กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ นิยาย บท 849

“เจ้าต้องการสิ่งใด?” กู้ชูหน่วนกัดฟันถาม

“เป็นอย่างไร? หึ เดิมทีข้าไม่สามารถเข้ามาหุบเขาสัตว์เทพได้ ในตอนนี้ข้าสามารถเข้าไปในหุบเขาสัตว์เทพได้แล้วเหตุใดถึงต้องใช้เจ้าด้วย ตอนนี้เจ้าไม่มีคุณค่าเลยสักนิด"

“ใช่หรือ? วรยุทธ์ของเจ้าพอๆกับของเสี่ยวหูเตี๋ยกระมัง หากว่าเสี่ยวหูเตี๋ยตามติดเจ้าอยู่ตลอด เจ้าจะยังตามหาคันฉ่องเฟิ่งหวงและขวานอะไรเล่มนั้นอยู่หรือไม่?”

ประโยคหนึ่งทำให้เยี่ยจิ่งหานโมโหขึ้นอีกครั้ง

เมื่อเห็นว่าเยี่ยจิ่งหานใช้กำลังคิดที่่จะบดขยี้เจ้าเสือน้อยให้ตายทั้งเป็น

กู้ชูหน่วนก็รีบน้ำเสียงอ่อนลง

“ผู้นำตระกูลใหญ่แต่ละตระกูลต่างก็เร่งรีบมาแย่งชิงสมบัติล้ำค่ากัน ซึ่งก็เป็นไปได้ที่น่าจะเป็นสมบัติล้ำค่าสองสิ่งนั้นที่เจ้ากล่าวถึง แม้ว่าจะไม่ใช่ข้าก็สามารถล่อให้พวกเขาไปตามหาคันฉ่องเฟิ่งหวงกับขวานผานกู่ได้ จากนั้นก็ค่อยแอบนำกลับมา เจ้าแค่สนใจต่อกรกับเสี่ยวหูเตี๋ยก็พอแล้ว”

“เหวินเส่าอี๋ไม่ใช่ของข้า”

“ใช่ๆๆ เขาหน้าตาเป็นคนจิตใจเป็นสัตว์ร้าย หน้าตาสง่างาม จะเป็นของเจ้าได้อย่างไร”

ไม่ได้ส่งผลอันใดต่อเยี่ยจิ่งหาน

เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ส่งเสียงขู่ฟ่อๆๆ ดวงตาไร้เดียงสาทั้งคู่เต็มไปด้วยความรู้สึกของการอ้อนวอน

อาจเนื่องจากเห็นแก่หน้าของเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์เยี่ยจิ่งหานจึงได้คลายมือจากเจ้าเสือน้อย

“นี่เป็นโอกาสสุดท้ายของเจ้า หากเจ้าหาขวานผานกู่หรือว่าคันฉ่องเฟิ่งหวงไม่พบ ผลที่ตามมาใช่ว่าจะเป็นสิ่งที่เจ้าแบกรับเอาไว้ได้”

เยี่ยจิ่งหานเข็นรถเข็นแล้วจากไปด้วยความโกรธเคือง

กู้ชูหน่วนถอนหายใจด้วยความโล่งอกแล้วรีบช่วยรักษาอาการบาดเจ็บของเจ้าเสือน้อย

เมื่อเห็นท่าทางเลือดไหลรินทั่วของเจ้าเสือน้อย กู้ชูหน่วนก็สาปแช่งเยี่ยจิ่งหานเป็นพันเป็นหมื่นครั้ง

“เป็นข้าที่ทำให้เจ้าลำบากไปด้วย”

“โฮกโฮกโฮก......”

เจ้าเสือน้อยฝืนทนความเจ็บปวดแล้วยิ้มอย่างโง่เขลาให้กู้ชูหน่วน ซึ่งทำให้กู้ชูหน่วนยิ่งรู้สึกว่าตนเองมีปมด้อย

“เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์เจ้ากับเยี่ยจิ่งหานรู้จักกันมาก่อนหรือ?”

“ฟ่อๆ......รู้จักแต่ไม่ถือว่าสนิท”

“ดวงจิตในร่างของข้าเป็นของนายท่านเดิมของเจ้าหรือ?”

