เขามองไปที่หน้าต่างและพยายามปรับลมปราณ จากนั้นก็กล่าวว่า "แม่กู่จะตามหาลูกกู่นั้นง่าย แต่ลูกกู่จะตามหาแม่กู่นั้นยาก อาคมกู่ชนิดนี้มีเฉพาะทางตอนใต้เท่านั้น ไม่เคยได้ยินว่ารัฐปิงมีคนแปลกหน้ามาจากทางตอนใต้"
"หมายความว่าไม่มีวิธีที่จะหลุดพ้นจากการควบคุมของแม่กู่ได้เลยหรือ?"
"มี หากลูกกู่ฆ่าตัวตาย ย่อมหลุดพ้นจากการควบคุมของแม่กู่ได้อย่างแน่นอน?"
กู้ชูหน่วนก้มหน้าลง
"ลูกกู่แฝงอยู่ที่หัวใจ หากลูกกู่ตาย หัวใจก็จะหยุดเต้น เช่นนั้นจะหลุดพ้นการควบคุมไปทำไม?"
"ยังมีอีกวิธีหนึ่ง"
"วิธีอะไร?"
"ดื่มเลือดของเขา ดึงลูกกู่เข้ามาในร่างของตัวเอง และรับเคราะห์แทนเขา"
"ลูกกู่สามารถที่จะดึงออกมาได้ด้วยหรือ?"
"ได้สิ แต่มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่รู้จักวิชาลับนี้"
"ใคร?"
"แน่นอนว่าเป็นภรรยาของข้า" เยี่ยจิ่งหานกล่าวอย่างภาคภูมิใจ
ภรรยาของเขาเป็นธิดาศักดิ์สิทธิ์ของเผ่าน้ำแข็ง และเป็นหัวหน้าเผ่าน้ำแข็ง
บรรพบุรุษที่ก่อตั้งเผ่าน้ำแข็งมาจากทางตอนใต้
แม้ว่าภรรยาของเขาจะไม่ได้ร่ำเรียนอาคมกู่
แต่ก็มีความรู้ไม่น้อย
"เยี่ยจิ่งหาน เจ้ากำลังล้อเล่นกับข้าใช่หรือไม่?"
"รวบรวมวิญญาณของนาง เมื่อนางกลับมาก็จะสามารถหลุดพ้นจากการควบคุมของแม่กู่ได้"
"พูดไปพูดมาแล้ว เจ้าก็แค่ต้องการให้ข้ารวบรวมวิญญาณของนางใช่หรือไม่?"
"นี่เป็นสิ่งที่เจ้ารับปากไว้ตั้งนานแล้วไม่ใช่หรือ?"
"......"
นางรับปากแล้ว
แต่ในตอนนี้สิ่งที่นางต้องการทำมากที่สุดคือฆ่าผู้ที่ฆ่าล้างตระกูลของนาง
"แล้วเซี่ยวอวี่เซวียนเล่า?เจ้าส่งเขาไปที่ใด?"
"ไม่รู้ ข้าก็เพิ่งใช้ค่ายกลนี้เป็นครั้งแรก"
แม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงมาที่พระราชวังของรัฐปิงได้อย่างน่าประหลาดใจ
ในวันนั้นเขาถูกเหวินเส่าอี๋ทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส
อีกทั้งยังถูกยอดฝีมือขั้นสูงระดับหกลอบโจมตี ทำให้ได้รับบาดเจ็บมากยิ่งขึ้น และทำให้ตัวเองต้องตกที่นั่งลำบาก
ตอนที่เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด และพยายามที่จะเปิดค่ายกล หลังจากมีแสงสว่างจ้าแวบขึ้นมา เขาก็ไม่รู้ว่าค่ายกลถูกคนที่ลอบโจมตีเขาทำลายหรือไม่
อย่างไรก็ตาม เมื่อฟื้นขึ้นมาเขาก็นอนอยู่ที่นี่แล้ว
สิ่งที่ทำให้เขาโกรธเป็นฟืนเป็นไฟก็คือเขาถูกล่ามโซ่ไว้
แม้ว่าเขาจะวรยุทย์ขั้นสูงสุด ก็ไม่สามารถดิ้นหลุดได้ นับประสาอะไรกับตอนนี้
เมื่อนึกถึงคนที่ลอบโจมตีเขา หัวใจของเยี่ยจิ่งหานก็จมลง
คนผู้นั้นคลุมหน้าด้วยผ้าคลุมสีดำ จึงมองไม่เห็นรูปลักษณ์หน้าตา รู้เพียงว่าเป็นผู้หญิง
อีกทั้งยังเป็นหญิงมีอายุ
เหวินเส่าอี๋มีลูกน้องที่เก่งกาจเช่นนี้ด้วย?
