กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ นิยาย บท 897

สรุปบท บทที่ 897: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์

อ่านสรุป บทที่ 897 จาก กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ โดย อี้หมิง

บทที่ บทที่ 897 คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายInternet กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย อี้หมิง อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

สิ่งที่ทำให้นางรู้สึกโกรธเคืองคือเสื้อผ้าของหลินซือหย่วนไม่เรียบร้อยและบนร่างก็มีร่องรอยอันคลุมเครือไม่ชัด

ผมดำสนิมทั่วทั้งศีรษะของเขาไม่รู้ว่าได้กลายเป็นสีขาวราวหิมะตั้งแต่เมื่อใด

ใบหน้าทั้งหน้าซีดเผือดไร้ซึ่งสีเลือดเลยแม้แต่น้อย

แม้แต่ร่างกายของเขาก็ไม่มีสีเลือดเลือดสักนิด

นางรู้ด้านการแพทย์เลยรู้ได้ในทันทีว่าเขาเสียเลือดมากเกินไป

หรือควรจะกล่าวว่าเลือดในร่างกายของเขาแทบทั้งหมดได้ถูกดูดไปจนเกลี้ยงแล้ว

ดูดเลือดของคนผู้หนึ่งจนเกลี้ยงทั้งเป็นแล้วก็ทำลายเขา วิธีการลงมือนี้ก็ช่างโหดเหี้ยมยิ่งนัก

กู้ชูหน่วนฝืนทนความมุทะลุที่จะพุ่งทะยานไปและมองดูพวกขันทีนำตัวเขากลับไปบนเปลหามใหม่อย่างหยาบคายจากนั้นก็คลุมเขาด้วยผ้าขาว

หูของนางแหลมคมสามารถได้ยินเสียงบ่นกระซิบเสียงเบาของพวกขันที

“ชายผู้นี้ไม่ใช่ว่ายังไม่ตายหรอกนะ?”

“เจ้ามองผิดไปแล้วกระมัง ฝ่าบาททรงโปรดปรานคุณชายมากมายในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ ผู้ใดที่จะไม่สิ้นลมหลังจากปรนนิบัติเข้าบรรทม แล้วเขาจะเป็นข้อยกเว้นได้อย่างไร”

“ไม่ใช่นะ เมื่อครู่ข้าเห็นมือของเขาขยับจริงๆ หรือไม่พวกเราลองตรวจดูลมหายใจของเขาเสียก่อน”

“เจ้าไม่ต้องการมีชีวิตอยู่แล้วหรือ? เบื้องบนสั่งการให้เผาพวกเขาซะแล้วโยนเถ้าถ่านลงไปในบ่อส่งคืนวิญญาณ พวกเราทำตามก็พอแล้วไม่ต้องสนใจว่าเขาจะเป็นหรือตายหรอก”

“ก็ใช่ ช่วงนี้ฝ่าบาทยิ่งทรงอารมณ์ไม่ดีผิดปกติ พวกเราอย่าได้สร้างปัญหาให้มากขึ้นกว่านี้อีกเลย”

พวกขันทียกศพจากออกไป

กู้ชูหน่วนยังคงจ้องมองไปทิศทางที่พวกเขาจากไปโดยไม่ตอบสนองเป็นเวลาเนิ่นนาน

ขันทีที่นำทางกล่าวว่า “ท่านหมอจิน ท่านรักษาคุณชายเยี่ยให้หายดี ฝ่าบาทจะต้องทรงประทานรางวัลให้แก่ท่านอย่างดีเป็นแน่ สำนักหมอหลวงก็อยู่ด้านหน้าแล้วรบกวนท่านเดินตามบ่าวมากขึ้นไม่กี่ก้าว”

“ท่านกงกง ทุกๆคืนฝ่าบาทจะต้องทรงโปรดปราน......อืม......คุณชายเป็นจำนวนมากหรือ?”

