ชั่วขณะที่ประกายแสงสีเขียวและสีแดงแว๊บผ่าน มือของไป๋หลี่หมิงเยียนที่ซัดกลางกะโหลกศีรษะก็แข็งทื่อขึ้นมาในทันใด ราวกับว่ามีเรี่ยวแรงอยู่มากมายแต่ไม่สามารถใช้การได้
จอมมารก็มิได้โง่เง่าเช่นนั้น อาศัยช่องว่างนี้ก็คิดที่จะเจาะออกมา
น่าเสียดายที่ไป๋หลี่หมิงเยียนก็มิได้โง่ เขาใช่เรี่ยวแรงสะเทือน ความปวดเมื่อยและชาในมือรู้สึกน้อยลงมากมายนัก
แม้ว่าจะไม่มีฝ่ามือซัดกลางกะโหลกศีรษะของจอมมารกระจุย แต่จอมมารก็ถูกจับตัวกลับมาอีกครั้ง
ไป๋หลี่หมิงเยียนด้านหนึ่งกุมตัวจอมมาร อีกด้านหนึ่งมองไปยังธงใหญ่ทั้งแปดโดยรอบ
ธงใหญ่ทั้งแปดธงนี้ดูเหมือนจะเรียบง่ายสบายๆ แต่ว่าธงใหญ่แต่ละธงมีพลังที่ไม่มีที่สิ้นสุด อยู่ห่างมากมายเช่นนี้ก็ยังสามารถรู้สึกได้ถึงกลิ่นไอความอันตรายที่สามารถฆ่าคนให้ถึงแก่ชีวิตได้
ปี่หยกและวงแหวนอวกาศสีแดงล่องลอยอยู่เหนือธงทั้งแปด และถ่ายทอดพลังงานไปทางธงทั้งแปดธงอยู่อย่างต่อเนื่องไม่ขาดสาย
ในสถานที่ที่ผู้อื่นมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า สถานที่ที่มีธงใหญ่ทั้งแปดผืนล้อมเอาไว้ยังมีธงขนาดเล็กจำนวนนับไม่ถ้วนด้วย ธงเล็กแปรเปลี่ยนอย่างคาดเดาไม่ได้และหมุนเวียนไปไม่หยุด
แม้ไป๋หลี่หมิงเยียนจะรู้สึกประหลาดใจ แต่ก็ทั้งระวังตัวทั้งโลภมากและก็หัวเราะดังสนั่น
“ฮ่าๆๆ......คิดไม่ถึงว่าแม่สาวน้อยผู้หนึ่ง ในตัวกลับมีสมบัติล้ำค่ามากมายเช่นนี้ ค้นหาไปทั่วดินแดนวิญญาณเยือกแข็งเกรงว่าก็ไม่สามารถรวบรวมของล้ำค่าในตัวเจ้าได้กระมัง”
“หากข้าทายไม่ผิด ในวงแหวนอวกาศนั้นก็คงจะมีลมหายใจของยอดฝีมือระดับเจ็ดเหลืออยู่ด้วยถูกต้องหรือไม่?”
กู้ชูหน่วนเยาะเย้ยเสียงหนึ่งโดยที่คร้านที่จะตอบกลับต่อเขา
นางใช้ความคิดกระตุ้นวงแหวนอวกาศและปี่หยก
ธงทั้งแปดเปลี่ยนรูปร่างและโยกย้ายตำแหน่งโดยที่ค่ายกลได้ปรากฏหมอกวงกตขึ้น ท่ามกลางหมอกวงกตมีอาวุธลับอันแหลมคมแฝงอยู่ทั่วอย่างหนาแน่นและยิงไปยังไป๋หลี่หมิงเยียนดังพรึ่บพรับๆ
นี่คือไพ่ตายที่สำคัญที่สุดของนาง
เดิมทีไม่ต้องการนำออกมารวดเร็วเช่นนี้ แต่น่าเสียดายที่อาม่อตกอยู่ในมือของเขา
หากว่านางไม่แสดงไพ่ตายออกมาโดยตรงซึ่งเป็นการสังหารในท่าเดียวเพื่อสังหารไป๋หลี่หมิงเยียน เกรงว่าอาม่อจะตายอยู่ในมือของเขาอย่างอนาถ
นางไม่สามารถเสี่ยงได้และเสี่ยงไม่ได้ด้วย
อาวุธลับอันมากมายและรวดเร็วซึ่งคนทั่วไปไม่สามารถหลบเลี่ยงได้เลย เนื่องจากพื้นที่ที่ธงทั้งแปดปกคลุมนั้นขนาดเล็กเกินไปจริงๆ
ตั้งการทะยานออกจากขอบเขตที่ธงใหญ่ทั้งแปดล้อมไว้ก็ยิ่งเป็นไปไม่ได้ ในผืนธงใหญ่ทั้งแปดล้วนสลักด้วยอักษรรูน และพลังของอักษรรูนเข้าใกล้ระดับเจ็ด
อย่างไรก็ตามอาวุธลับจะร้ายกาจเพียงใดก็ยากที่จะสามารถรั้งไป๋หลี่หมิงเยียนผู้ที่เป็นขั้นสูงสุดระดับหกได้
เขาสะบัดแขนเสื้อในขณะที่ตั้งใจจะทำลายอาวุธลับทั้งหมดทิ้งไปถึงได้ตระหนักว่า กำลังยุทธ์ในตัวเขาไม่รู้ว่าได้หายไปตั้งแต่เมื่อใด อ่อนแรงเสียจนแม้แต่พลังปราณที่แท้จริงก็ไม่มีเลยแม้แต่น้อย
ไป๋หลี่หมิงเยียนมองไปยังอักษรรูนอันแน่นขนัดบนธงใหญ่ทั้งแปดจึงได้ตระหนักถึงอะไรบางอย่าง
ไม่นานนักเขาอาศัยการเคลื่อนไหวอันคล่องแคล่วได้พุ่งแว๊บผ่านอาวุธลับอันหนาแน่นเหล่านั้นราวกับนกพิราบม้วนตัว
เนื่องจากเกรงว่าจอมมารจะถูกฆ่าด้วยอาวุธลับ ซึ่งจะส่งผลต่อการกลั่นพลังชั่วร้าย ไป๋หลี่หมิงเยียนจึงดึงจอมมารให้หลบออกไปพร้อมกัน
“ปึงๆๆ......”
