กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ นิยาย บท 786

ผู้ใดจะคิดว่ามุมปากของกู้ชูหน่วนกลับบังเกิดรอยยิ้มบางเบาขึ้น ร่างกายเกิดเสียงชู่ว์ขึ้นกลายเป็นเถ้าถ่าน และก็ไม่รู้ว่านางเคลื่อนไหวได้อย่างไร ไม่เพียงแต่ไม่หลบแต่กลับเงยหน้าพุ่งร่างเข้าใส่หมาป่าหิมะ

ในขณะที่อยู่ห่างจากราชาหมาป่าหิมะเพียงไม่กี่ชุ่นร่างกายได้อาศัยเถาวัลย์เหวี่ยงเข้าไปและเหวี่ยงเข้าไปถึงยังทางเข้าถ้ำที่ราชาหมาป่าหิมะยืนอยู่เมื่อครู่จากนั้นหยิบไข่หมาป่าหิมะขึ้นมา

ชิ่ว......

ไข่หมาป่าหิมะถูกยิงไปทางไป๋หลี่หมิง

ลุงเกิ่งคิดว่าสิ่งที่นางยิงมาคือก้อนหินจึงได้ทุบไข่แตกเลยโดยตรง

เสียงตุ๊บ......

ไข่แตก พญาหมาป่าโมโห

พญาหมาป่าเปล่งประกายแสงอันเย็นเฉียบเหี้ยมโหด เสียงหอนของหมาป่าดังขึ้นหมาป่าหิมะทั้งหมดหันเป้าหมายและต่างพุ่งมาทางไป๋หลี่หมิงและคนอื่นๆ

และ......

ในถ้ำได้ปรากฏหมาป่าหิมะระดับหนึ่งขึ้น แต่ละตัวได้แฝงเจตนาสังหารโหดร้ายต่อเนื่องพุ่งทะยานเข้าไปหา

ไป๋หลี่หมิงตกใจ

"เป็น......เป็นไปได้อย่างไร......ไม่ว่ามีหมาป่าหิมะระดับหนึ่งเพียงตัวเดียวเท่านั้นหรือ? อสุรกายระดับหนึ่งมากมายเช่นนี้มาจากที่ใดกัน?"

"ไป......"

ลุงเกิงดึงมีดและพุ่งเข้าไปสังหารหมาป่าหิมะพร้อมกับทหารอารักขาคนอื่นๆ

หมาป่าหิมะโกรธโดยที่แต่ละตัวนั้นดุร้าย ทหารอารักขาของตระกูลไป๋หลี่จำนวนไม่น้อยถูกหมาป่าหิมะกัดตายทั้งที่มีชีวิตอยู่ในที่นั้น

ลุงเกิงก็ถูกราชาหมาป่าหิมะระดับหนึ่งหลายตัวเกาะแกะ

เขาเป็นระดับสอง ต่อกรกับหมาป่าหิมะระดับหนึ่งตัวหนึ่งการชนะก็ยังคงมีอยู่ค่อนข้างมาก

แต่กลับมีพญาหมาป่าหิมะระดับหนึ่งจำนวนถึงห้าตัวอยู่ที่นี่ ศัตรูมากกว่าลุงเกิ่งรับมือไม่ไหว

ไป๋หลี่หมิงตกใจจนหน้าซีดเผือด โชคดีที่เขานำทหารอารักขามาด้วยจำนวนไม่น้อยและทหารอารักขาเหล่านี้ฝืนทนคุ้มกันเขาจากไป

ชิงเฟิงถามว่า “นายท่าน พวกเราต้องช่วยหรือไม่?”

