"ขอโทษด้วย แต่ต้นขาของข้าเล็กมาก"
"ไม่เป็นไร ใหญ่กว่าข้าก็พอ"
เหวินเส่าอี๋หัวเราะโดยไม่พูดอะไร แต่รอยยิ้มของเขากลับทำให้คนอื่นรู้สึกขนลุก
กู้ชูหน่วนกล่าว "ใกล้จะเที่ยงแล้ว ข้าจะไปซื้อกับข้าวมาทำอาหารให้เจ้ากิน"
ไม่รอให้เหวินเส่าอี๋ตอบ กู้ชูหน่วนก็ได้เดินออกไปแล้ว
มีเสียงอันเกียจคร้านของเหวินเส่าอี๋ดังมาจากข้างหลัง
"ทางที่ดีเจ้าควรจะอวยพรให้ขาของเจ้าเดินได้ไวก็พอ"
"ซี๊ด......"
กู้ชูหน่วนหยุดชะงัก
"ยอดฝีมือสูงสุดระดับหกฆ่าฝีมือเพียงระดับสอง เจ้าก็คงไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนหรอก อีกอย่าง เมื่อวานเจ้าก็ปล่อยข้าแล้วไม่ใช่หรือ?"
"เคยได้ยินเรื่องแมวจับหนูหรือไม่?"
"อะไรนะ?"
"ต่อให้ข้าไม่ฆ่าเจ้า แต่ก็มีคนอยากฆ่าเจ้า"
กู้ชูหน่วนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งและนึกได้ถึงสิ่งที่เหวินเส่าอี๋ทำ
"เจ้าอยากจะใช้มือของตระกูลซั่งกวนฆ่าข้า?"
"ก็ไม่เชิง หากเจ้าไม่ฆ่าไป๋หลี่หมิง เช่นนั้นไป๋หลี่เจิ้นก็คงไม่ตามไล่ล่าเพื่อจะฆ่าเจ้า ข้าเพียงแค่ปล่อยข่าวการตายที่แท้จริงของไป๋หลี่หมิงออกไปก็เท่านั้นเอง"
มุมปากของกู้ชูหน่วนขยับ
ปล่อยข่าวออกไป?
เช่นนั้นแล้วจะต่างอะไรกับที่เขาฆ่านาง?
"หากข้าเป็นเจ้า ข้าก็จะหนีไปให้ไกล ดูว่าจะหนีเอาชีวิตรอดไปได้หรือไม่"
กู้ชูหน่วนที่เดิมคิดอยากจะหนีไป แต่ก็กลับมาและนั่งลงที่เก้าอี้หินด้วยความเกียจคร้านในป่าไผ่ จากนั้นรินชาอย่างสบายใจและดื่มอย่างมีความสุข
เหวินเส่าอี๋หัวเราะออกมาและสะบัดชุดสีขาวหิมะ จากนั้นนั่งลงข้างๆ นางและยกถ้วยน้ำชาขึ้นจิบ "เจ้าช่างสุขสบายดีเหลือเกิน"
"เจ้าอุตส่าห์จัดการการต่อสู้ครั้งใหญ่เช่นนี้แล้ว หากข้าไม่ทำให้สำเร็จให้เจ้าดู เช่นนั้นจะทำให้เจ้าหมดความสนใจ อีกอย่าง ต่อให้ข้าหนีไปได้เร็ว ก็ไม่สามารถหนีไปจากเงื้อมมือของเจ้าได้ไม่ใช่หรือ?"
"เสี่ยวหูเตี๋ย เจ้าช่างมีใจโหดเหี้ยมยิ่งนัก ร่างกายของข้าได้รับบาดเจ็บเช่นนี้ เจ้ากลับไม่ทะนุถนอมอ่อนโยน"
เหวินเส่าอี๋ไม่พูดอะไร
เพียงแต่ยิ่งใกล้ชิดกับกู้ชูหน่วนก็ยิ่งรู้สึกว่านางไม่ได้โง่อย่างที่คิด และยัง......น่าสนใจอย่างมาก......
"(เสียงใบไผ่พลิ้วไหว)......"
ลมอ่อนๆ พัดมาและเงาของใบไผ่ก็พลิ้วไหว
ไผ่เขียวส่งเสียงกรอบแกรบและตกลงมา
จากระยะไกลมองไป มีชายหญิงกำลังดื่มชาในป่าไผ่
และ......
