กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ นิยาย บท 835

สี่วัน เป็นเวลาสี่วันเต็มๆ หนิงเทียนโย่วกับหลินซือหย่วนได้ต่อสู้กับมือเหล่าสังหารทั้งหลายที่มาเป็นคลื่นๆอยู่ด้านนอก

พวกเขาจำไม่ได้ว่าถูกฟันไปเป็นจำนวนกี่แผลและรอดพ้นจากความตายมาได้เป็นจำนวนกี่ครั้งแล้ว

หากไม่ใช่อาศัยยาอายุวัฒนะที่กู้ชูหน่วนให้มา เกรงว่าพวกเขาคงจะได้รับบาดเจ็บสาหัสจนตายไปตั้งนานแล้ว

แต่ว่าพวกเขาก็ได้ประโยชน์ข้อหนึ่ง

นั่นก็คือการต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอดในระยะยาว รวมกับที่กู้ชูหน่วนโยนให้กับพวกเขาขวดแล้วขวดเล่าโดยที่ก็ไม่รู้ว่าเป็นยาอายุวัฒนะของเล่นอันใดกัน

หนิงเทียนโย่วทะลวงผ่านจากระดับสองเข้าสู่ขั้นสูงสุดอระดับสองแล้ว เพียงแค่ต้องขึ้นอีกหนึ่งขั้นเท่านั้นเขาก็จะสามารถทะลวงผ่านระดับสามได้......

นั่นเทียบเท่าได้กับความงดีามของซั่งกวนหมิงหลาง แล้วก็มีพรสวรรค์รุ่นหนึ่งอีกด้วย

ส่วนหลินซือหย่วนก็ได้เลื่อนระดับถึงจุดเส้นวรยุทธ์ขั้นที่เจ็ดซึ่งช่างน่าตกใจจริงๆ

ทั่วทั้งแผ่นดินอันเยือกเย็นก็หาผู้ที่เลื่อนระดับขึ้นได้รวดเร็วเท่าพวกเขาทั้งสองคนได้ไม่กี่คน

เมื่อมองไปยังปากถ้ำซึ่งกระจัดกระจายไปทั่วด้วยซากศพกองกันราวกับภูเขา ดวงตาของหนิงเทียนโย่วและหลินซือหย่วนเกิดเส้นเลือดสีแดงขึ้นพร้อมกับฝืนทนร่างกายอันเหนื่อยหล้าเดินโซซัดโซเซไปทางด้านปากถ้ำ

“แม่นางมู่ มือสังหารทั้งหมดถูกพวกเราจัดการหมดแล้ว น่าจะไม่มีมือสังหารคลื่นต่อไปอีกแล้ว”

หากว่ามีก็เป็นเจ้านายโดยตรงที่บุกสังหารเข้ามา

แต่ว่าฐานะขวัญใจนั้นไม่ต่ำต้อยเป็นแน่ โดยทั่วๆไปแล้วจะไม่โผล่หัวออกมาง่ายๆ

กู้ชูหน่วนเก็บยาอายุวัฒนะเตาสุดท้ายที่เพิ่งกลั่น ออกมาจากนั้นก็เก็บเตาหลอมยาและยาอายุวัฒนะลงในวงแหวนอวกาศพร้อมกับหายใจออกเป็นทางยาว “หุบเขาสัตว์เทพเป็นสถานที่ที่ดีจริงๆ สองสามวันนี้ภายใต้การคุ้มกันของพวกเจ้า ข้าเก็บสมุนไพรหายากมาได้มากมาย”

เมื่อกล่าวถึงสมุนไพรเหล่านี้สีหน้าของหนิงเทียนโย่วและคนอื่นๆดูไม่ค่อยดีเลย

ขณะที่นางเก็บสมุนไพร พวกเขาต่อสู้ไม่ไหวจนเกือบจะถูกทุบตีจนตายทั้งเป็น แต่ว่าเมื่อนางเห็นแล้วก็ไม่ได้ยื่นมือช่วยเหลืออันใดเลยทว่ากลับสนใจแต่สมุนไพรของตนเอง ซึ่งก็ไม่รู้ว่านางใจดำหรือว่ารู้ว่าชีวิตของพวกเขาแข็งกว่าแมลงสาบจึงไม่ตายเป็นการชั่วคราว

