กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ นิยาย บท 784

ไป๋หลี่สยงจับตัวชาวบ้านของหมู่บ้านตระกูลหลินนับร้อยคน และไม่ได้กลับไปยังตระกูลไป๋หลี่

แต่กลับไปที่ภูเขาหมาป่าหิมะ

เขาพาชาวบ้านทุกคนไปยังส่วนลึกของภูเขาหมาป่าหิมะ

แต่ตนเองกลับอยู่ยอดเขาอีกลูกหนึ่งด้านนอกและจ้องมองทุกสิ่งอย่างที่เกิดขึ้น

กู้ชูหน่วนมองขึ้นไป

เพียงแค่ครั้งเดียวก็สามารถมองออกได้แล้วว่า ภูเขาหมาป่าหิมะถูกสร้างค่ายกลเอาไว้ นอกจากค่ายกลจะเปิดออก มิเช่นนั้นพวกเขาจะไม่สามารถออกไปได้อย่างแน่นอน

บนยอดเขา ไป๋หลี่สยงผู้หยิ่งยโสเมื่อครู่ บัดนี้กลายเป็นเหมือนขันทีตัวน้อยราวกับขาสุนัข อยู่ข้างกายสุภาพบุรุษผู้ศูงศักดิ์ในชุดผ้าทองามวิจิตร ทั้งยิ้มและโค้งคำนับต่อเขาอย่างต่อเนื่อง

ไป๋หลี่หมิงคุณชายในชุดผ้าทอสีหน้าหยิ่งยโสและไม่มีใครอยู่ในสายตา

ข้างกายไป๋หลี่หมิงยังมีวัยกลางคนอายุราวสี่สิบ คนวัยกลางคนคนนี้แววตาชัดเจน เห็นได้ชัดว่าฝีมือของเขาต้องไม่ธรรมดาแน่นอน ทว่าเขาเพียงยืนอยู่ข้างกายไป๋หลี่หมิง ซึ่งชัดเจนว่าเขานั้นเป็นองครักษ์ผู้ซื่อสัตย์คนหนึ่ง

นอกจากพวกเขาแล้ว ยังมีชายหนุ่มที่สวมหน้ากากผีอยู่คนหนึ่ง

ชายหนุ่มคนนี้มีปานอยู่บนขาทั้งสองข้าง และกำลังเล่นขลุ่ยหยกขาวราวหิมะในมืออยู่บนรถเข็น

เพราะว่าสวมหน้ากากผีไว้ จึงทำให้ผู้คนรอบๆ มิอาจรู้ว่าโฉมหน้าเขาเป็นอย่างไร แต่ทว่าเขาเพียงแค่นั่งอยู่บนรถเข็น กลับมีความรู้สึกสูงส่งขัดขืนไม่ได้ และความสูงส่งนี้มีมาตั้งแต่กำเนิด ทำให้ผู้คนไม่อาจละสายตาไปได้

ไป๋หลี่สยงยิ้มอย่างมีความสุข และกล่าวอย่างเอาใจว่า “คุณชาย หมาป่าหิมะโปรดปรานเนื้อ โดยเฉพาะเนื้อมนุษย์สดใหม่ ครั้งนี้เราปล่อยคนนับร้อยเป็นเหยื่อล่อ จักต้องเรียกหมาป่าหิมะออกมาได้อย่างแน่นอนขอรับ รอให้หมาป่าหิมะออกมา ด้วยความสามารถของคุณชายแล้ว ต้องปราบหมาป่าหิมะได้แน่ ในที่ใกล้จะถึงนี้ คุณชายต้องได้รับรางวัลและทำให้โลกสะพรึงอย่างแน่นอนขอรับ”

ไป๋หลี่หมิงชอบใจ และกล่าวอย่างเย่อหยิ่งว่า “หากเรื่องนี้ทำสำเร็จ ข้าจะตบรางวัลหนักๆ ให้เจ้าแน่นอน”

“ขอบพระทัยคุณชายขอรับ คุณชายจักต้องปราบหมาป่าหิมะได้อย่างแน่นอน”

