ไป๋หลี่หมิงเยียนโบกมือและตั้งค่ายกลกระบวนค่ายหนึ่งขึ้นในทันใดเพื่อขังกู้ชูหน่วนเอาไว้ในนั้น
กู้ชูหน่วนไม่สามารถขยับเขยื้อนได้ ความโกรธของยอดฝีมือขั้นสูงสุดระดับหกมิใช่สิ่งที่ผู้ใดก็สามารถทนได้
แม้ว่านางจะมีอาวุธศักดิ์สิทธิ์ปกป้องอยู่ก็ไม่มีข้อยกเว้น
การต่อสู้ในครั้งนี้นางได้รับบาดเจ็บสาหัสและพ่ายแพ้ไป
ไป๋หลี่หมิงเยียนสูดหายใจเข้าลึกๆพร้อมกับดูดปี่หยกและวงแหวนอวกาศเข้ามาไว้ในฝ่ามือ
เขามองดูของศักดิ์สิทธิ์ทั้งสองอย่างละเอียดและพบว่านอกจากวัสดุของสิ่งของศักดิ์สิทธิ์ทั้งสองอย่างนี้พิเศษและสัมผัสแล้วอุ่นมือก็ไม่มีสิ่งทีพิเศษอื่นใด
เขาวิเคราะห์อยู่สักพักหนึ่งแต่ก็ไม่รู้ว่าจะขยับของศักดิ์สิทธิ์นี้เช่นไร
แต่กู้ชูหน่วนเพิ่งจะใช้ปี่หยกและวงแหวนอวกาศระเบิดพลังอันน่าเกรงขามออกมาจนเกือบจะทำให้เขาผู้เป็นขั้นสูงสุดระดับหกผู้นี้พ่ายยับเยิน ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่สามารถปฏิเสธได้
เขาเก็บวงแหวนอวกาศและปี่หยกเอาไว้แล้วก้าวเดินเข้ามาใกล้กู้ชูหน่วนทีละก้าวๆ ในแววตานั้นเปล่งประกายด้วยแสงระยิบระยับอันแปลกประหลาด
“แม่หนู ในช่วงเวลาข้านำดวงวิญญาณนั้นออกมาให้ข้าดูความทรงจำของเจ้าก่อนนะ”
กู้ชูหน่วนเนื่องด้วยบาดเจ็บสาหัสรูม่านตาจึงกระจายเล็กน้อย นางฝืนบังคับตนเองให้รู้สึกตัวเนื่องจากเกรงว่าตนเองสลบไปแล้วก็จะไม่ตื่นขึ้นมาอีก
เมื่อเผชิญหน้ากับบีบบังคับแต่ละก้าวๆ ในใจของกู้ชูหน่วนรู้สึกหนาวขึ้นเล็กน้อย
หรือว่าวันนี้ตนเองจะถูกอัดอยู่ในมือของเขาหรือ?
ตามวิชาชั่วร้ายที่ไป๋หลี่หมิงเยียนฝึกฝน หากว่าความทรงจำถูกเขาดูดไป แม้ว่านางจะไม่ตายก็กลายเป็นคนพิการได้
แต่นาง......
ไร้ซึ่งกำลังที่จะต่อต้านเสียแล้ว
เมื่อเห็นว่าไป๋หลี่หมิงเยียนเริ่มร่ายคาถากู้ชูหน่วนก็เป็นกังวลและทำสิ่งใดไม่ถูก จึงทำได้เพียงภาวนาให้เกิดปาฏิหาริย์ขึ้น
"อืม......"
