ซั่งกวนหมิงหลางขยับริมฝีปาก เขาต้องการที่จะโต้แย้งอะไรบางอย่าง แต่ก็ไร้เรี่ยวแรงที่จะโต้แย้ง
เขาไม่รู้ว่านิกายต่าง ๆ กำลังปิดล้อมนางอยู่ เพียงเพราะนางมีของล้ำค่าแปลก ๆ
เขายังไม่ทันจะได้เห็นอกเห็นใจ เสียงที่ดูถูกเหยียดหยามของกู้ชูหน่วนก็ดังขึ้นมาอย่างชัดเจน
"ผู้ที่มีพรสวรรค์จนสะเทือนไปทั่วทั้งใต้หล้า รูปลักษณ์ก็เพียงเท่านี้"
การดูถูกเหยียดหยามและการเยาะเย้ยของนาง ล้วนแต่ทำร้ายซั่งกวนหมิงหลางอย่างสุดซึ้ง
ตั้งแต่เด็กจนโต ไม่เคยมีใครดูถูกเหยียดหยามเขาเช่นนี้
ซั่งกวนหมิงหลางโกรธจัด
และกู้ชูหน่วนก็จากไป เหลือเพียงเงาปีศาจของนาง
หน้าต่างเปิดอยู่
ลมหนาวในยามค่ำคืนพัดเข้ามาจากนอกหน้าต่าง ร่างกายท่อนบนของซั่งกวนหมิงหลางเปลือยเปล่า การเปิดเผยเช่นนี้ทำให้เขายิ่งอับอายมากขึ้นไปอีก
เขาหลับตาลงด้วยความเจ็บปวดใจ และได้แต่หวังว่าคืนนี้จักรพรรดินีจะไม่เข้ามาที่นี่ มิเช่นนั้นความบริสุทธิ์ของเขาจะต้องถูกทำลายอย่างสิ้นเชิง
กู้ชูหน่วนรออยู่ข้างนอกเป็นเวลานาน แต่ก็ไม่ได้รอจนจักรพรรดินีเข้ามาในห้องซั่งกวนหมิงหลาง
ยังไม่พบว่าคืนนี้จักรพรรดินีไปประทับอยู่ที่ใด
เมื่อเห็นว่าฟ้าสางแล้ว
นางก็ไม่พอใจ แต่ไม่สามารถทำอะไรได้
พระราชวังกว้างใหญ่มากเกินไป และไม่ง่ายอย่างที่คิด
ในขณะที่นางกำลังจะเลิกตามหา และกลับไปที่เรือนของนางกำนัล ขันทีคนหนึ่งก็เรียกนาง
"เจ้า มานี่ มั่วงุนงงอะไรอยู่ ข้าเรียกเจ้า"
"กงกง ไม่ทราบว่าท่านมีอะไรจะกำชับ" กู้ชูหน่วนถามด้วยท่าทางที่อ่อนน้อมถ่อมตน และแสร้งทำเป็นหวาดกลัว
"คืนนี้ฝ่าบาททรงพระเกษมสำราญ เจ้านำสิ่งนี้ไปส่งที่ตำหนักอวิ๋นลู่ เพื่อทำให้ฝ่าบาททรงพระเกษมสำราญมากยิ่งขึ้น"
กู้ชูหน่วนรับถาดรองที่มีขวดยาและตราคำสั่งเล็ก ๆ นางสูดกลิ่นเบา ๆ และได้กลิ่นยาที่ช่วยกระตุ้นอารมณ์
"บ่าว......บ่าวไม่รู้ว่าตำหนักอวิ๋นลู่อยู่ที่ใดเจ้าค่ะ"
"เดินตรงไป เลี้ยวขวาสองครั้งก็ถึงแล้ว"
"เจ้าค่ะ......"
