หุบเขาสัตว์เทพเป็นหุบเขาที่รกร้าง ที่นี่ต้นไม้ใบหญ้าเขียวขจี มีต้นไม้โบราณสูงตระหง่านต้นหนึ่งเชื่อมต่อกับอีกต้นหนึ่ง และอีกต้นเชื่อมต่อกับอีกต้นหนึ่ง
บัณฑิตทุกคนกำลังก้าวไปข้างหน้า แต่หลังจากเดินไปเพียงไม่กี่ก้าว อสุรกายที่เหล่าบัณฑิตนำติดตัวมาด้วยก็ล้วนแต่กระเจิดกระเจิงออกไป
ผู้คนพากันตกใจ "เกิดอะไรขึ้น?ทำไมสัตว์วิญญาณของข้าถึงหายไป?"
"ของ......ของข้าก็หายไปเช่นกัน"
บัณฑิตสามัญชนไม่เป็นไร พวกเขาไม่มีความสามารถมากพอที่จะทำให้อสุรกายยอมจำนน แล้วแอบพาเข้ามา
แต่บัณฑิตที่เป็นชนชั้นสูงนั้นต่างกัน พวกเขาล้วนแต่มีภูมิหลังคอยส่งเสริม
ชนชั้นสูงเหล่านี้ส่วนใหญ่จะสามารถทำให้อสุรกายเชื่องได้ และโกหกว่าจะยอมมจำนนต่อสัญญาในเขาสัตว์เทพ ในเวลานี้อสุรกายทั้งหมดล้วนแต่หนีหายไป แล้วพวกเขาจะยินยอมได้อย่างไร ถึงอย่างไรก็ต้องเสียเงินและเวลาไม่น้อยกว่าอสุรกายจะยอมจำนน
มีเสียงอันน่าเกรงขามดังขึ้นกลางอากาศ
"ปีนี้ไม่ว่าใครก็ตาม ห้ามนำอสุรกายเข้าไปในหุบเขาสัตว์เทพอย่างเด็ดขาด มิเช่นนั้นจะถือว่าเป็นการฝ่าฝืนกฎ และอสุรกายที่นำเข้ามาก็จะถูกก็จะถูกยึด"
ฮ้า......
ยึดทั้งหมด......
นี่มันโหดเหี้ยมเกินไปแล้ว
ใครกันที่กำลังพูดอยู่?
ดูเหมือนว่าจะเป็นเสด็จอาเสวี่ย?
ราชวงศ์ไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้มาก่อนไม่ใช่หรือ?
และทำไมจู่ ๆ ปีนี้ก็เปลี่ยนกฎ
พวกเขาไม่พอใจ
แต่ไม่อาจไม่ยอมรับได้
ถึงอย่างไรเดิมทีก็มีกฎเกณฑ์ข้อบังคับ และไม่สามารถนำสัตว์เลี้ยงเข้าไปในหุบเขาสัตว์เทพได้
กู้ชูหน่วนก้มลงมองเจ้าเสือน้อยที่อยู่ในอ้อมแขน มันกำลังหลับสนิท ดูเหมือนว่าวิธีลับของพวกเขาจะไม่ได้ผลกับเจ้าเสือน้อย ไม่รู้ว่าเป็นเพราะสายเลือดของมันแตกต่างจากอสุรกายทั่วไปหรือไม่
นอกจากกู้ชูหน่วนแล้ว ยังมีเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ที่ขดตัวอยู่ในมือของไป๋หลี่หมิงก็ไม่ได้รับผลกระทบแม้แต่น้อยเช่นกัน
ดวงตาสีเขียวของมันเบิกกว้าง และมองไปรอบ ๆ อย่างสงสัย ราวกับกำลังมองหาอาหารอร่อย ๆ
ไป๋หลี่หมิงถอนหายใจด้วยความโล่งอก
ถึงอย่างไรมันก็เป็นราชางูเหลือมหยกเก้าเศียร และคนธรรมดาไม่สามารถทำอะไรมันได้
ขอเพียงมีราชางูเหลือมอยู่ ผู้ชนะในปีนี้คือเขาอย่างแน่นอน
หลังจากเข้ามาในหุบเขาสัตว์เทพแล้ว เหล่าบัณฑิตก็แยกย้ายกันไป
บางกลุ่มมีสามถึงห้าคนมารวมตัวกันเพื่อตามหาของมีค่าและอสุรกาย
บางคนก็ไปคนเดียว
เซี่ยวอวี่เซวียนเหลือบไปมองกู้ชูหนวน เขาสะบัดพัดและถอนหายใจ จากนั้นก็โบกมือให้พัดและจากไป
หลินซือหย่วนกล่าวว่า "แม่นางมู่ คุณชายเซี่ยวไปแล้ว พวกเราจะตามเขาไปหรือไม่"
"หลังจากที่ตามเขาไปทันแล้วอย่างไร?จะไร้ยางอายให้เขามารวมกลุ่มกับพวกเรางั้นหรือ?"