ทันใดนั้นกู้ชูหน่วนก็บังเกิดเสียงคร่ำครวญอย่างเจ็บปวดออกมา
ราวกับทั้งร่างกายของนางถูกฟ้าผ่าเจ็บปวดเสียจนตัวนางสั่นสะท้านไม่หยุด และก็บังเกิดเสียงโหวงๆๆดังขึ้นที่ข้างหูซึ่งไม่สามารถได้ยินสิ่งที่ผู้คนรอบตัวกล่าว เห็นเพียงซือม่อเฟยก่นด่าบางสิ่งอย่างโกรธเคือง
เลือดได้ไหลออกลงมาตามข้างหูของนาง ศีรษะของกู้ชูหน่วนเจ็บปวดทรมานราวกับเริ่มฉีกขาดเช่นนั้น
พลังอันทรงพลานุภาพราวกับจะผ่าศีรษะของนางออกเป็นสองส่วนและนำสิ่งของในสมองออกไป
นางขัดขืนสุดกำลังและต่อต้านสุดชีวิต
อย่างไรก็ตามยิ่งนางต่อต้านมากเท่าไหร่พลังนั้นก็ยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้นเท่านั้น ในสมองของนางก็ยิ่งเจ็บปวดมากขึ้นเท่านั้น
หลังจากลากไปดึงมาโดยไม่รู้ว่านานเพียงใดกู้ชูหน่วนก็กระอักเลือดออกมา ความแข็งแกร่งในตัวก็ค่อยๆเลือนหายไป แม้แต่การหายใจของนางก็ค่อยๆอ่อนแรงลง
นางสามารถรู้สึกได้ว่าความตายกำลังไล่ตามนางอยู่
และในช่วงเวลาที่นางเจ็บปวดรวดร้าวจนศีรษะจะแยกออก ทันใดนั้นได้มีแสงสีขาวแว๊บผ่านและพื้นดินก็สั่นไหวไม่หยุด
ค่ายกลที่ขังนางไว้ทลายลง
เรี่ยวแรงที่ต้องการแยกศีรษะของนางออกก็มลายหายไปด้วย กู้ชูหน่วนถึงได้รู้สึกผ่อนคลายขึ้นเล็กน้อย
มือทั้งสองของนางใช้แรงยันพื้นพร้อมกับเงยหน้าขึ้นด้วยความงุนงง และเห็นเพียงร่างสีขาวราวกับหิมะประกายเส้นหนึ่งในอากาศต่อสู้อยู่กับไป๋หลี่หมิงเยียน
ร่างสีขาวราวกับหิมะนั้นสง่างามนัก ทุกท่าทุกความเคลื่อนไหวล้วนเป็นธรรมชาติ แม้ว่าจะต่อสู้กันอย่างดุเดือดก็ยังคงเผยให้เห็นถึงความสูงส่งและสง่างามที่ไม่สามารถเอ่ยออกมาได้ซึ่งก็มิใช่เหวินเส่าอี๋หรอกหรือ
เหวินเส่าอี๋......
เขาเป็นผู้ที่ช่วยนางไว้......
ไม่ เขาเพียงแค่ต้องการดวงวิญญาณนั้น
ดวงวิญญาณนั้นที่ผู้ใดก็ต้องการ
“พี่หญิง......ท่านเป็นอย่างไรบ้าง?”
ข้างหูของนางยังคงส่งเสียงดังโหวงๆๆ และไม่ได้ยินสิ่งใดเลย
แต่จากรูปร่างปากของซือม่อเฟย นางสามารถคาดเดาได้ว่าเขากล่าวสิ่งใดอยู่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์
ไม่อัพจบเหรอคะ...
เป็นนางเอกที่นิสัยแย่ที่สุดตั้งแต่เคยอ่านมา...
คือตัวเองไม่มีเงิน แต่คิดจะเอาทุกอย่างด้วยราคาสูงเสียดฟ้า แล้วก็หาคำพูดให้คนอื่นจ่ายแทน ตัวเองหาประโยชน์จากคนใกล้ตัวแต่กลับเอาใจให้คนอื่นตลอดเนี่ยนะ...
แม่นางกู้เกินเยียวยาแล้วเด้อ 555...
เยี่ยเฟิงเป็นคนดีมาก แต่เขาทนงตัวเกินไป ชีวิตที่ผู้อื่นฝ่าฟันเพื่อแย่งชิงลมหายใจเขาไว้ แต่เขาก็ดิ้นรนกลับไปหาความตายอยู่เรื่อย...
ท่านอาจารย์พูดให้คิดดีมากเลย แต่อาหน่วนจะเข้าใจไหม นางดูมั่นหน้า มั่นใจเกิตเหตุแบบไม่สนสี่สนแปดใดใดเลย...
อยากให้กลับมาอัพเดทไวๆนะคะ ขอบคุณมากค่ะ...
สรุปเรื่องนี้มีตอนจบมั้ยค่ะ...
รอตอนจบอยู่นะคะ ใจบางไม่ไหวแล้วทรมาน...
รออัพเดทอยู่นะคะ...