กู้ชูหน่วนหัวเราะเยาะในใจ
เจ้าขันทีสุนัขผู้นี้มี เห็นได้ชัดว่ามีขันทีหนุ่มและนางกำนัลอยู่ข้าง ๆ แต่กลับให้นางไปส่งยา
นี่หมายความว่าจักรพรรดินีทรงโหดเหี้ยม และคนส่วนใหญ่ที่นำยาไปส่งก็ไม่สามารถมีชีวิตรอดออกมาได้ จึงส่งให้นางไปตายแทน และไม่แม้แต่จะถามว่านางเป็นนางกำนัลของตำหนักใด
ช่างเถอะ
นางกำลังกังวลว่าจะหาจักรพรรดินีไม่พบ เป็นเช่นนี้ก็ดี
กู้ชูหน่วนทำตามที่ขันทีผู้นั้นบอก และเดินตรงไปข้างหน้า
ในที่สุด......ตอนที่นางใกล้จะถึงตำหนักอวิ๋นลู่ นางก็ได้ยินเสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด "อ้า......"
เสียงนี้มีความอดทน มีความอึดอัดใจ และเต็มไปด้วยความเจ็บปวด
ตามด้วยเสียงแส้
กู้ชูหน่วนเงยหน้าขึ้น และเห็นทหารองครักษ์หลายสิบคนเฝ้าอยู่ที่หน้าตำหนักไม่ไกล
ทหารองครักษ์เหล่านั้นล้วนมีนัยน์ตาที่ลึกล้ำและถือดาบไว้
ภายใต้ความมืด พวกเขาดูเหมือนหุ่นกระบอก
ราวกับว่าพวกเขาจะชินกับเสียงร้องอันเจ็บปวดที่ดังออกมาจากในตำหนักตั้งนานแล้ว
กลิ่นคาวเลือดลอยมาตามลม
ฟังจากเสียงแส้ที่ดังออกมาแล้ว ไม่รู้ว่าผู้ที่อยู่ข้างในถูกทรมานจนเป็นอย่างไรบ้าง
กู้ชูหน่วนขยับมือขวา นางนำแขนเสื้อมาปิดขวดยาที่อยู่ในถาด และเปลี่ยนขวดยา
นางก้มหน้าและเดินไปที่ตำหนักอวิ๋นลู่
ทหารองครักษ์ขวางนางไว้
กู้ชูหน่วนก้มหน้าลงและกล่าวว่า "กงกงให้บ่าวนำยามาถวายให้ฝ่าบาท นี่เป็นตราคำสั่งที่กงกงให้บ่าวมา"
หลังจากที่ทหารองครักษ์แน่ใจว่าตราคำสั่งถูกต้อง นัยน์ตาอันเยือกเย็นของเขาก็มองออกไปไกล ๆ
กงกงที่อยู่ใต้ต้นไม้ไกล ๆ พยักหน้าให้ทหารองครักษ์
จากนั้นทหารองครักษ์ก็ปล่อยให้กู้ชูหน่วนเข้าไป
เมื่อกู้ชูหน่วนผลักประตูเข้าไป
นางก็แทบจะอาเจียนออกมาในทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์
เป็นนางเอกที่นิสัยแย่ที่สุดตั้งแต่เคยอ่านมา...
คือตัวเองไม่มีเงิน แต่คิดจะเอาทุกอย่างด้วยราคาสูงเสียดฟ้า แล้วก็หาคำพูดให้คนอื่นจ่ายแทน ตัวเองหาประโยชน์จากคนใกล้ตัวแต่กลับเอาใจให้คนอื่นตลอดเนี่ยนะ...
แม่นางกู้เกินเยียวยาแล้วเด้อ 555...
เยี่ยเฟิงเป็นคนดีมาก แต่เขาทนงตัวเกินไป ชีวิตที่ผู้อื่นฝ่าฟันเพื่อแย่งชิงลมหายใจเขาไว้ แต่เขาก็ดิ้นรนกลับไปหาความตายอยู่เรื่อย...
ท่านอาจารย์พูดให้คิดดีมากเลย แต่อาหน่วนจะเข้าใจไหม นางดูมั่นหน้า มั่นใจเกิตเหตุแบบไม่สนสี่สนแปดใดใดเลย...
อยากให้กลับมาอัพเดทไวๆนะคะ ขอบคุณมากค่ะ...
สรุปเรื่องนี้มีตอนจบมั้ยค่ะ...
รอตอนจบอยู่นะคะ ใจบางไม่ไหวแล้วทรมาน...
รออัพเดทอยู่นะคะ...
เมื่อไหร่จะอัพต่อค่ะ...