หลังจากเข้ามาที่นี่ ไม่รู้ว่ามีคนมากมายแค่ไหนที่อยากจะฆ่านาง หากลากเซี่วอวี่เซวียนเข้ามาจะไม่เป็นการเพิ่มความยุ่งยากให้เขาหรือ
"เช่นนั้นพวกเราไม่สนใจเขาแล้วหรือ?เขาอยู่ในหุบเขาสัตว์เทพคนเดียว จะเป็นอันตรายหรือไม่?"
"ดูแลตัวเองให้ดีเถอะ วรยุทธ์ของเขาดีกว่าเจ้ามาก"
"พวกเขาส่วนใหญ่กำลังมุ่งหน้าไปทางทิศใต้ พวกเราจะไปที่นั่นด้วยหรือไม่?" หลินซือหย่วนถาม
กู้ชูหน่วนยังไม่ทันจะได้พูด หนิงเทียนโย่วก็กล่าวว่า "พวกเราไปทางทิศตะวันออกกันเถอะ ทิศตะวันออกเฉียงใต้ ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ และทิศตะวันออก น่าจะมีของมีค่าและอสุรกายที่ทรงพลังอยู่มาก"
กู้ชูหน่วนกล่าวอย่างไม่ใส่ใจ "พวกเราจะไม่ไปไหนทั้งสิ้น พวกเราจะหาถ้ำใกล้ ๆ และพักผ่อนสักสองสามวัน"
"อะไรนะ?หาถ้ำเพื่อพักผ่อน?ข้าไม่ได้หูฝาดไปใช่หรือไม่?"
หุบเขาสัตว์เทพนั้นยากที่จะได้เข้ามา และสิบปีมีเพียงครั้งเดียวเท่านั้น
ใครบ้างไม่อยากทรงพลัง และมาที่นี่เพื่อทำสัญญากับอสุรกาย รวมทั้งตามหาของมีค่าด้วย แต่ยังไม่เคยได้ยินว่ามีใครเข้ามาที่นี่เพื่อพักผ่อน
"ข้าอยู่ที่นี่ พวกเขาไม่กล้าทำอะไรเจ้าหรอก เจ้าไม่ต้องกลัวพวกเขา" หนิงเทียนโย่วกล่าว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์
ไม่อัพจบเหรอคะ...
เป็นนางเอกที่นิสัยแย่ที่สุดตั้งแต่เคยอ่านมา...
คือตัวเองไม่มีเงิน แต่คิดจะเอาทุกอย่างด้วยราคาสูงเสียดฟ้า แล้วก็หาคำพูดให้คนอื่นจ่ายแทน ตัวเองหาประโยชน์จากคนใกล้ตัวแต่กลับเอาใจให้คนอื่นตลอดเนี่ยนะ...
แม่นางกู้เกินเยียวยาแล้วเด้อ 555...
เยี่ยเฟิงเป็นคนดีมาก แต่เขาทนงตัวเกินไป ชีวิตที่ผู้อื่นฝ่าฟันเพื่อแย่งชิงลมหายใจเขาไว้ แต่เขาก็ดิ้นรนกลับไปหาความตายอยู่เรื่อย...
ท่านอาจารย์พูดให้คิดดีมากเลย แต่อาหน่วนจะเข้าใจไหม นางดูมั่นหน้า มั่นใจเกิตเหตุแบบไม่สนสี่สนแปดใดใดเลย...
อยากให้กลับมาอัพเดทไวๆนะคะ ขอบคุณมากค่ะ...
สรุปเรื่องนี้มีตอนจบมั้ยค่ะ...
รอตอนจบอยู่นะคะ ใจบางไม่ไหวแล้วทรมาน...
รออัพเดทอยู่นะคะ...