กู้ชูหน่วนกวาดตามองหญิงสาวทั้งสิบแปดคน
พวกนางทุกคนรูปร่างผอมเพรียว สวมชุดสีขาวและปกคลุมใบหน้าด้วยผ้าคลุมสีขาว ในมือถือตะกร้าดอกไม้อยู่ ซึ่งในตะกร้าดอกไม้เต็มไปด้วยกลีบดอกที่มีสีสันอยู่หลากหลายชนิด ไม่สามารถมองเห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของพวกนางได้ ทว่าหากมองจากรูปร่างอันผอมเพรียวและงดงามของพวกนางแล้ว คาดว่าคงเป็นบุคคลที่น่าทึ่งทุกคนแน่นอน
ตำแหน่งที่พวกนางยืนอยู่นั้นดูเรียบง่ายไม่มีอะไร แต่ความจริงแล้วมันคือประตูแฝงค่ายกลแปดทิศ!
กู้ชูหน่วนกล่าว “อาวุธของพวกเจ้าคือกลีบดอกพวกนี้หรือ?”
“ใช่” หญิงสาวคนหนึ่งในนั้นตอบกลับอย่างอ่อนโยนราวกับเสียงนกกระจิบเหลืองออกจากภูเขา ทำให้ผู้ฟังเคลิบเคลิ้มไปอย่างไม่รู้ตัว
“พวกเจ้าทุกคนต่างมีอาวุธกันเสียหมด แต่ข้ากลับไม่มีเลยสักชิ้น และข้ายังต้องสู้แบบหนึ่งต่อสิบแปด เช่นนี้จะไม่ยุติธรรมไปหน่อยหรือ?”
ไป๋หลี่ป้าส่งสายตาให้กับไป๋หลี่เฉิง
ไป๋หลี่เฉิงเข้าใจในทันทีและกล่าวเสียงดังว่า “เจ้าอยากได้อาวุธอะไร? เพียงแค่เจ้าพูดออกมาได้พวกเราจะมอบให้เขาเจ้าโดยตรง”
“พูดง่าย เช่นนั้นก็เอาหอกยาวเล่มนั้นแล้วกัน”
“ได้”
กำลังภายในของไป๋หลี่เฉิงเพ่งเล็งไปยังหอกยาวที่อยู่ไม่ไกล จากนั้นก็ลอยสู่กู้ชูหน่วนทันที
กู้ชูหน่วนรับไว้และบ่นพึมพำว่า “หอกเล่มนี้ไม่เลวเลยมอบให้ข้าเลยได้หรือไม่?”
“รอให้เจ้ามีชีวิตให้ได้เสียก่อนแล้วค่อยว่ากัน เริ่มได้” ไป๋หลี่เฉิงกล่าวด้วยความใจร้อน
ผู้คนในสนามแทบทุกคนต่างมองกู้ชูหน่วนเป็นคนตายคนหนึ่ง
ร่างของหญิงสาวทั้งสิบแปดคนแปรเปลี่ยนมาล้อมรอบกู้ชูหน่วนและหมุนวนอย่างต่อเนื่อง
ชุดของพวกนางทุกคนเหมือนกัน รูปร่างเหมือนกันทั้งการเคลื่อนไหวก็เหมือนกัน ทำให้ผู้คนแยกไม่ออกว่าใครเป็นใครในชั่วขณะหนึ่ง
ในขณะที่ร่างกายของพวกนางกำลังหมุนเวียนไปมารวดเร็วขึ้นอีกนั้นก็มีความรู้สึกเวียนศีรษะอยู่ครู่หนึ่ง
จิตสังหารของทั้งสิบแปดคนกำลังพุ่งไปยังกู้ชูหน่วนราวกับสายฟ้า
ฟิ้ว…
ผู้คนในสนามต่างชะงักไปตามๆ กัน
เป็นจิตสังหารที่รุนแรงมาก
นางถูกล้อมไว้ตรงกลางและจิตสังหารก็อยู่ทั่วทุกมุม เช่นนั้นนางจะหลบหนีได้อย่างไรกัน?