“ฝ่าบาททรงเปี่ยมด้วยเลือดลมทรงโปรดปรานคุณชายบ้างบางส่วนก็เป็นเรื่องปกติ”

“ความขื่นชอบของฝ่าบาททรงพิเศษเช่นนี้ คนธรรมดาทั่วไปกล้าที่จะเข้าวังมาเป็นสนมหรือ? ไม่รู้ว่าคุณชายเหล่านั้นเข้ามาในวังจากที่ใดหรือ?”

“ชู่ว์ ท่านหมอจิน ท่านเป็นท่านหมอมาจากนอกวังเกรงว่าจะไม่เข้าใจระเบียบกฎเกณฑ์ในวัง คำพูดบางคำไม่สามารถกล่าวเรื่อยเปื่อยได้ ระวังจะรักษาหัวเอาไว้ไม่อยู่”

"ข้าเพียงแค่รู้สึกแปลกใจ"

“ไปกันเถอะ บ่าวจะส่งท่านไปยังสำนักหมอหลวงก่อน”

"ได้"

กู้ชูหน่วนกรอกตาไปมา

นางขยับมือ ผงยาก็กระจายออกไปอย่างไร้ร่องรอย

ขันทีนำทางหายใจเข้าพร้อมกับกุมท้องและกล่าวโดยขมวดคิ้วทันทีว่า "โอ๊ย......ช่างปวดยิ่งนัก......เหตุใดจู่ๆท้องของข้าถึงได้ปวดเช่นนี้นะ?"

“ท่านกงกง ท่านไม่เป็นไรนะ จะให้ข้าช่วยดูหน่อยไหม”

"คือ......ลำบากแล้ว"

กู้ชูหน่วนยิ้มพร้อมกับจับชีพจร จากนั้นก็มองดูกงกงที่นำทางเจ็บปวดจนเหงื่อเย็นแตกออกอย่างเย็นชาซึ่งจับตรงก้นของตนเองอย่างไม่สนใจภาพลักษณ์

“เป็นอย่างไร นี่ข้าเป็นอันใดหรือ......โอ๊ย......ข้าปวดยิ่งนัก......”

“ไม่เป็นอันใด ท้องเสียหน่ะ ไปเข้าห้องส้วมก็พอแล้ว”

“แต่ว่าข้ายังต้องพาเจ้าไปสำนักหมอหลวง......”

“หากท่านยังไม่ไปห้องส้วมอีกจะราดกางเกงแล้วนะ เอาเช่นนี้สำนักหมอหลวงอยู่ที่ใด ท่านบอกข้าหน่อยแล้วข้าจะไปเองนะ”

ขันทีนำทางเดิมทีไม่กล้าให้นางไปลำพังผู้เดียว

อย่างไรก็ตามท้องของตนปวดอยู่เป็นพักๆ หากไม่ไปอีดเขาเองก็ทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว

จึงทำได้เพียงบอกตำแหน่งของสำนักหมอหลวงอย่างลวกๆจากนั้นก็รีบไปยังห้องส้วมด้วยความรีบร้อน

ทันทีที่ขันทีจากไปกู้ชูหน่วนก็เร่งฝีเท้าไล่ตามพวกขันทีที่ยกศพจากไปไว้ทันที

ท้องฟ้ามืดมิดแล้วและที่นี่ก็ห่างไกล กู้ชูหน่วนปลอมตัวเป็นนางกำนัลใหม่และได้ผ่านเหล่าองคครักษ์ตรวจเวรทั้งหลายได้

ตามไปตลอดทาง

นางมาถึงตำหนักร้างที่หนึ่ง

ขันทีน้อยสองสามคนสุมกองไฟอยู่และกำลังจุดไฟด้วยตะบันไฟเพื่อเตรียมจัดการเผาศพ

ลมหนาวพัดมาเป็นพักๆ ด้านข้างของตำหนักได้ปลูกต้นอู๋ถงเอาไว้จำนวนไม่น้อย ลมบางพัดโชยผ่านใบไม้ก็บังเกิดเสียงขึ้น