“ฟ่อๆ......นายท่าน ด้านนอกมียอดฝีมือบีบใกล้เข้ามาแล้ว ความแข็งแกร่งอย่างน้อยถึงระดับหกแล้วซึ่งน่าจะเป็นเหวินเส่าอี๋”

เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ไม่ยอมเผชิญหน้าตอบคำถาม

ทันใดนั้นได้รู้สึกถึงลมหายใจภายนอก สีหน้าของมันจู่ๆก็ตื่นตกใจ

ลมหายใจนี้ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ แต่ว่าเป็นเหวินเส่าอี๋อย่างแน่นอน

มันไม่รู้ว่านายท่านไปทำให้เยี่ยจิ่งหานกับเหวินเส่าอี๋ขุ่นเคืองได้อย่างไร

แต่ว่าเหวินเส่าอี๋มาหาก็ไม่ใช่เรื่องดีเป็นแน่

“นายท่านข้าจะล่อเหวินเส่าอี๋ออกไป”

“เฮ้ย ช้าก่อน......”

ไม่รอให้กู้ชูหน่วนปฏิเสธเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ได้คลานออกไปแล้ว

เจ้าเสือน้อยมองไปยังกู้ชูหน่วนด้วยความสงสัย "เหวินเส่าอี๋คือผู้ใด"

“เจ้าเสือน้อยเจ้าอยู่เป็นเพื่อนกับเซี่ยวอวี่เซวียนในถ้ำก่อนข้าจะลองไปหาเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ วรยุทธ์ของเหวินเส่าอี๋สูงส่งข้าเกรงว่าเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์จะเสียเปรียบ”

“โฮกโฮก......”

กู้ชูหน่วนขยับฝีเท้าพร้อมด้วยมือขวาถูกคว้าเอาไว้ในทันใด นางหันข้างมองไปผู้ที่คว้านางไว้คือเซี่ยวอวี่เซวียน

“เจ้า......เมื่อครู่เจ้าพูดว่าอะไรนะ?”

"อะไร?"

เซี่ยวอวี่เซวียนพยายามลืมตาขึ้นโดยที่สมองยังคงสับสนอยู่เล็กน้อย

แต่เหวินเส่าอี๋สามคำนี้สำหรับเขาแล้วกลับประทับอยู่ยากที่จะลืมเลือนได้

"เหวิน......เหวินเส่าอี๋......เจ้าเอ่ยถึงเหวินเส่าอี๋ใช่หรือไม่?"

“เจ้ารู้จักเหวินเส่าอี๋หรือ?”

เซี่ยวอวี่เซวียนมีกำลังวังชาขึ้นมาในทันที เมื่อเขาเคลื่อนไหวก็ปวดจนสูดลมหายใจอันเย็นเข้าไป

แต่กำลังในมือของเขาได้เพิ่มแรงขึ้นโดยไม่รู้ตัว แม้แต่การหายใจก็แรงขึ้นด้วย รัศมีสังหารในดวงตาก็ยิ่งไม่อาจปกปิดไว้ได้

“เหวินเส่าอี๋ก็มาด้วยแล้วจริงๆหรือ?”

กู้ชูหน่วนจะโง่เพียงใดก็รู้ว่าเหวินเส่าอี๋กับเขามีความแค้นต่อกัน

นางไม่ต้องการส่งผลกระทบต่อการรักษาอาการบาดเจ็บของเขา รวมทั้งพวกเขาทั้งหมดรวมกันก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเหวินเส่าอี๋ ด้วยเหตุนี้จึงได้กล่าวเบาๆ

“เปล่านี่ เจ้าได้ยินผิดแล้ว พวกเรากำลังพูดถึงเหวินเส่าอวี่ลูกศิษย์ผู้หนึ่งของสำนักศึกษาอี้เหอ”

"ใช่หรือ?"

เขาได้ยินชัดว่าเป็นเหวินเส่าอี๋

“แน่นอนว่าใช่อยู่แล้ว ข้าจะโกหกเจ้าทำไมกัน มา ดื่มน้ำสักหน่อย”

ลักษณะท่าทางของกู้ชูหน่วนซื่อตรงซึ่งไม่ได้มีท่าทีขบขันเลยแม้แต่น้อย รวมทั้งในสำนักศึกษามีคนชื่อเหวินเส่าอวี่อยู่คนหนึ่งจริงๆ

เซี่ยวอวี่เซวียนไม่ได้คิดสิ่งใดมากมายแล้วจิบน้ำในกาน้ำที่อยู่ในมือของกู้ชูหน่วนเบาๆคำหนึ่ง

ตอนนี้เองถึงได้เห็นว่าร่างกายของกู้ชูหน่วนเต็มไปด้วยบาดแผล มีบางที่ยังมีลูกธนูสั้นติดอยู่ด้วย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์