วรยุทธย์ของหญิงผู้นั้นไม่ด้อยไปกว่าเหวินเส่าอี๋เลย
ลงมืออย่างโหดเหี้ยมยิ่งกว่าเหวินเส่าอี๋ แต่ละกระบวนท่าโหดเหี้ยมอำมหิต
เยี่ยจิ่งหานไม่กล้าถามเกี่ยวกับเรื่องของเซี่ยวอวี่เซวียนและอาคมกู่ ดังนั้นกู้ชูหน่วนจึงได้เพียงตามหาแม่กู่ด้วยตัวเอง
นางเปลี่ยนเรื่อง "เจ้ารู้หรือว่าใครฆ่าล้างตระกูลมู่ของข้า?"
"ข้าไม่รู้"
"เจ้ามีส่วนร่วมหรือไม่?"
เยี่ยจิ่งหานเงยหน้าขึ้นในทันที และเห็นกู้ชูหน่วนจ้องมองมาที่เขาอย่างเคร่งขรึมและรอคำตอบของเขา
เขาขยับมุมปากและกล่าวออกมาว่า "ไม่มี ตอนที่ข้าได้ข่าว ตระกูลมู่ก็ถูกฆ่าล้างตระกูลแล้ว"
เขาส่งคนไปคุ้มกันตระกูลมู่
และคนที่ส่งไปคุ้มกันถูกฆ่าทั้งหมด
นิกายต่าง ๆ รุมล้อมที่จะฆ่านาง เขาก็ส่งคนอีกกลุ่มหนึ่งไปช่วย แต่นางก็ยังถูกซุ่มโจมตีระหว่างทาง
แม้แต่ตอนที่เขาไปด้วยตัวเอง เขาก็ถูกเหวินเส่าอี๋ขวางไว้
เยี่ยจิ่งหานรู้สึกหนักอึ้งอย่างบอกไม่ถูก
เขาไม่ได้มีส่วนร่วมกับการฆ่าล้างตระกูลมู่
แต่เขา......
ในวันเดียวกันนั้นเขาปล่อยข่าวไปที่ตระกูลไป๋หลี่ว่าไป๋หลี่เจิ้นและไป๋หลี่หมิงถูกนางฆ่าตายแล้ว
กู้ชูหน่วนกล่าวอย่างเคร่งขรึม "เช่นนั้นก็ดี หากข้ารู้ว่าการตายของตระกูลมู่เกี่ยวข้องกับเจ้า เจ้าก็จะเป็นศัตรูที่ใหญ่ที่สุดของข้ามู่หน่วน"
เยี่ยจิ่งหานรู้สึกหดหู่ใจเล็กน้อย
หากในวันนั้นเขาไม่ได้ปล่อยข่าวไปที่ตระกูลไป๋หลี่ว่ามู่หน่วนฆ่าไป๋หลี่เจิ้นและไป๋หลี่หมิง เรื่องก็คงจะไม่เลวร้ายขนาดนี้?
เขาไม่คิดเลยว่าตระกูลมู่จะถูกฆ่าล้างตระกูล
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์
เป็นนางเอกที่นิสัยแย่ที่สุดตั้งแต่เคยอ่านมา...
คือตัวเองไม่มีเงิน แต่คิดจะเอาทุกอย่างด้วยราคาสูงเสียดฟ้า แล้วก็หาคำพูดให้คนอื่นจ่ายแทน ตัวเองหาประโยชน์จากคนใกล้ตัวแต่กลับเอาใจให้คนอื่นตลอดเนี่ยนะ...
แม่นางกู้เกินเยียวยาแล้วเด้อ 555...
เยี่ยเฟิงเป็นคนดีมาก แต่เขาทนงตัวเกินไป ชีวิตที่ผู้อื่นฝ่าฟันเพื่อแย่งชิงลมหายใจเขาไว้ แต่เขาก็ดิ้นรนกลับไปหาความตายอยู่เรื่อย...
ท่านอาจารย์พูดให้คิดดีมากเลย แต่อาหน่วนจะเข้าใจไหม นางดูมั่นหน้า มั่นใจเกิตเหตุแบบไม่สนสี่สนแปดใดใดเลย...
อยากให้กลับมาอัพเดทไวๆนะคะ ขอบคุณมากค่ะ...
สรุปเรื่องนี้มีตอนจบมั้ยค่ะ...
รอตอนจบอยู่นะคะ ใจบางไม่ไหวแล้วทรมาน...
รออัพเดทอยู่นะคะ...
เมื่อไหร่จะอัพต่อค่ะ...