กู้ชูหน่วนค่อย ๆ แทงเข็มลงไปทีละเข็ม กระทำตามอารมณ์คล้ายกับเล่นหมากรุก เมื่อพิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้วก็อดรู้สึกกังวลไม่ได้
ผ่านไปครู่หนึ่ง กู้ชูหน่วนจึงค่อยดึงเข็มเงินทั้งหมดออกมา
ฝูกวงถูฝ่ามือของตัวเอง พลางมองไปยังกู้ชูหน่วน “ดูเหมือนจะไม่เจ็บมากเพียงนั้นแล้ว ร่างกายเริ่มมีเรี่ยวแรงบ้างแล้ว”
“เวลามีค่า นั่งลงเถอะ” กู้ชูหน่วนเหลือบมองไปที่ลั่วอิ่ง
ลั่วอิ่งเมินหน้าไปทางอื่น ไม่รู้ว่าเพราะไม่อยากให้ใครแตะต้องตัวเขา หรือไม่อยากให้กู้ชูหน่วนรักษา
ฝูกวงดึงแขนเสื้อของเขา พยายามโน้มน้าวครู่หนึ่ง ลั่วอิ่งก็ยังนิ่งไม่ไหวติ่ง
เสียงฝีเท้าข้างนอกใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ
กู้ชูหน่วนรีบเก็บเข็มเงิน “พวกเขาใกล้ถึงแล้ว รอข้าหาแม่กู่เจอแล้วค่อยช่วยแก้พิษให้เขาละกัน”
“เจ้ามีเงื่อนไขอย่างไร?” ฝูกวงถามอย่างรวดเร็ว
ฝูงชนจำนวนมาก คนที่อยากเจอกู่ก็เก่งแต่พูด
คนที่คุมขังพวกเขาก็คือจักรพรรดินีองค์ปัจจุบัน
คนแปลกหน้าคนหนึ่ง เป็นไปไม่ได้เลยที่จะช่วยพวกเขาโดยไม่มีเงื่อนไขใด ๆ
บอกว่าจะร่วมมือกัน หาทางออกไปจากวัง ไร้สาระสิ้นดี
นางหนีไปคนเดียวคงเร็วกว่าการพาตัวภาระทั้งสองคนหนีไปด้วยกันเสียอีก
กู้ชูหน่วนกระตุกยิ้มมุมปาก นัยน์ตาดูอบอุ่นขึ้นมากทีเดียว
“เงื่อนไข? เหตุใดข้าถึงคิดไม่ออก...... ถ้าข้าช่วยชีวิตพวกเจ้าออกมา พวกเจ้าจะต้องเป็นองครักษ์ข้างกายข้าเป็นเวลาหนึ่งปี ปกป้องความปลอดภัยของข้า?”
ภาพที่ฝูกวงและลั่วอิ่งอึ้งงัน ส่งผลให้หัวใจของกู้ชูหน่วนเต้นรัวอย่างไม่ทราบสาเหตุ
นางไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร ในส่วนลึกของความทรงจำดูเหมือนทั้งสองคนจะสนิทสนมกันมาก
ดังนั้น……
นางสามารถชะลอการหาตัวฆาตกรที่สังหารตระกูลมู่ได้ชั่วคราว เพื่อช่วยชีวิตพวกเขาออกมาก่อน
ในที่สุดหมอหลวงก็พาขันทีหนุ่มทั้งสองคนมาถึง
ฝูกวงและลั่วอิ่ง คนหนึ่งก็นอนหมดแรงอยู่บนเตียง อีกคนที่นอนฟุบอยู่บนโต๊ะ กู้ชูหน่วนยืนอยู่ด้านข้างอย่างเคารพ
“หมอหลวงอู๋ ฝ่าบาททรงมีรับสั่ง ให้คุณชายทั้งสองได้รับการรักษาอย่างดี ห้ามปล่อยให้พวกเขาชีพวายเด็ดขาด”
“รับทราบ พวกเจ้าไปตักน้ำมา”
“ขอรับ”
ขันทีหนุ่มโบกมือ ให้กู้ชูหน่วนไปช่วยตักน้ำ
กู้ชูหน่วนเงยหน้าขึ้น ขยิบตาให้ฝูกวงและลั่วอิ่ง เป็นสัญญาณว่าให้พวกเขารักษาตัวดีๆ รอข่าวดีจากนาง จะไม่ปล่อยให้โอกาสหลุดลอยไป
