั้งคู่สบสายตากัน กู้ชูหน่วนเลยไม่รู้จะกล่าวพูดสิ่งใด
เสวี่ยเย่จึงกล่าวขึ้นว่า“เจ้าคือหัวหน้าเผ่าคนใหม่ของเผ่าหยกใช่หรือไม่?”
“ไม่ใช่ ข้าเป็นเพียงเงาเท่านั้นเอง”
“เผ่าหยกยกเลิกเงาไปนานแล้ว เผ่าหยกอันโออ่าไม่มีเงาให้กล่าวถึงแล้ว”
“ข้าเป็นเงาเมื่อก่อนหน้านี้ ไม่ใช่ตอนนี้”
“เหอะ….เจ้าเด็กน้อย เจ้าคิดว่าข้าเป็นเด็กสามขวบหรือ?”
กู้ชูหน่วนผายมือ จากนั้นกล่าวว่า“เจ้าว่าอย่างไรก็อย่างนั้นแหละ ถึงอย่างไรข้าก็อยู่ในกำมือเจ้า ข้าไม่สามารถต่อต้านได้อยู่แล้ว แต่……เจ้าควรที่จะดูแลอาการบาดเจ็บของเหวินเส่าอี๋ก่อนไหม”
“เห็นแก่เจ้าที่ช่วยเส่าอี๋เมื่อครู่นี้ ข้าจะไว้ชีวิตเจ้าก่อน บัญชีความแค้นระหว่างเราค่อยๆชำระอย่างช้าๆ”
เสวี่ยเย่คุกเข่าลงประคองเหวินเส่าอี๋ที่กำลังสลบอยู่
ทันใดนั้น สีหน้าเขาเปลี่ยน ทั้งตัวสั่นสะดุ้ง
“วรยุทธ์ถูกทำลายสูญสิ้น กระดูกสะบักก็ด้วย?เป็นเช่นนี้ได้อย่างไร….เหตุใดพวกเจ้าถึงได้ทำลายกระดูกสะบัดของเขา แล้วยังมีรอยบาดเจ็บบนร่างกายนี้ ผู้ใดทำเขา?เป็นผู้ใดที่ฉีกเลือดเนื้อของเขา?”
รังสีอำมหิตแผ่ซ่าน ล้อมรอบอยู่ที่เผ่าหยก
ลูกศิษย์แต่ละคนของเผ่าเพลิงฟ้าที่เพิ่งมาถึงคุกเข่าลงตัวสั่นระริก
รังสีอำมหิตแกร่งกล้า
ความเดือดดาลที่พร้อมปะทุ
ผู้อาวุโสสูงสุดเสวี่ยเย่ที่อารมณ์ดีตลอดมาเดือดดาลโมโหแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์
เป็นนางเอกที่นิสัยแย่ที่สุดตั้งแต่เคยอ่านมา...
คือตัวเองไม่มีเงิน แต่คิดจะเอาทุกอย่างด้วยราคาสูงเสียดฟ้า แล้วก็หาคำพูดให้คนอื่นจ่ายแทน ตัวเองหาประโยชน์จากคนใกล้ตัวแต่กลับเอาใจให้คนอื่นตลอดเนี่ยนะ...
แม่นางกู้เกินเยียวยาแล้วเด้อ 555...
เยี่ยเฟิงเป็นคนดีมาก แต่เขาทนงตัวเกินไป ชีวิตที่ผู้อื่นฝ่าฟันเพื่อแย่งชิงลมหายใจเขาไว้ แต่เขาก็ดิ้นรนกลับไปหาความตายอยู่เรื่อย...
ท่านอาจารย์พูดให้คิดดีมากเลย แต่อาหน่วนจะเข้าใจไหม นางดูมั่นหน้า มั่นใจเกิตเหตุแบบไม่สนสี่สนแปดใดใดเลย...
อยากให้กลับมาอัพเดทไวๆนะคะ ขอบคุณมากค่ะ...
สรุปเรื่องนี้มีตอนจบมั้ยค่ะ...
รอตอนจบอยู่นะคะ ใจบางไม่ไหวแล้วทรมาน...
รออัพเดทอยู่นะคะ...
เมื่อไหร่จะอัพต่อค่ะ...