จักรพรรดินีเด็ดดอกโบตั๋นที่เปื้อนเลือดออกมาหนึ่งดอก นิ้วมือที่เรียวยาวนำดอกโบตั๋นขึ้นมาดมและมุมปากขยับเล็กน้อย จากนั้นพระนางเดินอย่างเกียจคร้านไปยังฝูกวง จากนั้นเด็ดกลีบดอกโบตั๋นออกทีละกลีบและโยนลงต่อหน้าของฝูกวง
"สงบสติอารมณ์อยู่นาน คิดได้หรือยัง?"
"ฮึ ให้ข้ายอมจำนนต่อท่าน ฝันไปเสียเถอะ"
ฝูกวงที่ใบหน้าหล่อเหลา ถึงแม้ใบหน้าจะเต็มไปด้วยความโกรธ แต่ก็มีความงามในแบบพิเศษ โดยเฉพาะตอนที่เขากลั้นหายใจจนหน้าแดงก่ำ ทำให้เหงื่อบนร่างกายยิ่งไหลหยดย้อยลงมา ซึ่งเย้ายวนอย่างไร้เหตุผล
จักรพรรดินีไม่ได้โกรธ แต่กลับยิ่งทำให้พระนางรู้สึกตื่นเต้นเร้าใจ
"เจ้าไม่กลัวตายและไม่กลัวเจ็บ เช่นนั้นเจ้าไม่กลัวว่าข้าจะส่งมอบความโกรธนี้ผ่านไปยังร่างกายของเจ้าหรือ? เขาทำเพื่อเจ้า ไม่ยอมสละความบริสุทธิ์ของตัวเอง" จักรพรรดินีหมายถึงลั่วอิ่ง
ฝูกวงดิ้นรนขึ้นอีกครั้ง ถึงแม้ว่าวรยุทธในร่างกายของเขาจะถูกผนึกไว้ อีกทั้งร่างกายก็ถูกมัดไว้ราวกับบะจ่าง ซึ่งไม่สามารถคลายได้
ทำได้เพียงจ้องมองจักรพรรดินีด้วยความโกรธ "ท่านแน่จริงก็ฆ่าข้า อย่าใช้ข้าเพื่อข่มขู่ลั่วอิง"
"ที่แท้เขาชื่อลั่วอิ่ง ชื่อเพราะดี เช่นนั้นเจ้าล่ะ เจ้าชื่ออะไร"
ฝูกวงหันหน้าไปทางอื่น ไม่รู้ว่าเพราะความโกรธหรือเพราะเจ็บ เขาหายใจอย่างเหนื่อยหอบ
จักรพรรดินีเอียงศีรษะ ดวงตาหงส์ที่เรียวยาวและแคบของพระนางกวาดสายตาไปยังลั่วอิ่ง "บอกข้า เขาชื่ออะไร?"
"ฝูกวง" ลั่วอิ่งกล่าวออกมาอย่างเฉยเมย ดวงตาที่เย็นชาคู่นั้นยังคงจ้องมองดูงานแกะสลักที่อยู่บนเตียง
"ฝูกวง ลั่วอิ่ง ชื่อของพวกเจ้าทั้งสองคนต่างก็ไพเราะดี เป็นพี่น้องแท้ๆ หรือ? แต่ดูไม่เหมือนกันเลย"
จักรพรรดินีโค้งตัวลง นิ้วมือที่เรียวสวยตัดกับเล็บสีแดงเพลิงสัมผัสไปยังใบหน้าของฝูกวงและลากลงเพื่อสัมผัสโครงหน้าของเขา
"เหตุใดเจ้าถึงดื้อรั้นนักนะ ข้าเป็นถึงจักรพรรดินีแห่งรัฐปิงที่อยากได้อะไรก็ต้องได้ อยู่กับข้าไม่ดีอย่างนั้นหรือ?"