“แปะๆๆ......”
"ชิ่วๆๆ...... "
อาวุธลับซัดออกไม่หยุดยั้ง เช่นไรไป๋หลี่หมิงเยียนก็ถูกอาวุธลับเหล่านั้นทำให้ลำบากไปบ้าง เสื้อผ้าบนกายก็ถูกกรีดทำลายไปหลายจุด
ตรงกันข้ามกับจอมมาร อาวุธลับเหล่านั้นราวกับว่ามีตาด้วยเช่นนั้น เพียงแค่ไล่ตามซัดเขาไม่หยุดและไม่ได้ทำอันตรายต่อจอมมารเลย
เป็นเวลาหลายปีเพียงใดแล้วที่ไม่มีผู้ใดสามารถทำร้ายเขาได้
แต่ในตอนนี้เขากลับถูกเจ้าเด็กเมื่อวานซืนเพิ่งเข้าสู่ระดับสี่จัดการเสียจนสาหัสเช่นนี้
ไป๋หลี่หมิงเยียนกล่าวว่าไม่โมโหนั้นไม่จริง
เขาตะโกนร้องเสียงดังเสียงหนึ่งขึ้น ทันใดนั้นธงใหญ่ทั้งแปดก็ขาดอากาศหายใจทันที ทั่วทุกที่เป็นหมอกหนาทึบที่ดำมืดหายใจไม่ออกไปทั่ว
หมอกหนามีฤทธิ์กัดกร่อน อาวุธลับสัมผัสเข้ากับกลิ่นไอหมอกหนาทึบจนหายใจไม่ออก และก็สึกกร่อนไปเลยโดยตรงจนกลายเป็นน้ำสีเงินเป็นแอ่งๆ
ในค่ายกลไป๋หลี่หมิงเยียนด้วยท่าทางยืนตัวตรง มือข้างไขว้หลังและอีกหนึ่งข้างหนึ่งวางอยู่บนไหล่ของจอมมารเพื่อคุมตัวเขาเอาไว้และมองไปยังกู้ชูหน่วนอย่างเย็นชา
อาวุธลับไม่มีแล้วแต่ว่าค่ายกลธงแปรเปลี่ยนไปอีกครั้ง เสียงลมคำรามอยู่ในค่ายกลธงและเสียงหวีดร้องมาก่อนค่อยหวาดกลัวทีหลังดังอยู่ไม่หยุด
เสียงคำรามเหล่านี้ราวกับผีร้ายในนรกที่พบเจอช่องว่างเพื่อหลีกหนีจากขุมนรก และหลั่งไหลทะลักออกมาอย่างบ้าคลั่งเพื่อฆ่าล้างไปทั่ว
ลมอันบ้าคลั่งแปรสภาพเป็นผีร้าย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์
เป็นนางเอกที่นิสัยแย่ที่สุดตั้งแต่เคยอ่านมา...
คือตัวเองไม่มีเงิน แต่คิดจะเอาทุกอย่างด้วยราคาสูงเสียดฟ้า แล้วก็หาคำพูดให้คนอื่นจ่ายแทน ตัวเองหาประโยชน์จากคนใกล้ตัวแต่กลับเอาใจให้คนอื่นตลอดเนี่ยนะ...
แม่นางกู้เกินเยียวยาแล้วเด้อ 555...
เยี่ยเฟิงเป็นคนดีมาก แต่เขาทนงตัวเกินไป ชีวิตที่ผู้อื่นฝ่าฟันเพื่อแย่งชิงลมหายใจเขาไว้ แต่เขาก็ดิ้นรนกลับไปหาความตายอยู่เรื่อย...
ท่านอาจารย์พูดให้คิดดีมากเลย แต่อาหน่วนจะเข้าใจไหม นางดูมั่นหน้า มั่นใจเกิตเหตุแบบไม่สนสี่สนแปดใดใดเลย...
อยากให้กลับมาอัพเดทไวๆนะคะ ขอบคุณมากค่ะ...
สรุปเรื่องนี้มีตอนจบมั้ยค่ะ...
รอตอนจบอยู่นะคะ ใจบางไม่ไหวแล้วทรมาน...
รออัพเดทอยู่นะคะ...
เมื่อไหร่จะอัพต่อค่ะ...