ตอนจบของเพลง ทุกอย่างกลับว่างเปล่าและไม่มีอะไรเลย
เยี่ยจิ่งหานไม่ยอมแพ้ เขาเป่าซ้ำแล้วซ้ำเล่า เป่าตั้งแต่เช้าจรดค่ำ และตั้งแต่พลบค่ำจนถึงรุ่งเช้า
ตลอดทั้งวันทั้งคืน ทุกอย่างก็ยังคงว่างเปล่าและไม่มีอะไร
เดิมทีที่เยี่ยจิ่งหานเต็มไปด้วยความหวัง แต่ในตอนนี้กลับกลายเป็นความผิดหวัง
เมื่อได้ฟังเพลงบรรเลงของเขา กู้ชูหน่วนเปลี่ยนจากความสุขเป็นความเศร้า จากนั้นก็สิ้นหวัง นางอดไม่ได้ที่จะตะโกนว่า "พอแล้ว หยุดเป่าได้แล้ว หากนางสามารถปรากฏตัวออกมาได้ก็คงจะออกมานานแล้ว บางทีวิญญาณเมื่อครู่อาจจะอยู่ใกล้ ๆ จึงถูกเสียงขลุ่ยของเจ้าดึงดูดมา"
ใบหน้าของเยี่ยจิ่งหานไม่น่ามองมากนักและถอดใจ และความโศกเศร้าก็ทำให้กู้ชูหน่วนทนไม่ไหว
"บางทีวิญญาณที่เหลืออาจจะอยู่ไกลจากที่นี่ เจ้าพบวิญญาณตั้งสามดวงแล้วไม่ใช่หรือ ข้าเชื่อว่าอีกไม่นานจะต้องพบวิญญาณที่เหลือ"
"ทำไมต้องเป็นเจ้า?"
"อะไรนะ?"
"ทำไมวิญญาณของนางถึงไม่ไปหาคนอื่น แล้วมาหาแต่เจ้า?"
"คำถามของเจ้าลึกลับเกินไป ข้าไม่สามารถตอบได้ ไว้รอให้นางฟื้นคืนชีพขึ้นมา แล้วเจ้าค่อยถามนางด้วยตนเองเถอะ อย่าลืมให้นางชดเชยความเสียหายทางจิตใจให้ข้าด้วย จู่ ๆ ก็ปรากฏขึ้นมา ข้าตกใจแทบแย่"
น้ำเสียงนี้ ท่าทางนี้ แทบจะเหมือนกันกับอาหน่วนทุกประการ
หากไม่ใช่เพราะรู้เหตุผลอยู่แล้ว เยี่ยจิ่งหานคงเข้าใจผิดว่านางเป็นอาหน่วนนับครั้งไม่ถ้วน
"อาการบาดเจ็บของข้าดีขึ้นมากแล้ว ควรจากไปได้แล้ว"
กู้ชูหน่วนต้องการที่จะจากไปตั้งนานแล้ว
นางอยู่ที่นี่มานานเกินไป ในระหว่างนั้นนางก็เรียกเจ้าเสือน้อยและเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์หลายครั้ง แต่พวกมันก็ไม่มา นางกลัวว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับพวกมัน
"เจ้ารู้หรือไม่ว่าการก้าวออกไปจากที่นี่หมายความว่าอย่างไร?"
"รู้สิ แต่ข้าไม่สามารถหลบซ่อนอยู่ที่นี่ไปได้ตลอด"
กู้ชูหน่วนคิดว่าเยี่ยจิ่งหานจะขัดขวาง
แต่ไม่คิดเลยว่าเขาไม่ขัดขวาง และเป่าขลุ่ยของเขาต่อไป
นางขยับริมฝีปาก และอยากจะเกลี้ยกล่อมเขาว่าอย่าฝืนมากเกินไป แต่นางก็พูดไม่ออก
นางไม่เข้าใจความเจ็บปวดของการสูญเสียคนรัก จึงไม่มีคุณสมบัติที่จะไปเกลี้ยกล่อมผู้อื่น
หลังจากอยู่ร่วมกันมาสิบวัน นางก็เข้าใจเยี่ยจิ่งหานมากขึ้น
ชายผู้นี้สีหน้าเยือกเย็น แต่จิตใจไม่ได้เยือกเย็น อีกทั้งยังน่าสงสาร
กู้ชูหน่วนตรวจสอบดูหลายครั้งแล้ว ด้านนอกมีการซุ่มโจมตีอยู่มากมาย ไม่ว่าจะจากไปทางไหน ก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงการซุ่มโจมตีจำนวนมากเช่นนั้นได้
นางหันกลับมาอีกครั้งและกล่าวอย่างมั่นใจ "เจ้าส่งข้าลงไปจากเขา ถือเสียว่าเป็นค่าเช่าที่นางมาอาศัยร่างของข้า"
"หากไม่ใช่เพราะนางมาอาศัยร่างของเจ้า เจ้าก็คงตายไปนานแล้ว"
"เช่นนั้นเจ้าอยากให้ข้าถูกพวกเขาฆ่าจริง ๆ หรือ แล้ววิญญาณของผู้หญิงที่เจ้ารักจะไปอาศัยอยู่แห่งหนใด?"