คืนนี้อากาศหนาวและลมแรง

ตะบันไฟจุดขึ้นหลายครั้งแต่ก็จุดไม่ติด ร่างกายของเหล่าขันทีน้อยสั่นเทาขึ้นโดยตรง

เส้นเอ็นและเส้นลมปราณของหลินซือหย่วนขาดไปหมดแล้ว และบนร่างกายก็ไม่มีร่องรอยของเลือดเลยแม้แต่น้อยจึงไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้เลย

ลมหายใจของเขาอ่อนโรย ลมหายใจเข้าน้อยลมหายใจออกมาก หากว่าไม่ได้ตรวจให้ดีก็ตรวจไม่ออกเลย

กู้ชูหน่วนพยุงเขานั่งลง วางฝ่ามือของตนเองไว้บนร่างกายของเขา จากนั้นก็ถ่ายกำลังภายเข้าไปในร่างกายของหลินซือหย่วนอย่างต่อเนื่อง

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าใด การหายใจของหลินซือหย่วนถึงได้ดีขึ้นมาอยู่บ้างในท้ายที่สุด

เขาลืมตาขึ้นอย่างอ่อนแรงและสิ่งที่เขามองเห็นคือกู้ชูหน่วน

“เกิดอะไรขึ้น เหตุใดเจ้าถึงอยู่ในวัง แล้วทรราชหญิงผู้นั้นใช้วิธีการใดในการดูดเลือดของเจ้าจนไม่เหลือเลยแม้แต่น้อย”

ในใจของกู้ชูหน่วนมีคำถามมากมายก่ายกอง

ไม่เพียงแต่หลินซือหย่วนเท่านั้นแต่ว่าการตายของชายหนุ่มทั้งสิบกว่าคนนี้ก็เหมือนกับหลินซือหย่วนทุกประการ

เมื่อหลินซือหย่วนเห็นกู้ชูหน่วนก็ได้ถอนหายใจยาวออกมา

เขาคิดไม่ถึงก่อนตายยังสามารถเห็นกู้ชูหน่วนได้อีกครั้ง

“เป็น......เป็นจักรพรรดินีดูด......ดูดไป......นาง...... นางกำลังฝึกฝนพลังชั่วร้าย......จำต้องดูด......ดูดเลือดจำนวนมาก......รวมทั้งเด็ดตะวัน......วิชา......"

ฝึกฝนพลังชั่วร้าย?

พลังชั่วร้ายอันใดกันที่ต้องดูดเลือดของคนไป?

แล้วยังเป็นจำนวนมากด้วย?

"ควบ......การชุมนุมควบคุมสัตว์ร้ายเป็น......เป็นแผนร้ายฉากหนึ่ง......เพียงแค่เป็นบุรุษที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง......ล้วน......ล้วนถูกจักรพรรดินีจับตัวไป......พวกเขาเหมือน......เหมือนเช่นข้า ถูกดูดกันหมด......ดูดเลือดจนแห้งเหือด......”

กู้ชูหน่วนกล่าวว่าไม่ตื่นตกใจเป็นเรื่องโกหก

การชุมนุมควบคุมสัตว์ร้ายได้รวบรวมรัฐปิงทั้งรัฐโดยพร้อมกัน แม้กระทั่งชายหนุ่มหล่อเหล่าสง่างามที่โดดเดี่ยวที่สุดแห่งทั้งดินแดนวิญญาณเยือกแข็ง

หากว่าทำลายพวกเขาทั้งหมดลง เช่นนั้นอนาคตนับหลายสิบปีนั้นของดินแดนวิญญาณเยือกแข็งกระทั้งนับร้อยปีก็ตกอยู่ในสภาวะอันเย็นยะเยือก

นางวางเกมรุกอันใหญ่เช่นนั้นเพียงเพื่อฝึกฝนพลังชั่วร้ายหรือ

“เช่นนั้นผู้นำตระกูลใหญ่ทั้งสี่ตระกูลรู้เรื่องนี้หรือไม่?”

หลินซือหย่วนส่ายศีรษะ

หมายเหตุ

อู๋ถง เป็นชื่อต้นไม้ชนิดหนึ่ง ให้น้ำมัน เนื้อไม้นำไปทำเครื่องดนตรีได้

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์