กู้ชูหน่วนออกมาไปแล้ว
มู่ซินยังคงสับสนงุนงง
นี่คือลูกสาวของนางจริงหรือ?
เมื่อก่อนนั้นลูกสาวของเขาเป็นคนขี้ขลาด อ่อนแอ เขาอยากให้ลูกสาวของนางเป็นคนมีเกียรติและมีความเชื่อมั่นในตัวเองเหมือนเด็กผู้หญิงทั่วไป
ตอนนี้......
ลูกสาวของเขาเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ แต่เขากลับรู้สึกมีบางสิ่งผิดแปลกไป
ไม่ว่าจะมองอย่างไร นางก็ไม่เหมือนลูกสาวของเขา
หรือว่าเป็นเพราะฟื้นขึ้นจากความตายจึงทำให้นิสัยเปลี่ยนไป?
มู่ซินไม่รู้ว่าควรดีใจหรือเสียใจดี
ภายในห้องโถง
กู้ชูหน่วนก้าวเท้าเข้าไป ผู้ดูแลบ้านรองและผู้ดูแลบ้านคนที่สามต่างมีสีหน้าไม่พอใจ พวกเขาเห็นนางเป็นเทพแห่งโรคระบาด
นายท่านตระกูลมู่ยังดีกว่าพวกเขาอยู่บ้าง แต่สีหน้ายังคงเคร่งขรึม
"พูดมาเถอะว่ามาหาข้าเพื่ออะไร?"
"บังอาจ เจอนายท่านและพวกข้า แต่กลับไม่แสดงความเคารพอย่างนั้นหรือ?"
"ข้าไม่เคยคุกเข่าให้ทั้งเทวดาฟ้าดิน อย่างมากก็คุกเข่าให้พ่อและแม่ พวกเจ้าเป็นพ่อแม่ของข้าหรือ?"
"เจ้า......นายท่าน ท่านดูที่นางหยิ่งผยองเช่นนี้สิ ผู้หญิงป่าเถื่อนคนนี้ออกไปเพียงครึ่งเดือน กลับมาก็ไม่รู้กฏเกณฑ์และไม่เห็นใครในสายตาเลย"
กู้ชูหน่วนหาเก้าอี้นั่ง จากนั้นกวักมือให้คนใช้นำน้ำชาร้อนๆ มาให้นาง โดยนางไม่สนใจคำพูดของผู้ดูแลบ้านรองเลยแม้แต่นิดเดียว
ท่าทางที่เย่อหยิ่งเช่นนี้ ทำให้ผู้ดูแลบ้านรองและผู้ดูแลบ้านที่สามต่างรู้สึกไม่พึงพอใจอย่างยิ่ง
เมื่อก่อนที่นางเห็นพวกเขามีหรือที่จะไม่ก้มศีรษะให้ แม้แต่หายใจยังหายใจเบาๆ เลย แต่วันนี้กลับแปลกไป?
ผู้ดูแลบ้านรองกล่าวว่า "นายท่าน ท่านดูท่าทางของนางสิ ท่านได้โปรดไล่นางออกไปจากตระกูลมู่ เพื่อตระกูลไป๋หลี่จะได้ไม่มาสร้างความเดือดร้อนให้กับพวกเราอีก"
กู้ชูหน่วนนั่งไขว่ห้างและยกถ้วยน้ำชาขึ้นจิบร้อนๆ เล็กน้อยในลักษณะที่ผ่อนคลายและสบาย โดยไม่ตื่นตระหนกเพราะการเปลี่ยนแปลงของวันนี้
หัวหน้าของตระกูลมู่เป็นจิ้งจอกเฒ่า
เขาเหลือบมองไปที่กู้ชูหน่วนและพูดกับผู้ดูแลบ้านรองและผู้ดูแลบ้านที่สามว่า "พวกเจ้าออกไปก่อนเถอะ"
"นายท่าน......"
"ทำไม หรือว่า หรือว่าพวกเจ้าไม่เชื่อฟังแม้แต่คำพูดของข้า"
"พวกข้าไม่กล้าขอรับ"
ผู้ดูแลบ้านรองและผู้ดูแลบ้านที่สามพากันออกไปอย่างไม่สบอารมณ์และแทบอดไม่ได้อยากจะไล่กู้ชูหน่วนออกไปจากตระกูลมู่ จากนั้นตัดขาดความสัมพันธ์กับนางตั้งแต่นี้ต่อไป เพื่อจะได้ไม่เดือดร้อนและได้รับผลกระทบไปด้วย
หลังจากที่พวกเขาจากไป ภายให้ห้องเหลือเพียงกู้ชูหน่วนและนายท่านตระกูลมู่
นายท่านตระกูลมู่ต้องการให้นางเริ่มพูดขึ้นมาก่อน รออยู่นานแต่กู้ชูหน่วนก็ไม่เริ่มพูดออกมา
เขาจึงพูดเพียง "เจ้าก่อเรื่องใหญ่โตเช่นนี้ขึ้น เจ้ามีความคิดเห็นอย่างไรล่ะ?"
"ก่อเรื่องก็ก่อเรื่องสิ ข้าคิดเห็นอย่างไรจะสำคัญอะไรอย่างนั้นหรือ?"
