กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ นิยาย บท 927

สรุปบท บทที่ 927: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์

อ่านสรุป บทที่ 927 จาก กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ โดย อี้หมิง

บทที่ บทที่ 927 คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายInternet กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย อี้หมิง อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

เกล็ดหิมะเริ่มตกลงมาจากฟากฟ้า และเกล็ดหิมะก็โบยบินล่องไปในอากาศอย่างต่อเนื่องเหมือนนางฟ้าน้อยๆ

ทุกคนรู้สึกเพียงว่าบรรยากาศดูอบอุ่น

แต่ทว่าท่านผู้เฒ่าหนิงกลับรู้สึกกดดันอย่างมาก เกล็ดหิมะแต่ละเกล็ดนั้นเหมือนกับใบมีดที่แหลมคม และสามารถฆ่าเอาชีวิตเขาได้ทุกเมื่อ

ไม่ว่าเขาจะพยายามต่อต้านอย่างสุดความสามารถมากเพียงใด ก็ไม่สามารถต่อต้านหรือหลุดพ้นจากการจู่โจมอย่างต่อเนื่องของเกล็ดหิมะไปได้

"ช่างน่าแปลก อากาศร้อนระอุเช่นนี้กลับมีหิมะตกลงมาได้อย่างไร? ผู้นำตระกูลเหวินใช้กำลังภายในเพื่อกระตุ้นขึ้นมาอย่างนั้นหรือ?"

"ต้องใช่แน่ๆ ไม่เช่นนั้นจู่ๆ จะมีหิมะตกลงมาได้อย่างไร"

"ทว่าหิมะเหล่านี้ดูไปแล้วก็ไม่ได้อันตรายหรือน่ากลัวแต่อย่างไรเลย เหตุใดถึงทำเช่นนี้"

"เจ้าไม่เห็นหรือว่าสีหน้าของท่านผู้เฒ่าหนิงเริ่มแย่ลงเรื่อยๆ และพลังปราณของเขาก็เริ่มลดลงเรื่อยๆ แล้ว?"

หนิงเทียนโย่วกำหมัดแน่น และอดไม่ได้ที่จะพุ่งตัวออกไป ทว่าเขารู้ดีว่า การต่อสู้ในระดับนี้ เขาไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงได้เลย

กู้ชูหน่วนอยู่ห่างไปจากเขาไม่ไกลนัก และกระซิบบอกกับเขาว่า "ไม่ต้องเป็นกังวลไป เว้นเสียแต่ว่าท่านผู้เฒ่าหนิงจะดื้อรั้นเสียเอง และต้องการที่จะต่อสู้จนรู้ดำรู้แดง ไม่เช่นนั้นแล้วเขาจะไม่มีทางได้รับอันตรายใดๆ อย่างเด็ดขาด"

จากนั้นหนิงเทียนโย่วจึงสังเกตเห็นกู้ชูหน่วน

เมื่อเห็นว่ากู้ชูหน่วนกะพริบตาใส่เขาอย่างคลุมเครือ

หนิงเทียนโย่วรู้สึกตกตะลึงอย่างมาก

เหตุใดแววตาเช่นนี้ถึงช่างคุ้นเคยเสียเหลือเกินนะ?

ช่างเหมือนกับมู่หน่วนเสียเหลือเกิน?

"เจ้าคือ......"

"หมอจิน จากทางตอนใต้ของเมือง"

หนิงเทียนโย่วเข้าใจได้ในทันที ทว่าเขาไม่เข้าใจว่าเหตุใดมู่หน่วนต้องช่วยเหลือปีศาจร้ายนั่นด้วย

หลังจากที่เกิดเรื่องขึ้นกับมู่หน่วน เขารู้สึกเป็นห่วงและเป็นกังวลกู้ชูหน่วนมาโดยตลอด

ตอนนี้เมื่อเห็นว่านางไม่เป็นอะไร เขาก็รู้สึกวางใจ

"ตู้ม......"

เกล็ดหิมะถูกทำให้ละลายลงอย่างรุนแรงโดยท่านผู้เฒ่าหนิง และบรรยากาศที่ร้อนระอุดั่งไฟแผดเผาก็ทำให้ทุกคนอดไม่ได้ที่จะยกแขนเสื้อขึ้นมาพัด เพื่อขจัดความร้อนออกไป

เกล็ดหิมะถูกทำให้ละลายลง

ไม่นานก็กลับกลายเป็นฝนน้ำแข็ง

น้ำทุกหยดเกาะตัวเป็นน้ำแข็ง

และตกลงมาไม่หยุดหย่อน

สำหรับทุกคนแล้ว นี่เป็นเพียงการถูกฝนน้ำแข็งตกลงมาใส่เท่านั้น

ทว่าสำหรับท่านผู้เฒ่าหนิงแล้วนั้น แต่ละเม็ดฝนที่ตกลงมานั้น เต็มไปด้วยเจตนาแห่งการฆ่าสังหาร

เพียงแค่สัมผัสโดนเข้าไปเพียงนิดเดียว จะต้องถูกกำจัดลงอย่างแน่นอน

ท่านผู้เฒ่าหนิงฝืนพยายามต่อต้านครั้งแล้วครั้งเล่า สีหน้าของเขายังคงย่ำแย่ผิดปกติ การหายใจของเขาก็หนักขึ้นมาก

หนิงเทียนโย่วรีบกล่าวขึ้นมา "ท่านปู่......"