ทหารองครักษ์เหล่านั้นไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหมาป่าหิมะเลย

หากว่าพวกเขาไม่ช่วย

เกรงว่าวันนี้ชีวิตของพวกเขาจะตกอยู่ในอันตราย

เยี่ยจิ่งหานเพียงแค่หมุนขลุ่ยหยกขาวไปมา ดวงตาเย็นชาคู่นั้นอยู่บนตัวของกู้ชูหน่วนอยู่เช่นนั้น และก็ไม่รู้ว่าเขากำลังคิดสิ่งใดอยู่

เยี่ยจิ่งหานเงียบ

เจี้ยงเสวี่ยพอจะรู้ว่าเขาหมายถึงสิ่งใดแต่ชิงเฟิงกลับยังคงโง่เขลาอยู่

ไม่รู้ว่ากลิ่นไอของพวกเขาหนักหน่วงเกินไปหรือเปล่า หรือคงเพราะเจี้ยงเสวี่ยปิดบังอยู่หมาป่าหิมะเหล่านั้นไม่โจมตีเขาเลยแม้แต่ตัวเดียว

ร่างกายของลุงเกิ่งถูกกัดเป็นโพรงเลือดจำนวนไม่น้อยโดยที่เลือดไหลรินทั่ว

ไป๋หลี่หมิงส่งสัญญาณเพื่อขอความช่วยเหลือ

ไป๋หลี่สยงตะโกนใส่เยี่ยจิ่งหานว่า "เฮ้ เจ้าคือแขกที่ผู้อาวุโสชิงได้เชิญมาจากตระกูลไป๋หลี่ของเราด้วยเงินจำนวนมาก ตอนนี้คุณชายของเราตกอยู่ในอันตรายเจ้ายังไม่รีบไปช่วยพวกเราอีก"

“เพี๊ยะๆๆ......”

เจี้ยงเสวี่ยตบหน้าไป่หลี่สยงหลายสิบฝ่ามือติดต่อกัน กำลังหนักหน่วงนักจนฟันหน้าของเขาถูกตบจนร่วงออกมา

“นายท่านของเราใช่ว่าเจ้าจะสามารถตะโกนเรียกเรื่อยเปื่อยได้”

“เดิมทีหน้าที่ของพวกเจ้าก็คือคุ้มครองคุณชาย หากว่าคุณชายเกิดสิ่งใด......อ๊ะ......”

ไม่รอให้ไป๋หลี่สยงพูดจบเจี้ยงเสวี่ยก็ได้โยนเขาเข้าไปในกองหมาป่าหิมะแล้ว

ไม่เกินความคาดหมายไป๋หลี่สยงถูกหมาป่าหิมะฉีดขาดจนตาย แม้แต่ร่างกายก็ถูกหมาป่าหิมะกินจนสะอาดหมดจดไม่ทิ้งเศษซากไว้เลยแม้แต่น้อย

ไป๋หลี่หมิงตื่นตระหนกไปเลยและไม่ใส่ใจที่จะขอความช่วยเหลือจากเยี่ยจิ่งหาน

แต่ให้คนของเขาคุ้มกันเขาจากไป

มีคนรับใช้คึ้มกันสุดชีวิตเดิมทีเขาสามารถจากไปได้

แต่ดัน......

กู้ชูหน่วนผู้นั้นกลับใช้ตนเองเป็นเหยื่อล่อนำหมาป่าหิมะเข้ามาทางเขาอีกครั้ง

“มู่หน่วน เจ้ามันเศษสวะผู้หนึ่งของตระกูลธรรมดาๆถึงกับกล้าทำร้ายข้า เจ้าช่างใจกล้ายิ่งนัก?”

"เจ้ารู้จักข้า?"

“ไร้สาระ คุณหนูสามตระกูลมู่ เศษสวะชื่อดังของรัฐปิงผู้ใดจะไม่รู้จัก วันนี้เจ้ากล้าทำร้ายข้าเช่นนี้หลังจากข้ากลับไปแล้วจะต้องเอาชีวิตไร้ค่าของเจ้าอย่างแน่นอน......

"อ๊า......"

หลินซือหย่วนแบกร่างของท่านปู่หลินขึ้นและใช้กำลังอย่างเต็มที่ตามกู้ชูหน่วนหนีไปจากที่นี่ ทิ้งความยุ่งเหยิงเป็นกองไว้ให้คนตระกูลไป๋หลี่มาเก็บกวาด

เยี่ยจิ่งหานมองไปยังด้านหลังอันผอมเรียวนั้น ในดวงตาปรากฏความสนใจขึ้น

ผู้หญิงคนนี้......