“ต้องการกลั่นยาพวกเราสามารถออกไปกลั่นได้ไม่จำเป็นต้องใช้เสียเวลาอยู่ที่นี่ การเดินทางเจ็ดวันในหุบเขาสัตว์เทพได้ผ่านไปแล้วห้าวันเต็ม พวกเราเลื่อนระดับเป็นการดีแต่ว่าหากไม่ได้ทำสัญญาข้อตกลงกับอสุรกายเลยสักตัวก็ช่างน่สขายหน้าเกินไปกระมัง”

“ก็ใช่หน่ะสิและเราสองคนเป็นผู้ที่เลื่อนระดับแล้ว แต่ว่าเจ้านอกจากกลั่นยาอายุวัฒนะออกมาบางส่วนความแข็งแกร่งของก็ไม่ได้เพิ่มพูนขึ้น”

กู้ชูหน่วนยิ้ม "ผู้ใดบอกว่าข้าไม่ได้เพิ่มพูนขึ้น"

“เจ้าก็เลื่อนระดับขึ้นด้วย?” แล้วเหตุใดพวกเขาถึงไม่รู้?

“อืมใช่ ไม่เพียงแต่ข้าเลื่อนระดับแล้วเท่านั้น เจ้าเสือน้อยก็เลื่อนระดับขึ้นด้วย”

กู้ชูหน่วนหยิบเจ้าเสือน้อยออกมา ร่างของเจ้าเสือน้อยเกิดประกายแสงสีม่วงขึ้นซึ่งแสงสีม่วงได้ขึ้นถึงระดับสี่แล้ว

หนิงเทียนโย่วกับหลินซือหย่วนตกตะลึง

“สี่......ระดับสี่......เจ้าเสือน้อยตัวนี้ยังเป็นเจ้าเสือน้อยขี้อ้อนเหตุใดถึงได้ขึ้นถึงระดับสี่เสียแล้ว? นี่ก็ช่างน่ากลัวเกินไปแล้วกระมัง?”

มีเจ้าเสือน้อยตัวหนึ่งนี้อยู่ การเดินทางไปยังหุบเขาสัตว์เทพในครั้งนี้กู้ชูหน่วนไม่ต้องทำสิ่งใดเลย เพียงแค่อยู่เฉยๆก็ชนะเลยโดยตรงสินะ

จากนั้นมองไปยังพละกำลังที่พุ่งออกมาจากร่างของกู้ชูหน่วน

จริงๆแล้ว......

กลับขึ้นถึงระดับสองแล้วด้วย......

นี่ นี่ นี่......

นี่เป็นไปได้อย่างไร......

ในช่วงระยะเวลาสั้นๆนางกลับขึ้นถึงระดับสองจริงๆ......

เดิมทีพวกเขาคิดว่าตนเองเลื่อนระดับขึ้นรวดเร็วพอแล้ว คิดไม่ถึงว่ากู้ชูหน่วนกับเจ้าเสือน้อยจะวิปริตมากกว่าพวกเขาอีก

ที่น่ากลัวที่สุดคือพวกเขาเลื่อนระดับตั้งแต่เมื่อใดกลับไม่มีวี่แววเลยแม้แต่น้อย......

“ข้ากล้ารับประกันว่าออกจากหุบเขาสัตว์เทพแล้วแต่ละตระกูลใหญ่และนิกายที่มีชื่อเสียงจะแย่งกันให้เจ้าเป็นสาวกในสำนัก”

“ไปกันเถอะ ไปเก็บสมุนไพรกัน”

“เก็บสมุนไพรอีกแล้ว? พวกเราเก็บได้ตั้งมากมายแล้วไม่ใช่หรือ? นี่คือการชุมนุมควบคุมสัตว์ร้าย พวกเราทำสัญญาข้อตกลงกับอสุรกายเป็นหลักนะ”

“นอกจากจะเจออสุรกายระดับเจ็ด ไม่เช่นนั้นจะมีสิ่งใดน่าทำสัญญากัน”

เจ็ด…

ระดับเจ็ด......

นางเป็นไข้แล้วกระมัง

ในโลกนี้มีอสุรกายระดับเจ็ดที่ใดกัน แม้ว่าจะมีงั้นก็ช่างหาได้ยากมากยิ่งนัก

ไม่ถูก ระดับเจ็ดไม่เรียกว่าอสุรกายแต่ควรเรียกว่าสัตว์เทพ ระดับสี่ขึ้นไปเป็นสัตว์เทพทั้งสิ้น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์