เหวินเส่าอี๋สั่นเทา
หูของกู้ชูหน่วนขยับและรู้สึกได้ถึงกลิ่นอายของการฆ่าที่ค่อยๆ ใกล้เข้ามา
กู้ชูหน่วนวางถ้วยน้ำชสในมือลงและกล่าวกับเหวินเส่าอี๋ "ชานี้ไม่เลวเลย เหลือให้ข้าบ้างล่ะ ประเดี๋ยวข้าจะกลับมาดื่ม"
"ประเดี๋ยวเจ้าจะได้ไปขอกับยมทูตแล้ว"
"เจ้าจะรู้ได้อย่างไรว่าไม่ใช่ไป๋หลี่เจิ้นที่ต้องไปขอกับยมทูต?"
"เอ่อ......"
เหวินเส่าอี๋ดื่มจนหมดและในแววตาของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์
ระดับสองต่อสู้กับระดับสี่ ไม่ว่าดูอย่างไรก็เหมือนกับเอาไข่ไปกระทบกับหิน
แต่ในใจของเขากลับรู้สึกว่าการต่อสู้เพื่อชีวิตและความตายในครั้งนี้ ไม่แน่ที่นางที่มีความสามารถเพียงระดับสองจะพ่ายแพ้ให้กับไป๋หลี่เจิ้น
รังสีสังหารของไป๋หลี่เจิ้นใกล้เข้ามาทุกขณะ
เมื่อเห็นกู้ชูหน่วน เขาไม่สามารถระงับความโกรธได้และถามออกมาต่อหน้า "เจ้าเป็นคนฆ่าหลานไป๋หลี่หมิงของข้าใช่หรือไม่?"
"หากข้าบอกว่าไม่ใช่ เจ้าจะเชื่อหรือไม่?"
"กล้าฆ่าหลานชายของข้า ต่อให้เจ้ามีเป็นหมื่นชีวิตก็ไม่เพียงพอที่จะสังเวยชีวิต"
ไป๋หลี่เจิ้นลงมือในกระบวนท่าสังหาร ไผ่ในสวนไผ่ถูกฟันจนหักขาดเป็นท่อนและแทงไปยังกู้ชูหน่วน
ไผ่จำนวนมากเช่นนั้น แต่ละท่อนล้วนเต็มไปด้วยพละกำลังอันมหาศาลของไป๋หลี่เจิ้น หากถูกแทงเข้า เช่นนั้นคงยากจะมีชีวิตรอด
เมื่อถูกปิดล้อมทุกทิศทุกทาง สายตาของกู้ชูหน่วนสาดส่องและใช้มือขวาของนางยกตัวให้ลอยขึ้นไปในอากาศจากต้นไผ่ที่อยู่ข้างๆ เพื่อหลีกเลี่ยงจากท่อนไผ่แห่งการสังหารเหล่านั้น
นางรู้ว่าการต่อสู้ในวันนี้ไม่มีใครสามารถช่วยนางได้
หากชนะ นางยังคงมีโอกาสรอด
หากแพ้ นางต้องตายอย่างแน่นอน
เหวินเส่าอี๋ไม่มีทางช่วยนางแน่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์
คือตัวเองไม่มีเงิน แต่คิดจะเอาทุกอย่างด้วยราคาสูงเสียดฟ้า แล้วก็หาคำพูดให้คนอื่นจ่ายแทน ตัวเองหาประโยชน์จากคนใกล้ตัวแต่กลับเอาใจให้คนอื่นตลอดเนี่ยนะ...
แม่นางกู้เกินเยียวยาแล้วเด้อ 555...
เยี่ยเฟิงเป็นคนดีมาก แต่เขาทนงตัวเกินไป ชีวิตที่ผู้อื่นฝ่าฟันเพื่อแย่งชิงลมหายใจเขาไว้ แต่เขาก็ดิ้นรนกลับไปหาความตายอยู่เรื่อย...
ท่านอาจารย์พูดให้คิดดีมากเลย แต่อาหน่วนจะเข้าใจไหม นางดูมั่นหน้า มั่นใจเกิตเหตุแบบไม่สนสี่สนแปดใดใดเลย...
อยากให้กลับมาอัพเดทไวๆนะคะ ขอบคุณมากค่ะ...
สรุปเรื่องนี้มีตอนจบมั้ยค่ะ...
รอตอนจบอยู่นะคะ ใจบางไม่ไหวแล้วทรมาน...
รออัพเดทอยู่นะคะ...
เมื่อไหร่จะอัพต่อค่ะ...