ช่างน่าสนใจ

ในป่าอันลึก

กู้ชูหน่วนและหลินซือหย่วนรีบฝังท่านปู่หลิน หลินซือหย่วนเช็ดน้ำตาไม่หยุดพร้อมร้องห่มร้องไห้

กู้ชูหน่วนโค้งคำนับท่านปู่หลินสามครั้งเพื่อแสดงถึงความเคารพ

นางไขว้มือทั้งคู่ไว้ด้านหลังโดยที่หลังตั้งตรงนัก แม้ว่านางจะมองไปยังท้องฟ้าอันสดใส แต่มุมปากอันบอบบางได้กล่าวประโยคหนึ่งออกมาซึ่งทำให้หลินซือหย่วนครุ่นคิดอย่างหนัก

“ในโลกนี้เดิมทีผู้ที่แข็งแกร่งกินผู้ที่อ่อนแอกว่าเป็นอาหาร หากว่าเจ้าไม่ต้องการถูกรังแกและต้องการปกป้องผู้คนเจ้าห่วงใยทำได้เพียงแค่ต้องแข็งแกร่งไม่หยุด”

“ข้าต้องการแข็งแกร่ง เจ้าช่วยสอนวรยุทธ์ให้ข้าได้ไหม?”

“ตอนนี้ความแข็งแกร่งของข้าอ่อนเกินไป เรียนวรยุทธ์กับข้าไม่มีความหมายอันใด อีกทั้งข้ายังต้องรู้ชาติกำเนิดของตนเองให้ได้ คนมีชีวิตอยู่ในโลกนี้ไม่สามารถอยู่ได้โดยปราศจากความกระจ่าง”

นางมีลางสังหรณ์ว่าเส้นทางในภายภาคหน้าของนางน่าจะเดินได้ไม่ง่าย และผู้คนที่นางทำให้โกรธเคืองนั้นเป็นจำนวนไม่น้อยเป็นแน่

“แม่นางกล่าวขบขันแล้ว วรยุทธ์ของเจ้าสูงส่งเช่นนั้นไม่เพียงแต่สามารถทำลายค่ายกลที่พวกเขาตั้งเอาไว้เท่านั้น แต่ยังสามารถเอาชนะหมาป่าหิมะจำนวนมากเช่นนั้นได้ในคราวเดียว นักล่าที่ทรงพลังที่สุดในหมู่บ้านของเราก็ไม่สามารถเทียบเท่าหนึ่งในสิบของเจ้าได้"

“นั่นเป็นเพราะเจ้าไม่เห็นยอดฝีมือที่แท้จริง”

“แล้วเจ้าเคยเห็นไหม?”

กู้ชูหน่วนส่ายศีรษะ

นางก็ไม่เคยเห็นมาก่อน แต่นางสามารถมองออกได้อย่างรวดเร็วว่าความแข็งแกร่งของคนสองคนที่มาจากตระกูลไป๋หลี่เมื่อครู่นั้นถึงระดับสี่อย่างน่าประหลาดใจ

ส่วนนาง......

ไม่เกินความคาดหมาย น่าจะเป็นจุดเส้นวรยุทธ์ชั้นที่หนึ่งเท่านั้น

ความแข็งแกร่งของนางห่างจากพวกเขาเป็นระยะอันห่างไกลนัก เพียงแค่พวกเขายังมีใจอาฆาตแค้นนางหลบก็ไม่สามารถหลบซ่อนได้

นางทำให้ตระกูลไป๋หลี่โกรธเคืองอย่างแท้จริงเสียแล้ว อยู่เคียงข้างนางเป็นโทษไร้ซึ่งประโยชน์

“ข้าเป็นหนี้บุญคุณหนึ่งต่อพวกเจ้า ความแค้นของท่านปู่ของเจ้าข้าจะช่วยเจ้าล้างแค้นแทน สำหรับเจ้า......ดูแลตัวเองให้ดีด้วยนะ”

กล่าวแล้วกู้ชูหน่วนก็ก้าวจากไป ทิ้งด้านหลังอันเย็นชาหนึ่งเอาไว้

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์