หนิงเทียนโย่วกล่าว "การประลองในครั้งที่สอง นางน่าจะเป็นฝ่ายชนะ"
"ประลองอีกครั้ง" ไป๋หลี่เฉิงกล่าว
"เจ้าพ่ายแพ้นางยับเยินเช่นนี้แล้วยังจะประลองอะไรอีก"
"การต่อสู้ยังไม่สิ้นสุดและข้าก็ยังไม่แพ้"
"แพ้ออกจากสนามเช่นนี้แล้ว ยังบอกว่ายังไม่แพ้อีกหรือ? ตระกูลไป๋หลี่ของพวกเจ้าอยากใช้ความเป็นตระกูลใหญ่รังแกคนตระกูลที่ต่ำต้อยกว่าอย่างนั้นหรือ?"
"เจ้า......"
ไม่มีใครกล้าพูดอะไร
ไม่ว่าจะช่วยหรือไม่ช่วยตระกูลไป๋หลี่ ล้วนแต่กำลังตบหน้าของคนตระกูลไป๋หลี่
"ชนะสองครั้งในสามการต่อสู้ มู่หน่วนได้ชนะไปแล้วสองครั้ง ฉะนั้นการต่อสู้ในครั้งที่สามจึงไม่จำเป็นแล้ว"
ทุกคนต่างพากันจับจ้องไปที่ผู้นำตระกูลไป๋หลี่
ตั้งแต่ไหนแต่ไรมา ผู้ที่แพ้ลงจากสนามการต่อสู้จะนับว่าเป็นผู้แพ้
เห็นได้อย่างชัดเจนว่าไป๋หลี่เฉิงแพ้และออกจากสนามต่อสู้มา
หรืออาจเป็นเพราะเขาไม่ต้องการให้ตระกูลไป๋หลี่ต้องอับอายขายหน้าเช่นนี้
ไป๋หลี่ป้ากล่าว "ข้าพูดคำไหนคำนั้น วันนี้ตระกูลไป๋หลี่ของข้าจะยอมปล่อยเจ้าไป"
คำพูดนี้พูดอย่างคลุมเครือ
เจ้าสำนักแต่ละสำนักล้วนฟังออกว่าหมายความอย่างไร
ผู้นำตระกูลไป๋หลี่ต้องการกล่าวว่า ผู้นำตระกูลไป๋หลี่ไว้ชีวิตนาง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าสำนักอื่นจะไว้ชีวิตนางด้วยเช่นกัน
และ......
หลังจากวันนี้ไป ตระกูลไป๋หลี่ยังคงตามแก้แค้นนางอย่างต่อเนื่องเรื่อยไป
พวกนกสองหัวของแต่ละสำนักต่างพากันกล่าว
"ปีศาจหญิงคนนี้ ต่อให้ตระกูลไป๋หลี่ไม่กำจัด พวกข้าก็ไม่มีวันปล่อยนางไปเด็ดขาด เพื่อนางจะได้ไม่ไปทำอันตรายใดๆ ต่อผู้อื่นอีก"
"วันนี้ปล่อยให้พวกข้าเป็นคนตัดสินชะตาชีวิตของนางเถอะ"
กู้ชูหน่วนหัวเราะออกมา แววตาของนางเต็มไปด้วยความเฉยเมยและเห็นอกเห็นใจ
เห็นใจที่สำนักเหล่านี้ต่างพากันเอาอกเอาใจตระกูลไป๋หลี่ แถมยังไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย
คนใช้จำนวนหนึ่งวิ่งมาอย่างรีบร้อน จากนั้นกล่าวกระซิบข้างหูของผู้นำตระกูลใหญ่และรวมไปถึงเสด็จอาเสวี่ย
ผู้นำของตระกูลใหญ่ต่างพากันตกตะลึง เสด็จอาเสวี่ยเปลี่ยนท่าทีเรียบเฉยของเขาและต่างพากันมองไปยังกู้ชูหน่วน
ทุกคนเกิดความสงสัย
เกิดอะไรขึ้นกันแน่
เสด็จอาเสวี่ยกล่าวอย่างเคร่งขรึม "แม่นางมู่ เจ้าเป็นคนแย่งชิงดอกบัวศักดิ์สิทธิ์หลากสีและดอกบัวศักดิ์สิทธิ์สามสีไปหรือ?"
ซี๊ด......
ทุกคนต่างพากันตกตะลึง
นางเป็นคนครอบครองดอกบัวศักดิ์สิทธิ์หลากสีและดอกบัวศักดิ์สิทธิ์สามสีอย่างนั้นหรือ?