ฝูกวงออกแรงสะบัดมือของพระนางออก และยืนหยัดไม่ให้พระนางแตะต้องตัวเอง
เพราะจักรพรรดินีหันหลังให้กับกู้ชูหน่วนตลอดเวลา ทำให้กู้ชูหน่วนก็ไม่รู้ว่าจักรพรรดินีหน้าตาเป็นเช่นไร เพียงแต่ดูจากส่วนเว้าส่วนโค้งที่สละสลวยของพระนางแล้ว คาดว่าก็คงหน้าตาดีงดงามอย่างมาก
"วังหลังยังมีชายหนุ่มที่งดงามรอรับความโปรดปรานของข้าอยู่มากมาย ข้าไม่สามารถละเลยต่อพวกเขาได้ ฉะนั้น......วันนี้เป็นวันตัดสินครั้งสุดท้ายของเจ้า หากเจ้ายังไม่ยอมรับข้าและปรนนิบัติดูแลข้า เช่นนั้นข้า......จะไม่บังคับเจ้า และไม่ทุบตีทรมานเจ้าอีก ข้าเพียงจะนำความรักและโปรดปรานที่เจ้าควรได้รับส่งต่อไปยังลั่วอิ่ง"
จักรพรรดินีพูดคำว่ารักและโปรดปรานออกมาด้วยเสียงดังและมีน้ำหนัก
ฝูกวงกล่าวด้วยความโกรธ "ผู้ชายของรัฐปิงตายไปหมดแล้วหรือ ถึงทำให้ท่านอดอยากปากแห้งเช่นนี้"
"ก็ไม่เชิง แต่เป็นเพราะพวกเจ้าช่างน่ากินน่าสัมผัสเหลือเกิน"
"เสียชีพได้ แต่ไม่ยอมเสียศักดิ์" ฝูกวงปิดตาลง ใบหน้าเต็มไปด้วยความกล้าหาญอย่างยิ่ง
จักรพรรดินีหัวเราะเยาะออกมา จากนั้นเดินอย่างอ้อยอิ่งอ่อนช้อยไปยังเตียงของลั่วอิ่งและลูบไล้เส้นผมสีดำราวกับหมึกด้วยความรัก
"ดูสิ ข้ารักเจ้ามากกว่า เจ้ายอมเสียสละตัวเองเพื่อเพื่อนรักของเจ้า แต่เขากลับไม่ใส่ใจเจ้าเลยสักนิดเดียว"
"ข้าก็ไม่อยากทำร้ายเจ้า แต่ข้าก็อยากจะรับรู้สัมผัสรสชาติของเขา เจ้าคิดว่า ข้าควรทำเช่นไรดี"
เสียงอันแหบแห้งของลั่วอิ่งกล่าวขึ้นอีกครั้ง "ท่านเคยบอกไว้ว่าขอเพียงข้ายอมรับท่าน เช่นนั้นท่านจะปล่อยเขาไป"
"ข้าบอกว่าข้าจะปล่อยเขาไป แต่ข้าไม่ได้บอกว่าข้าจะปล่อยเขาเมื่อไรและไม่ได้บอกว่าไม่รักและโปรดปรานเขาแล้ว"
ลั่วอิ่งกำหมัด ราวกับกำลังอดทนกับความโกรธ
"เสี่ยวลั่วอิ่ง อย่าโทษข้าเลย หากจะโทษก็โทษที่เขามีหน้าตาน่ากินเกินไป ข้าจึงทำได้เพียงให้เจ้าเป็นฝ่ายเสียสละก่อน"
เมื่อพูดจบ ดาบสั้นก็ปรากฏขึ้นในมือของจักรพรรดินี
ยังไม่ทันที่ทุกคนจะตั้งสติได้ ดาบสั้นก็ได้แทงเข้าที่ไหล่ของลั่วอิ่งเสียแล้ว
เลือดสีแดงสดไหลออกมาราวกับแม่น้ำเชี่ยวกราก
ลั่วอิ่งไม่แม้แต่จะขมวดคิ้วเลยสักนิด เพียงแต่กำหมัดทั้งสองข้างแน่นขึ้น
"กษัตริย์ชั่ว หากท่านกล้าทำร้ายเขาอีก ข้าสัญญาว่าจะทำให้ท่านต้องตายอย่างทรมาน"
"ข้ากลัวเหลือเกิน เพียงแค่พวกเจ้าสองคนน่ะหรือ?"
"ซี๊ด......"
ดาบสั้นอันเยือกเย็นถูกดึงออกมาและนำพามาซึ่งเลือดที่ไหลนองออกมา
มีเลือดที่แปดเปื้อนไปยังมุมปากของจักรพรรดินี
จักรพรรดินีเลียคราบเลือดที่มุมปากและสายตาก็ดูกระหายเลือดมากขึ้นเรื่อยๆ
"หากเจ้าไม่ยอมจำนน เช่นนั้นข้าจะทิ่มแทงไปเรื่อยๆ ข้าก็อยากจะรู้ว่าหัวใจของเจ้าแข็งแกร่งมากเพียงใด"
"ฉึก......"
ดาบสั้นแทงเข้าไปอีกครั้ง ครั้งนี้โหดเหี้ยมกว่าครั้งที่แล้ว
ลั่วอิ่งยังคงไม่ส่งเสียงใดๆ ออกมา เพียงแค่กัดฟันแน่น ราวกับกำลังอดทนกับความเจ็บปวดมหึมา
"ปล่อยเขาไป มีอะไรมาลงกับข้า"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์
เป็นนางเอกที่นิสัยแย่ที่สุดตั้งแต่เคยอ่านมา...
คือตัวเองไม่มีเงิน แต่คิดจะเอาทุกอย่างด้วยราคาสูงเสียดฟ้า แล้วก็หาคำพูดให้คนอื่นจ่ายแทน ตัวเองหาประโยชน์จากคนใกล้ตัวแต่กลับเอาใจให้คนอื่นตลอดเนี่ยนะ...
แม่นางกู้เกินเยียวยาแล้วเด้อ 555...
เยี่ยเฟิงเป็นคนดีมาก แต่เขาทนงตัวเกินไป ชีวิตที่ผู้อื่นฝ่าฟันเพื่อแย่งชิงลมหายใจเขาไว้ แต่เขาก็ดิ้นรนกลับไปหาความตายอยู่เรื่อย...
ท่านอาจารย์พูดให้คิดดีมากเลย แต่อาหน่วนจะเข้าใจไหม นางดูมั่นหน้า มั่นใจเกิตเหตุแบบไม่สนสี่สนแปดใดใดเลย...
อยากให้กลับมาอัพเดทไวๆนะคะ ขอบคุณมากค่ะ...
สรุปเรื่องนี้มีตอนจบมั้ยค่ะ...
รอตอนจบอยู่นะคะ ใจบางไม่ไหวแล้วทรมาน...
รออัพเดทอยู่นะคะ...
เมื่อไหร่จะอัพต่อค่ะ...