กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ นิยาย บท 922

จึงได้ต่อสู้กันกับนางตรงนั้นเลย

ระดับสี่อยู่ที่รัฐปิง แม้แต่ดินแดนวิญญาณเยือกแข็งล้วนเป็นบุคคลที่สุดยอด

คนธรรมดาทั่วไปจะสู้ได้อย่างสบายง่ายดายที่ไหนกัน

แน่นอนว่าเฉิงเทียนปังเองก็ไม่สามารถรับมือกับกู้ชูหน่วนได้อย่างง่ายดายหรอก

อย่างไรก็ตามการต่อสู้กันอยู่ที่นี่นั้นได้ดึงดูดคนจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว

คนของหลากหลายนิกายพากันทยอยเข้ามา วัตถุประสงค์คือโค่นล้มถอนรากถอนโคนจอมมารและสังหารกู้ชูหน่วนทิ้งเสีย

กู้ชูหน่วนสองหมัดยากต้านทานสี่ฝ่ามือ มันล้นหลามจนยากที่จะต้านทาน

อีกทั้งมีกริชใหญ่ตัดฟาดผ่านมาด้วย

กู้ชูหน่วนจึงทำได้เพียงปล่อยมือที่ดึงจอมมารออกก่อน จากนั้นถึงได้พลิกมือฟาดดาบต้านฝ่ายตรงข้ามให้ถอยออกไป

“สังหารปีศาจร้ายก่อนจากนั้นค่อยสังหารนางปีศาจ”

แต่ละนิกายที่ไม่ได้มีความสามัคคีกัน พอจะสังหารคนนี่สามัคคีกันเหลือนเกิน

โดยเฉพาะหลังจากที่ลูกศิษย์ของตระกูลไป๋หลี่มาถึง ก็พากันล้อมรอบกู้ชูหน่วนไว้ เพื่อไม่ให้กู้ชูหน่วนช่วยจอมมารได้

“ท่านพี่หญิง ท่านไม่ต้องสนใจข้า ชีวิตของอาม่อไม่ได้คุ้มค่า ท่านพี่หญิงไปก่อนเลย อา……”

จอมมารสูญเสียวรยุทธ์นานแล้ว เขาจะเอาชนะต่อสู้กับศัตรูมากมายได้อย่างไรกัน

ไม่นานด้านหลังของจอมมารจึงได้ถูกฟาดฟัน เลือดสีแดงสดไหลอาบลงมาจากชุดอย่างช้าๆ

ร่างกายของกู้ชูหน่วนแข็งทื่อเย็นยะเยือกทันที ความโกรธเดือดดาลที่อัดแน่นได้ปะทุออกมา

นางกล่าวลอดไรฟันออกมาหนึ่งประโยคว่า“ข้าเคยพูดแล้ว ผู้ใดกล้าทำให้เขาบาดเจ็บ จะถูกจัดการ ใครก็ไม่สามารถมาขวางได้”

ซือ….

ทุกคนพากันตัวสั่นระริก

บรรยากาศเย็นยะเยือก

ชัดเจนว่าหญิงผู้นี้มีเพียงระดับสี่ อีกทั้งยังได้รับบาดเจ็บสาหัส นางมีพลังที่แข็งแกร่งเช่นนี้ได้อย่างไรกัน

พวกเขามีความรู้สึกที่คล้ายดั่งว่าเท้าได้ก้าวเข้าสู่ประตูนรกแล้ว

เป็นอย่างที่คิด......

