“เจ้ายังยืนลุกไม่ขึ้นเลย จะไปอย่างไร?กระจกหงษ์เป็นสิ่งล้ำค่า ตระกูลใหญ่แต่ละตระกูลจะปล่อยไปได้อย่างไร เจ้าไปคือความตายอย่างไม่ต้องสงสัย ยิ่งกว่านั้นยังมียอดฝีมือระดับห้ามากมายรอเจ้าปรากฎตัวแล้วสังหารเจ้า”
“ข้าจะต้องได้กระจกหงส์มาอย่างแน่นอน”
ต่อให้ไม่ได้ขวานผานกู่มา เขาก็ยอมละ
อย่างมากพวกเขาก็แค่กลับสถานที่อันใหญ่โตของพวกเขาไม่ได้ แต่แม่สาวอัปลักษณ์จะต้องมีชีวิตรอดฟื้นคืนชีพ
เซี่ยวอวี่เซวียนยืนหยัดแน่วแน่
กู้ชูหน่วนเลยทำให้เขาสลบไปจากทางด้านหลัง
“ขอโทษด้วย ข้าสูญเสียพละกำลังมากมายถึงช่วยเจ้าได้ ข้าไม่สามารถทนมองดูเจ้าไปตายได้หรอก เจ้าต้องการกระจกหงส์ ข้าช่วยเจ้าแย่งมาก็จบ”
“โฮก นายท่าน เหตุใดท่านถึงได้ดีกับเขาเสียเหลือเกิน”เจ้าเสือน้อยกล่าวอย่างใสซื่อ
เหตุใดถึงได้ดีกับเขาหรือ?
กู้ชูหน่วนจับสัมผัสที่หน้าอกของตนเองอย่างไม่เข้าใจ
เหตุใดถึงได้ดีกับเขา นางก็ไม่รู้ แต่จากความรู้สึกภายในนั้น นางอยากทำดีกับเขา
จนกระทั่ง นางมีความรู้สึกละอายแก่ใจกับเซี่ยวอวี่เซวียน ความละอายใจมาจากจิตวิญญาณก้นบึ้งหัวใจของนาง แต่นางคิดไปคิดมา ก็ไม่มีตรงไหนที่ต้องละอายใจต่อเขานะ
“ดูแลเซี่ยวอวี่เซวียนดีๆ ข้าไปแล้วจะกลับมา”
ไม่รอการตอบกลับของเจ้าเสือน้อย
กู้ชูหน่วนพาร่างกายบอบช้ำมีรอยแผลออกไปอีกครั้ง
นางเดินไปสู่จุดที่มีแสงส่องออกมาแล้วหายไป
นั่นคือจุดทางเข้าที่ลึกสุดของซากปรักหักพัง
ทางเข้าได้ถูกปิดกั้นโดยฉากกำบังที่มองไม่เห็น
แต่ละตระกูลใหญ่ สำนัก อสุรกายแต่ละประเภทยืนหยัดแน่วแน่ แบ่งยืนอยู่สองด้าน
ทั้งสองด้านล้วนมีการบาดเจ็บล้มตาย ดูออกเลยว่าเมื่อครู่พวกเขาผ่านการสู้รบมาอย่างหนักหน่วง
การปรากฏตัวของกู้ชูหน่วน ทำให้คนทั้งสองฝ่ายต่างมองมาที่นาง
ท่านผู้เฒ่าหนิงทั้งตื่นตะลึงทั้งสงสาร กล่าวขึ้นว่า“เด็กน้อย เหตุใดเจ้าถึงได้บาดเจ็บสาหัสเช่นนี้?ผู้ใด ผู้ใดมันทำร้ายเจ้า บอกท่านปู่หนิงมา ปู่หนิงจะจัดการแทนเจ้า”
“ถูกพวกบ้าระห่ำกัดมาเท่านั้นเอง วางใจ รอยบาดแผลบนตัวข้า หมาเหล่านั้นที่มันกัดข้า เกรงว่ามันก็ไม่ได้ดีไปไหนหรอก”
กู้ชูหน่วนกล่าวอย่างเยือกเย็น และแววตาอันเย็นชากวาดมองไปทางตระกูลไป๋หลี่ด้วย
เพียงแต่คนที่มีสมองสักหน่อยล้วนรู้ว่าเป็นตระกูลไป๋หลี่ลงมือ
ไป๋หลี่เจิ้นกล่าวด้วยความโมโหว่า“เจ้ามองพวกข้าทำไม หรือคิดว่าตระกูลไป๋หลี่อันยิ่งใหญ่ของพวกข้าจะลงมือกับเจ้าหรือ?”