ผู้นำตระกูลซั่งกวนกล่าวขึ้นอย่างเรียบเฉย "ผู้นำตระกูลหนิงช่างดื้อรั้นเสียเหลือเกิน หากยังคงต่อสู้ต่อไปเช่นนี้ เช่นนั้นเขาต้องจบชีวิตของเขาลงอย่างแน่นอน"

"ท่านผู้นำ เราต้องยื่นมือเข้าช่วยหรือไม่?"

ช่วยเหลือ?

ช่วยอย่างไร?

ผู้นำทั้งสามตระกูลรวมกัน ก็ไม่สามารถต่อสู้เอาชนะเหวินฉู่ได้

พละกำลังและวรยุทธ์ของตระกูลเหวินนั้นมีความลึกลับมาโดยตลอด

พวกเขาสามารถฝึกฝนผู้นำที่มีความโดดเด่นและอายุน้อยเช่นนี้ได้ ใครจะไปรู้ได้ว่าในตระกูลของพวกเขายังมียอดฝีมือระดับหกขั้นสูงสุดอีกหรือไม่?

ต่อให้ไม่มียอดฝีมือระดับหกขั้นสูงสุดแล้ว ทว่ายอดฝีมือระดับหกเพียงหนึ่งถึงสองคนก็สามารถเอาชนะพวกเขาได้ทั้งหมดแล้ว

"ชิ้ว ชิ้ว ชิ้ว......"

อย่างไรเสียท่านผู้เฒ่าหนิงก็แก่มากแล้ว อีกทั้งวรยุทธ์ของเขาก็เทียบคนอื่นไม่ได้

ความพ่ายแพ้ครั้งยิ่งใหญ่

ฝนน้ำแข็งที่เย็นยะเยือกยังคงโปรยปราย พัดผ่าน และพุ่งตรงไปยังท่านผู้เฒ่าหนิง หากไม่ใช่เป็นเพราะเหวินเส่าอี๋รั้งมือเอาไว้ได้ทัน เช่นนั้นก็เกรงว่าท่านผู้เฒ่าหนิงคงจะจบชีวิตลงไปเสียแล้ว

"ดึงเถอะ"

ผู้อาวุโสทั้งแปดรับคำสั่ง และเดินไปยังตรงกลางของหม้อเตาเผาขนาดใหญ่

กู้ชูหน่วนได้กลิ่นของสัญญาณอันตราย

"เจ้าคงไม่ได้คิดจะโยนข้าเข้าไปในหม้อเตาเผาที่เดือดระอุเช่นนั้นหรอกใช่หรือไม่?"

ผู้อาวุโสสวี่กล่าว "หากจะโทษก็โทษที่เจ้ายอมรับผู้ที่ไม่สมควรได้รับการยอมรับ"

กู้ชูหน่วนขมวดคิ้ว "ท่านหมายถึงเส้นดวงวิญญาณสามเส้นที่หน้าผากของข้าอย่างนั้นหรือ?"

"แม่สาวน้อย ดูเหมือนว่าเจ้าจะรู้ไม่น้อยเลยทีเดียวเชียว เจ้ามีความเกี่ยวข้องอะไรกับนางอย่างนั้นหรือ? เหตุใดดวงวิญญาณของนางจึงได้เข้ามาอยู่ในร่างกายของเจ้า"

"ข้าก็นึกว่าเรื่องอะไร ข้าเป็นเพียงแพะรับบาปคนหนึ่งเท่านั้น"

กู้ชูหน่วนไม่รู้ว่าควรหัวเราะหรือร้องไห้ดี

เพราะเส้นดวงวิญญาณที่หน้าผาก นำพามาซึ่งความโชคดี

แต่ก็นำพาโชคร้ายมาให้นางด้วยเช่นกัน

"หากยังต้องการมีชีวิตอยู่ก็ได้ เพียงแต่เจ้าจำเป็นต้องอธิบายพูดเรื่องทั้งหมดออกมาให้ละเอียด"

"อะไรคือจำเป็นต้องอธิบายเรื่องทั้งหมด?"

"เช่น เส้นดวงวิญญาณที่สี่อยู่ที่ใด?"

"พวกท่านยังไม่รู้ เหตุใดถึงคิดว่าข้าจะต้องรู้ด้วย?"

"เช่นนั้นก็ต้องขอโทษด้วย"

"ตระกูลเหวินก็เหมือนกับตระกูลใหญ่อีกสองตระกูล ล้วนแล้วต่างก็เป็นคนชั่วร้าย ที่เอาแต่รังแกผู้หญิงที่อ่อนแอและไม่มีทางสู้ เดิมทีข้าไม่มีความผิด แต่เพียงเพราะข้ามีเส้นดวงวิญญาณนี้ ข้าก็กลับกลายเป็นผู้มีความผิด ข้ายอมแล้ว"

สีหน้าของผู้อาวุโสตระกูลเหวินต่างนิ่งเฉย สายตาที่มองไปยังจอมมารและกู้ชูหน่วนนั้นเหมือนกับจ้องมองคนตายยังไงยังงั้น

และไม่รู้สึกใดๆ ต่อคำพูดของนางเลยแม้แต่นิดเดียว

กู้ชูหน่วนรู้ว่าผู้อาวุโสเหล่านั้นจัดการได้ยากกว่าผู้อาวุโสของตระกูลอื่น

เหวินเส่าอี๋หัวเราะและกล่าวขึ้นมาว่า "แม่นางมู่ เจ้าช่างพูดให้ตัวเองดูอ่อนแอไร้เดียงสาเสียเหลือเกิน"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์