หญิงผู้นั้นได้แปลงกายเป็นเทพอสูร จังหวะการใช้กริชอย่างคล่องแคล่วว่องไว พลังกำลังของนางเพิ่มขึ้นอย่างมากมายมหาศาล เสียงพิฆาตสังหารดังก้องมาทางพวกเขา

การเคลื่อนไหวของนางรวดเร็ว เห็นเพียงแสงสีขาวแฉลบผ่าน ชีวิตอันสดใสก็ค่อยๆล้มพับลงและจางหายมลายตลอดกาล

ทุกคนต้องการล้อมโจมตีนางอีกครั้ง

ทว่าไม่ได้ช่วยอะไรเลย ทำได้เพียงมองนางมาสังหาร พวกเขาไร้เรี่ยวแรงที่จะขัดขวางต้านทาน

บางคนที่ปอดแหก สังเกตการณ์เห็นท่าไม่ดีคิดจะเพ่นหนี

แต่กู้ชูหน่วนกลับไม่ได้ให้โอกาสนั้นแก่พวกเขา

นางได้มอบพลังดาบทลวงเข้าที่ทรวงอกพวกเขา

ยังไม่ทันได้สัมผัสถึงความเจ็บปวดทุกข์ระทม พลังชีวิตก็ได้สูญหายไปเสียแล้ว ทำได้เพียงตาเหลืองมองการแปลงร่างเป็นอสูรของกู้ชูหน่วน

“พู่ว์…..”

ตามด้วยคนสุดท้ายล้มลง

ปลายดาบของกู้ชูหน่วนมีเลือดสดไหลหยดย้อยลงมา

บนร่างกายของนางไม่มีหยดเลือดกระเซ็นเลย ล้วนเป็นคนของแต่ละนิกาย

ผู้คนนับสิบนับร้อยทั้งหมดล้วนถูกนางสังหาร

เมื่อช่วงเวลาบ้าระห่ำผ่านพ้น กู้ชูหน่วนมองคนที่อยู่บนพื้นภายในใจนั้นรู้สึกเจ็บปวดเล็กน้อย

เดิมนางไม่ได้อยากจะสังหารพวกเขา

เป็นพวกเขาที่กลั่นแกล้งคนจนเกินไป

จอมมารมองด้วยความมึนงง เป็นเวลานานที่ไม่ได้สติกลับมา

กู้ชูหน่วนสงบสติอารมณ์ และพยายามกักเก็บลมหายใจที่เยือกเย็น นางเดินมาข้างกายอาม่อ กล่าวถามขึ้นด้วยน้ำเสียงอบอุ่นว่า“ตกใจแล้วใช่หรือไม่? อาม่อกลัวหรือไม่?”

จอมมารเงยหน้าขึ้นด้วยความมึนงง กล่าวว่า“เหตุใดอาม่อต้องกลัวด้วยเล่า?”

“ข้าสังหารคนตั้งมากมาย เจ้าไม่กลัวหรือ?”

“ต่อให้ท่านพี่หญิงจะสังหารทุกคนบนพื้นพิภพนี้ ท่านก็ไม่มีทางที่จะสังหารอาม่อหรอก”

ใจของกู้ชูหน่วนกระตุกอย่างแปลกประหลาด

นางลูบผมที่ยุ่งเหยิงบริเวณหน้าผากของจอมมาร จากนั้นยิ้มและกล่าวขึ้นว่า“คนบนพื้นพิภพสามารถสังหารข้าได้ ทว่าจะมาแตะต้องเจ้าแม้แต่เส้นผมเส้นเดียวไม่ได้”

พอกล่าวพูดออกมา

กู้ชูหน่วนถึงตื่นตระหนกหวาดกลัวเลย

จอมมารดวงตาแดงระเรื่อ

เขากอดกู้ชูหน่วนแน่นๆอีกครั้ง คล้ายดั่งต้องการเอากลิ่นของกู้ชูหน่วนตีตราไว้ในหัวใจตลอดกาล

“ท่านพี่หญิง ท่านช่างดีกับอาม่อเหลือเกิน”

“อาม่อเด็กโง่ เมื่อครู่ตอนที่ตระกูลไป๋หลี่ต้องการสังหารข้า เหตุใดเจ้าต้องกระโจนเข้ามาด้วย เจ้าไม่รู้ว่าหมากอุบายนั้น จะทำให้เจ้าตายได้ใช่หรือไม่?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์