“ตลก ดวงตาอยู่บนตัวข้า ข้าอยากมองสิ่งใดยังต้องถามความยินยอมกับเจ้าหรือ แล้วอีกอย่างนะ พวกเจ้าได้ลงมือกับข้าหรือไม่ ตนเองไม่ใช่รู้ดีที่สุดหรือ?”
“เจ้าเด็กน้อย ข้าว่าเจ้าใช้ชีวิตอยู่จนเบื่อแล้ว”
“ไป๋หลี่เจิ้น อยู่ต่อหน้าผู้คนมากมายเจ้ายังกล้ากล่าวยะโสโอหังเช่นนี้ ลับหลังยังไม่รู้ว่าเจ้าใช้แผนการมากมายแค่ไหน ท่านผู้อาวุโสไป๋หลี่ ท่านสั่งสอนลูกน้องเช่นนี้หรือ?”
ผู้นำตระกูลไป๋หลี่จ้องเขม็งใส่ไป๋หลี่เจิ้น ไป๋หลี่เจิ้นถึงได้สงบสติอารมณ์ ถอยไปอีกด้าน
หลานชายของเขาไป๋หลี่หมิงออกไปนานแล้วยังไม่มีข่าวคราวเลย และไม่รู้ว่าความเป็นจริงแล้วเป็นอย่างไร
ทำให้คนเป็นกังวลใจเป็นอย่างมาก
ผู้นำตระกูลไป๋หลี่ กล่าวว่า“เรื่องนี้ข้าจะตรวจสอบให้อย่างชัดเจน หากว่าตระกูลไป๋หลี่ของพวกเราทำอะไรกับแม่นางมู่จริง ข้าจะไม่ปล่อยเขาอย่างแน่นอน”
กู้ชูหน่วนเพียงแค่ยิ้มออกมา แม้แต่ลืมตามองผู้นำตระกูลไป๋หลี่นางยังขี้เกียจ เลยเพิกเฉยต่อเขา
ไม่ว่าอย่างไรเขาก็คือผู้นำตระกูลคนหนึ่ง แต่ทว่าถูกคนเมินเฉยใส่ ไม่เพียงแต่เขาที่อับอายขายหน้า แม้แต่ตระกูลไป๋หลี่ยังขายหน้ากันไปถ้วนหน้าเลย
ราวกับว่าทุกคนกำลังรอดูความตลกขำขัน
พวกไป๋หลี่เจิ้นอยากจะโมโห ก็ได้ถูกผู้นำตระกูลไป๋หลี่ห้ามรั้งไว้
กู้ชูหน่วนทำราวกับไม่เห็นใบหน้าอึมครึมของพวกเขา มองไปทางกระทิงไฟเก้าเขาที่หลบอยู่อีกด้าน
“เจ้ากระทิงทึ่ม พวกเราเจอกันอีกแล้วนะ”
กระทิงไฟเก้าเขายิ้มหน้าเหยเก“ใช่แล้ว เจอกันอีกแล้ว”
อสุรกายระดับสูงต่างมองไปทางกระทิงไฟเก้าเขา
อย่างไรก็ตามมันก็เป็นอสุรกายระดับสูงตัวหนึ่ง จะให้คนผู้หนึ่งมาเรียกว่าเจ้ากระทิงทึ่มได้อย่างไร?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์
เป็นนางเอกที่นิสัยแย่ที่สุดตั้งแต่เคยอ่านมา...
คือตัวเองไม่มีเงิน แต่คิดจะเอาทุกอย่างด้วยราคาสูงเสียดฟ้า แล้วก็หาคำพูดให้คนอื่นจ่ายแทน ตัวเองหาประโยชน์จากคนใกล้ตัวแต่กลับเอาใจให้คนอื่นตลอดเนี่ยนะ...
แม่นางกู้เกินเยียวยาแล้วเด้อ 555...
เยี่ยเฟิงเป็นคนดีมาก แต่เขาทนงตัวเกินไป ชีวิตที่ผู้อื่นฝ่าฟันเพื่อแย่งชิงลมหายใจเขาไว้ แต่เขาก็ดิ้นรนกลับไปหาความตายอยู่เรื่อย...
ท่านอาจารย์พูดให้คิดดีมากเลย แต่อาหน่วนจะเข้าใจไหม นางดูมั่นหน้า มั่นใจเกิตเหตุแบบไม่สนสี่สนแปดใดใดเลย...
อยากให้กลับมาอัพเดทไวๆนะคะ ขอบคุณมากค่ะ...
สรุปเรื่องนี้มีตอนจบมั้ยค่ะ...
รอตอนจบอยู่นะคะ ใจบางไม่ไหวแล้วทรมาน...
รออัพเดทอยู่นะคะ...
เมื่อไหร่จะอัพต่อค่ะ...