แต่กลับพบว่าหอกยาวของกู้ชูหน่วนกลับกระแทกกับพื้นและเปล่งเสียงออกมาดังปัง ตามด้วยใบมีดหอกที่กวาดออกไปอย่างรุนแรงจนเกิดเป็นประกายไฟออกมากวาดล้างจิตสังหารออกไปจนหมด และตนก็ใช้หอกยาวเพื่อบินขึ้นสู่อากาศ
หากไม่ใช่ว่านางรวดเร็วว่องไว มิเช่นนั้นคงได้ตายด้วยจิตสังหารนั่นไปนานแล้ว
ค่ายกลบุปผาสิบแปดทิศราวกับเพิ่งเริ่มต้นขึ้น หลังจากปล่อยกระบวนท่าแรกออกไปรูปแบบค่ายกลก็เปลี่ยนในทันที ฝนดอกไม้โปรยปรายอยู่ท่ามกลางอากาศก่อตัวเป็นภาพวาดอันสวยงามของกลีบดอกไม้ที่ร่วงโรยราวกับเทพดากำลังเต้นรำอยู่
ผู้คนรอบๆ ต่างถูกฝนดอกไม้สีสันนั่นดึงดูดอย่างอดไม่ได้ ทั้งยังสูดดมกลิ่นหอมของฝนดอกไม้ไม่หยุดหย่อน
ผู้นำตระกูลมู่กระวนกระวายใจ
ฝนดอกไม้นี้มีกลิ่นหอมชวนพิศวาสแฝงอยู่
กลีบดอกไม้มากมายเพียงนี้ ทำให้ผู้คนที่อยู่ในค่ายกลไม่อาจหลบหนีไป
ขณะที่ผู้คนรอบๆ กำลังตกอยู่ในภวังค์ ฝนดอกไม้ก็แปรเปลี่ยนเป็นใบมีดในบัดดลและพุ่งไปยังกู้ชูหน่วนอย่างพร้อมเพรียงกัน
กู้ชูหน่วนตวัดหอกยาวของตน ทำให้ลมพัดโหมกระหน่ำขึ้นและป้องกันฝนดอกไม้เหล่านั้นซึ่งๆ หน้า
ทว่าฝนดอกไม้มีมากนัก เพียงแค่นางคนเดียวจะรับมือไหวได้อย่างไร
กู้ชูหน่วนตวัดหอกยาวอีกครั้ง ไม่รู้ว่านางทำได้อย่างไรหอกยาวเล่มหนึ่งกลายเป็นแปดเล่มได้ในบัดดล หอกยาวทั้งแปดปิดกั้นฝนดอกไม้บนตำแหน่งยันต์แปดทิศ
ท่านผู้เฒ่าหนิงดวงตาฉายแวววับ
“เจ้าเด็กนี่มีความรู้เกี่ยวกับค่ายกลด้วยงั้นรึ?”
“ท่านปู่ แม้ว่านางจะมีความรู้เกี่ยวกับค่ายกล แต่หอกแปดเล่มนี้ก็มิอาจต้านทานฝนดอกไม้นับหมื่นได้หรอกขอรับ อีกอย่างนี่เพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น”
ท่านผู้เฒ่าหนิงไม่ได้พูดอะไรต่อไป เพียงแค่มองดูการต่อสู้ที่ดุเดือดขึ้นเรื่อยๆ บนสนามรบเท่านั้น และอดไม่ได้ที่จะเป็นห่วงแทนกู้ชูหน่วน
หากค่ายกลแปดทิศของนางอ่อนกำลังลง สิ่งที่รอคอยนางอยู่ก็คือความตายสถานเดียว
ผู้อาวุโสหลิวที่อยู่ข้างผู้นำตระกูลเหวินกล่าวว่า “เจ้ามู่หน่วนคนนี้ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงจริงๆ คิดว่าตนเข้าใจในค่ายกลเล็กน้อยก็จะสามารถทำลายค่ายกลบุปผาสิบแปดทิศเลยอย่างนั้นหรือ ไร้สาระสิ้นดี”
เหวินเส่าอี๋ถือถ้วยชาและจิบไปอึกหนึ่งแล้วกล่าวว่า “ค่ายกลบุปผาสิบแปดทิศทำอะไรนางไม่ได้หรอก”
ทว่าเสียงของเขาไม่ได้ดังนัก
เพียงเพราะว่าเขานั่งอยู่บนเก้าอี้หลัก ผู้คนที่นั่งหรือยืนอยู่ข้างเขาไม่มีผู้ใดที่ไม่ใช่ยอดฝีมือเลย
จึงได้ยินในสิ่งที่เขาพูดไปจนหมด
ทว่าพวกเขาไม่เชื่อว่าค่ายกลบุปผาสิบแปดทิศนี้จะทำอะไรนางไม่ได้
แม้แต่ผู้อาวุโสหลิวเองก็ไม่เชื่อ จึงกล่าวเตือนเสียงเบา “ผู้นำตระกูล ยันต์แปดทิศของมู่หน่วนยิ่งอยู่ยิ่งอ่อนแอลงแล้วขอรับ”
“เจ้าลองดูดีๆ ว่าตำแหน่งที่นางยืนอยู่คือตำแหน่งใด?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์
ไม่อัพจบเหรอคะ...
เป็นนางเอกที่นิสัยแย่ที่สุดตั้งแต่เคยอ่านมา...
คือตัวเองไม่มีเงิน แต่คิดจะเอาทุกอย่างด้วยราคาสูงเสียดฟ้า แล้วก็หาคำพูดให้คนอื่นจ่ายแทน ตัวเองหาประโยชน์จากคนใกล้ตัวแต่กลับเอาใจให้คนอื่นตลอดเนี่ยนะ...
แม่นางกู้เกินเยียวยาแล้วเด้อ 555...
เยี่ยเฟิงเป็นคนดีมาก แต่เขาทนงตัวเกินไป ชีวิตที่ผู้อื่นฝ่าฟันเพื่อแย่งชิงลมหายใจเขาไว้ แต่เขาก็ดิ้นรนกลับไปหาความตายอยู่เรื่อย...
ท่านอาจารย์พูดให้คิดดีมากเลย แต่อาหน่วนจะเข้าใจไหม นางดูมั่นหน้า มั่นใจเกิตเหตุแบบไม่สนสี่สนแปดใดใดเลย...
อยากให้กลับมาอัพเดทไวๆนะคะ ขอบคุณมากค่ะ...
สรุปเรื่องนี้มีตอนจบมั้ยค่ะ...
รอตอนจบอยู่นะคะ ใจบางไม่ไหวแล้วทรมาน...
รออัพเดทอยู่นะคะ...