หอดาบและตำหนักบรรทมของจักรพรรดินีใกล้กันมาก
ผู้ที่อยู่ภายในได้ ล้วนเป็นคนที่จักรพรรดินีทรงโปรดปรานที่สุด
การจะแทรกตัวเข้าไปในหอดาบเป็นเรื่องที่ยากมาก
กู้ชูหน่วนสำรวจอยู่หลายครั้ง ก็ยังไม่กล้าบุ่มบ่าม เพราะทั้งภายนอกและภายในหอดาบไม่เพียงแต่จะคุ้มกันอย่างแน่นหนาแล้ว
ในความมืดก็ยังมีกลิ่นอายที่แกร่งกล้าอยู่ไม่น้อย
ถ้าไม่ใช่เพราะนางไวต่อความรู้สึก ทั้งยังคอยเฝ้าสังเกตการณ์อยู่ที่นี่มาหลายวัน เกรงว่าไม่รู้สึก
กลิ่นกายที่แก่กล้าเหล่านั้นเหล่านั้นสูงถึงระดับห้าทีเดียว
ระดับห้า…
ผู้ที่มีฝีมืออย่างมหาศาล ก็มีแค่หัวหน้าทั้งสี่ตระกูลใหญ่ รวมทั้งผู้อาวุโสสูงสุดบางคนถึงจะสามารถไปถึง
ส่วนหอดาบในเขตพระราชวัง
มีผู้แข็งแกร่งระดับห้าเฝ้ารักษาการณ์อยู่
นางมั่นใจมาก คนในจะต้องเป็นเซี่ยวอวี่เซวียนอย่างไม่ต้องสงสัย
มีเพียงอากัปกิริยาของเซี่ยวอวี่เซวียนเท่านั้นที่สามารถทำให้จักรพรรดินีต้องเพิ่มกำลังทหารอย่างไม่เสียดาย
ดวงตาที่ดุร้ายของจักรพรรดินีที่ฉายแวววับวาบ แต่ในใจของนางมีความกังวลมากทีเดียว
เฝ้าสังเกตการณ์ไปอีกสองวัน
ผู้ที่อยู่ในหอดาบเข้าขั้นวิกฤตแล้ว
หมอหลวงก็ทำอะไรไม่ถูกเช่นกัน หมอหลวงไม่น้อยทยอยถูกพาลโกรธ
วังหลวงทำให้คนตื่นตระหนก
จักรพรรดินีทรงออกคำสั่งไปทั่วใต้หล้า ตามหาหมอที่มีชื่อเสียง
หมอพื้นบ้านที่มีชื่อเสียงต่างทยอยกันเข้ามาในวัง
กู้ชูหน่วนมองหาโอกาส ดักทำร้ายหมอคนหนึ่ง จากนั้นก็ปะปนเข้าไปในหอดาบของเขา
ประกอบกับที่กู้ชูหน่วย รวมทั้งหมอทั้งหมดสิบสองคนเข้าไปในหอดาบ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์
เป็นนางเอกที่นิสัยแย่ที่สุดตั้งแต่เคยอ่านมา...
คือตัวเองไม่มีเงิน แต่คิดจะเอาทุกอย่างด้วยราคาสูงเสียดฟ้า แล้วก็หาคำพูดให้คนอื่นจ่ายแทน ตัวเองหาประโยชน์จากคนใกล้ตัวแต่กลับเอาใจให้คนอื่นตลอดเนี่ยนะ...
แม่นางกู้เกินเยียวยาแล้วเด้อ 555...
เยี่ยเฟิงเป็นคนดีมาก แต่เขาทนงตัวเกินไป ชีวิตที่ผู้อื่นฝ่าฟันเพื่อแย่งชิงลมหายใจเขาไว้ แต่เขาก็ดิ้นรนกลับไปหาความตายอยู่เรื่อย...
ท่านอาจารย์พูดให้คิดดีมากเลย แต่อาหน่วนจะเข้าใจไหม นางดูมั่นหน้า มั่นใจเกิตเหตุแบบไม่สนสี่สนแปดใดใดเลย...
อยากให้กลับมาอัพเดทไวๆนะคะ ขอบคุณมากค่ะ...
สรุปเรื่องนี้มีตอนจบมั้ยค่ะ...
รอตอนจบอยู่นะคะ ใจบางไม่ไหวแล้วทรมาน...
รออัพเดทอยู่นะคะ...
เมื่อไหร่จะอัพต่อค่ะ...