นายท่านตระกูลมู่สำลัก
ผู้หญิงคนนี้ หยิ่งผยองต่อผู้ดูแลบ้านรองและผู้ดูแลบ้านที่สามก็แล้วไป
แต่นางกลับไม่เห็นเขาในสายตา
กู้ชูหน่วนวางถ้วยชาร้อนลงจากนั้นวางเผยรอยยิ้มอันเจ้าเล่ห์ขึ้น
เมื่อเห็นรอยยิ้มนี้ นายท่านตระกูลมู่ก็รู้สึกขนลุกขึ้นโดยไม่รู้สึกตัว
"ตาเฒ่า เจ้าเป็นนายท่าน ฉะนั้นในมือของเจ้าต้องมีเงินอย่างแน่นอน ให้ข้ายืมสักหนึ่งแสนตำลึงได้หรือไม่"
นายท่านตระกูลมู่แทบล้มทั้งยืน
แสนตำลึง?
ทั้งตระกูลมู่รวมกัน เกรงว่าจะมีไม่ถึงหนึ่งพันตำลึงด้วยซ้ำ จะมีแสนตำลึงมาจากไหน?
เขาตำหนิด้วยใบหน้าเคร่งขรึม "บังอาจ หากจะนับอายุแล้ว ข้าเป็นถึงปู่ของเจ้า หากดูจากตำแหน่ง ข้าเป็นนายท่านของตระกูลมู่ ตาเฒ่าเป็นคำที่เจ้าควรเรียกอย่างนั้นหรือ"
"ข้าไม่เรียกเจ้าว่าตาเฒ่า เช่นนั้นข้าควรเรียกเจ้าว่าหลานอย่างนั้นหรือ?"
"เรียกข้าว่านายท่าน" นายท่านตระกูลมู่โกรธมาก
"ได้ นายท่านก็นายท่าน เช่นนั้นแสนตำลึงเจ้าจะให้ข้ายืมหรือไม่? หากให้ข้ายืมละก็ ภายในสิบวัน ข้าสัญญาว่าจะคืนให้เจ้าสิบเท่า"
"ไม่เลว"
"ฮึฮึฮึ ไม่ให้ยืมหรือว่าไม่มีให้ยืมกันแน่"
"มู่หน่วน......"
"ข้าก็อยู่ที่นี่ไง......"
"ข้ากำลังพูดเรื่องสำคัญกับเจ้า"
"ข้าก็จริงจังที่จะพูดเรื่องจริงจังกับเจ้า"
เพียงแค่ให้เงินนางไปซื้อตัวยาสมุนไพรบ้าง เช่นนั้นนางก็สามารถปรุงกลั่นยาจื่อหยางได้ ถึงตอนนั้นจะนำบางส่วนออกมาประมูลและบางส่วนจะนำไปรักษาอาการบาดเจ็บให้ท่านพ่อของนาง เช่นนี้ก็ถือเป็นเรื่องที่ได้ประโยชน์กันทั้งสองฝ่ายไม่ใช่หรือ?
นายท่านตระกูลมู่ทำสีหน้าเคร่งขรึมเหมือนต้องการจะพูดอะไร
กู้ชูหน่วนพูดแทรกขึ้นมาก่อน "เหตุใดชีพจรการต่อสู้ของเขาถึงขาดไป?"
"เขา? เขาคนไหนหรือ? เจ้าหมายถึงพ่อของเจ้าน่ะหรือ ทำไมหรือ เจ้าลืมไปแล้วหรือ? ว่าตอนเด็กๆ เจ้าถูกคนของตระกูลไป๋หลี่รังแก พ่อของเจ้าไม่พอใจจากนั้นจึงมีการทะเลาะเบาะแว้งกับพวกเขา หลังจากนั้นก็ถูกคนของตระกูลไป๋หลี่ตัดเส้นชีพจรการต่อสู้ จากนั้นความสามารถในการต่อสู้ของเขาก็ถดถอยลง"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์
เป็นนางเอกที่นิสัยแย่ที่สุดตั้งแต่เคยอ่านมา...
คือตัวเองไม่มีเงิน แต่คิดจะเอาทุกอย่างด้วยราคาสูงเสียดฟ้า แล้วก็หาคำพูดให้คนอื่นจ่ายแทน ตัวเองหาประโยชน์จากคนใกล้ตัวแต่กลับเอาใจให้คนอื่นตลอดเนี่ยนะ...
แม่นางกู้เกินเยียวยาแล้วเด้อ 555...
เยี่ยเฟิงเป็นคนดีมาก แต่เขาทนงตัวเกินไป ชีวิตที่ผู้อื่นฝ่าฟันเพื่อแย่งชิงลมหายใจเขาไว้ แต่เขาก็ดิ้นรนกลับไปหาความตายอยู่เรื่อย...
ท่านอาจารย์พูดให้คิดดีมากเลย แต่อาหน่วนจะเข้าใจไหม นางดูมั่นหน้า มั่นใจเกิตเหตุแบบไม่สนสี่สนแปดใดใดเลย...
อยากให้กลับมาอัพเดทไวๆนะคะ ขอบคุณมากค่ะ...
สรุปเรื่องนี้มีตอนจบมั้ยค่ะ...
รอตอนจบอยู่นะคะ ใจบางไม่ไหวแล้วทรมาน...
รออัพเดทอยู่นะคะ...
เมื่อไหร่จะอัพต่อค่ะ...