เยี่ยจิ่งหานกำขลุ่ยที่อยู่ในมือไว้แน่น และความโกรธก็แวบขึ้นในแววตาของเขา
"เจี้ยงเสวี่ย"
"ผู้น้อยอยู่นี่ขอรับ"
"ส่งนางออกไปจากที่นี่"
"ขอรับ......"
กู้ชูหน่วนยกริมฝีปากขึ้นและยิ้ม "เด็กดี เจ้าต้องเชื่อฟังหน่อย บางทีอาจจะรวบรวมจิตวิญญาณของนางได้ง่ายขึ้น"
แคร้ง......
สีหน้าของเยี่ยจิ่งหานทรุดลงในทันที
กู้ชูหน่วนรู้ว่าเขาจะต้องโกรธอีกครั้ง ดังนั้นนางจึงลากเจี้ยงเสวี่ยออกไป ก่อนที่เขาจะโกรธ
ชิงเฟิงกล่าวอย่างโกรธเคือง "นายท่าน พวกเราต้องถูกนางบีบบังคับเช่นนี้หรือ?ช่างน่าอึดอัดใจยิ่งนัก"
"วิญญาณของอาหน่วนอาศัยอยู่ในร่างของนาง นางจะตายไม่ได้"
"แต่......"
"ส่งคนไปคุ้มกันนางอย่างลับ ๆ อย่าให้นางตายเป็นอันขาด"
"ขอรับ......" ชิงเฟิงรับคำสั่งอย่างไม่เต็มใจ
เยี่ยจิ่งหานขมวดคิ้ว
การชุมนุมมอบรางวัลทำให้นางเกือบเอาชีวิตไม่รอด นางไม่สามารถใช้มหาเวทย์ดูดพลังได้ และไม่สามารถใช้วรยุทธ์ใด ๆ ของอาหน่วนได้ เลย
นางจงใจที่จะไม่ใช้?
หรือว่าไม่รู้วิธีที่จะใช้วรยุทธ์และมหาเวทย์เหล่านั้นจริง ๆ ?
ดูเหมือนไม่ใช่ว่านางจงใจที่จะไม่ใช้มัน
แต่เป็นไปได้มากว่านางใช้ไม่ได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์
ไม่อัพจบเหรอคะ...
เป็นนางเอกที่นิสัยแย่ที่สุดตั้งแต่เคยอ่านมา...
คือตัวเองไม่มีเงิน แต่คิดจะเอาทุกอย่างด้วยราคาสูงเสียดฟ้า แล้วก็หาคำพูดให้คนอื่นจ่ายแทน ตัวเองหาประโยชน์จากคนใกล้ตัวแต่กลับเอาใจให้คนอื่นตลอดเนี่ยนะ...
แม่นางกู้เกินเยียวยาแล้วเด้อ 555...
เยี่ยเฟิงเป็นคนดีมาก แต่เขาทนงตัวเกินไป ชีวิตที่ผู้อื่นฝ่าฟันเพื่อแย่งชิงลมหายใจเขาไว้ แต่เขาก็ดิ้นรนกลับไปหาความตายอยู่เรื่อย...
ท่านอาจารย์พูดให้คิดดีมากเลย แต่อาหน่วนจะเข้าใจไหม นางดูมั่นหน้า มั่นใจเกิตเหตุแบบไม่สนสี่สนแปดใดใดเลย...
อยากให้กลับมาอัพเดทไวๆนะคะ ขอบคุณมากค่ะ...
สรุปเรื่องนี้มีตอนจบมั้ยค่ะ...
รอตอนจบอยู่นะคะ ใจบางไม่ไหวแล้วทรมาน...
รออัพเดทอยู่นะคะ...