เป็นเช่นนั้นจริงๆ หรือ?
หากคนอื่นพูด พวกเขาไม่มีทางเชื่ออย่างแน่นอน
แต่นี่เป็นคำพูดที่ออกมาจากปากของเสด็จอาเสวี่ย
เมื่อมองไปยังผู้นำของสี่ตระกูลใหญ่ นอกจากผู้นำตระกูลเหวินที่มีสีหน้าเรียบเฉยแล้ว ทุกคนต่างมีสีหน้าตกตะลึง
เกรงว่าสิ่งนั้นจะอยู่กับนางจริงๆ
หัวใจของกู้ชูหน่วนเต้นและขมวดคิ้วก่อนจะกล่าวออกมา "ท่านบอกว่าข้าแย่งชิงไป ท่านมีหลักฐานอะไร?"
"(เสียงปรบมือ)......"
เสด็จอาเสวี่ยปรบมือ คนใช้จำนวนหนึ่งออกไปยืนด้านหน้าด้วยท่าทีแสดงความเคารพ
"ท่านอ๋องขอรับ ตอนที่ข้าน้อยไปที่หุบเขาอสุรกายได้ถูกสัตว์ร้ายทำร้ายและตกลงจากเขา ข้าน้อยเห็นกับตาตัวเองว่ามู่หน่วนใช้โอกาสตอนที่ยอดฝีมืออันดับหนึ่งทั้งสองถูกวางยาพิษและล้มลงกับพื้น แย่งชิงดอกบัวศักดิ์สิทธิ์หลากสีไป"
"ข้าน้อยได้พลัดหลงกับศิษย์พี่คนอื่นๆ และหลงทางในป่ารกทึบ จากนั้นจึงบังเอิญได้เห็นสัตว์เลี้ยงของมู่หน่วนกำลังนำดอกบัวศักดิ์สิทธิ์สามสีไปให้นาง นางยังบอกอีกว่าจะนำดอกบัวศักดิ์สิทธิ์สามสีไปช่วยชีวิตคน"
"ของล่ะ นำออกมา"
ดอกบัวศักดิ์สิทธิ์หลากสีและดอกบัวศักดิ์สิทธิ์สามสีถือเป็นของที่มีค่าอย่างมาก
ไม่เพียงแค่ตระกูลใหญ่ที่นั่งไม่ติดเท่านั้น แม้แต่ทุกคนที่อยู่ตรงนี้ก็นั่งไม่ติดไปด้วย แต่ละคนต่างถามหาจากกู้ชูหน่วนและต้องการให้นางนำของล้ำค่านี้ออกมา
หากเป็นเมื่อก่อนที่ทำเพื่อต้องการเอาอกเอาใจกู้ชูหน่วน
หรืออาจเป็นเพราะกลัวเวทมนตร์คาถาความโหดเหี้ยมของกู้ชูหน่วน
เช่นนั้นตอนนี้ พวกเขาต่างก็ต้องการได้ครอบครองสิ่งล้ำค่าสิ่งนี้
ฉะนั้นทุกคนจึงจับจ้องไปยังกู้ชูหน่วน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์
ไม่อัพจบเหรอคะ...
เป็นนางเอกที่นิสัยแย่ที่สุดตั้งแต่เคยอ่านมา...
คือตัวเองไม่มีเงิน แต่คิดจะเอาทุกอย่างด้วยราคาสูงเสียดฟ้า แล้วก็หาคำพูดให้คนอื่นจ่ายแทน ตัวเองหาประโยชน์จากคนใกล้ตัวแต่กลับเอาใจให้คนอื่นตลอดเนี่ยนะ...
แม่นางกู้เกินเยียวยาแล้วเด้อ 555...
เยี่ยเฟิงเป็นคนดีมาก แต่เขาทนงตัวเกินไป ชีวิตที่ผู้อื่นฝ่าฟันเพื่อแย่งชิงลมหายใจเขาไว้ แต่เขาก็ดิ้นรนกลับไปหาความตายอยู่เรื่อย...
ท่านอาจารย์พูดให้คิดดีมากเลย แต่อาหน่วนจะเข้าใจไหม นางดูมั่นหน้า มั่นใจเกิตเหตุแบบไม่สนสี่สนแปดใดใดเลย...
อยากให้กลับมาอัพเดทไวๆนะคะ ขอบคุณมากค่ะ...
สรุปเรื่องนี้มีตอนจบมั้ยค่ะ...
รอตอนจบอยู่นะคะ ใจบางไม่ไหวแล้วทรมาน...
รออัพเดทอยู่นะคะ...