หมาป่าหิมะยังไม่ออกมา ไป๋หลี่หมิงก็รู้สึกว่าตนปราบมันได้สำเร็จไปแล้ว

ชิงเฟิงและเจี้ยงเสวี่ยที่อยู่ข้างกายเยี่ยจิ่งหานอดมิได้ที่จะหัวเราะเยาะและดูถูก

มาถึงก็ไม่เห็นด้วยกับวิธีการของพวกเขา

และใช้คนนับร้อยมาเป็นเหยื่อล่อ เพื่อดึงดูดหมาป่าหิมะออกมา วิธีการนี้ช่างโหดเหี้ยมเหลือเกิน

แม้นจะปราบหมาป่าหิมะได้ ทว่าหมาป่าหิมะก็เป็นเพียงอสุรกายระดับหนึ่งเท่านั้น มีอะไรน่าโอ้อวดนัก

เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์สัตว์เลี้ยงตัวโปรดของพระชายาในปีนั้น เป็นถึงระดับห้าเชียวนะ

มิรู้เช่นกันว่าเพราะเหตุใดนายท่านถึงได้ตกลงเป็นแขกผู้อาวุโสของตระกูลไป๋หลี่ได้ จากที่พวกเขาสอดส่องดูมา ตระกูลไป๋หลี่ที่กว้างใหญ่นี้ ไม่มีของดีอะไรเลย

นึกย้อนไปเมื่อสามปีก่อนหลังจากที่พระชายาตายไป ถึงแม้นายท่านจะปลดคำสาปโลหิตออกไปได้แล้ว แต่กลับถูกพลังตอบโต้ของตนทำร้ายจนสาหัส ทำให้ขาทั้งสองข้างทุพพลภาพอีกครั้ง บวกกับอาการบาดเจ็บสาหัสมาหลายปี ทำให้เขาเกือบจะเสียชีวิต

สามปีมานี้ นายท่านก็มิได้รักษาตัวดีๆ แต่กลับนำกาขังวิญญาณ เดินทางไปทั่วทุกแห่งหน เพื่อตามหาหนทางที่จะช่วยให้พระชายาฟื้นคืนชีพได้

สามปีแล้ว เป็นเวลาสามปีเต็มที่พวกเขาไม่ได้เห็นนายท่านยิ้มเลย

ครั้งนี้ พวกเขาได้ยินมาว่าของเหลววิญญาณไท่ยีของรัฐปิงสามารพเลี้ยงพลังวิญญาณได้ ทั้งยังสามารถปลุกวิญญาณให้ฟื้นคืนชีพได้ด้วย

นายท่านจึงยอมแลกด้วยทุกอย่างโดยไม่สนใจ เดินทางข้ามทวีปจากรัฐเยี่ยมาที่รัฐปิง

รัฐเยี่ยและรัฐปิงเป็นสองแผ่นดินที่แตกต่างกัน

รัฐปิงกว้างใหญ่เพียงนี้ มิรู้ว่าของเหลววิญญาณไท่ยีจะอยู่ที่ใดกัน

พวกเขาไม่รู้แม้กระทั่งของเหลววิญญาณไท่ยีนี้มีอยู่บนโลกใบนี้จริงหรือไม่

บนภูเขาหมาป่าหิมะ

เหล่าชาวบ้านของหมู่บ้านตระกูลหลินต่างก็หวาดกลัวจนมิสบายใจ ต่างก็รวมกลุ่มกันและกล่าวอย่างใจร้อนว่า “พวกเขาพาเรามาที่นี่ทำไมกัน? หรือว่าจะฆ่าพวกเราที่นี่อย่างนั้นหรือ”

“หากจะฆ่าจริงๆ ก็คงฆ่าตั้งแต่อยู่ที่หมู่บ้านตระกูลหลินแล้ว จะลำบากพาพวกเรามาที่นี่ทำไมกัน”

“หรือว่าอยากจะให้เราเก็บเกี่ยวสมุนไพรที่ภูเขาแห่งนี้งั้นหรือ?”

“ภูเขาแห่งนี้ดูมืดมนน่าขนลุกนัก คงไม่มีสัตว์ร้ายหรอกกระมัง?”

“เป็นสัตว์ร้ายก็คงดี เกรงว่าจะมีอสุรกายน่ะสิท่า”

เมื่อได้ยินคำว่อสุรกาย บางคนที่ขี้กลัวต่างก็ร่ำไห้ออกมา

กู้ชูหน่วนจ้องมองรอบๆ จากนั้นก็มีเสียงอันเย็นยะเยือกค่อยๆ ดังแว่วออกมา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์