บทที่ 1033 ผ่าท้องเอาเครื่องใน – ตอนที่ต้องอ่านของ มังกรผู้ทรงพลัง
ตอนนี้ของ มังกรผู้ทรงพลัง โดย จาง หลงหู ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายนิยายโรแมนติกในเมืองทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 1033 ผ่าท้องเอาเครื่องใน จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
"ได้ผล!"
ฉีเติ่งเสียนหันมาพูดกับอวี้เสี่ยวหลง "น้ำมนต์นี่ประสิทธิภาพดีจริงๆ มิน่าล่ะ พระสันตะปาปาถึงมองว่าเป้นสมบัติล้ำค่า แม้แต่หัวหน้ากลุ่มอัศวินศักดิ์สิทธิ์ยังไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้ได้ง่ายๆ"
อวี้เสี่ยวหลงถาม "ขอหลอดทดลองหน่อยได้ไหม ฉันจะเอาไปให้สถาบันวิจัยทางทหารวิจัย ถ้าสามารถค้นคว้าอะไรบางอย่างได้ บางทีอาจจะมีเงินรางวัล แล้วทั้งหมดก็จะเป็นของนาย!"
ฉีเติ่งเสียนไม่ใช่คนขี้งก เขาจึงส่งให้อวี้เสี่ยวหลง ก่อนจะพูด "ผมคิดว่าไม่น่ามีการวิจัยไหนสามารถทำวิจัยเรื่องเกี่ยวกับศาสนาได้หรอก"
อวี้เสี่ยวหลงรับหลอดแก้วมาถือไว้ ก่อนจะพูดเสียงเรียบ "ลองดูก่อนดีกว่า ต่อให้วิจัยอะไรออกมาไม่ได้มาก แต่ก็คงมีประโยชน์ในการพัฒนาอะไรได้บ้าง"
อวี้เสี่ยวหลงถือหลอดแก้วที่ใส่น้ำมนต์ไว้เดินออกไป ฉีเติ่งสียนรู้สึกได้ว่าเธอไม่ได้ล้อเล่นเลยสักนิด
ถ้าสามารถวิจัยน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์นี่ได้ น้ำคงท่วมโลกไปแล้ว
น้ำมนต์ที่ผลิตออกภายในหนึ่งปีมีจำนวนจำกัด เกรงว่าจะเป็นผลมาจากการผลิตวัตถุศาสนาอย่างอื่นด้วย
ฉีเติ่งเสียนรู้สึกดีขึ้นหลังจากที่ใช้น้ำมนต์ ร่างกายของเขามีขีดจำกัด ความแข็งแกร่งโดยรวมสามารถอัพเลเวลได้เพียงหนึ่งในสิบเท่านั้น อาจเป็นเพราะเขาแข็งแกร่งมากเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
"สภาพร่างกายและจิตใจที่เซียงซานวันนั้น ไม่สามารถรักษาไว้ได้ถาวร! แต่หลังจากใช้น้ำมนต์แล้ว กลับให้ความรู้สึกเหมือนวันนั้นอีกครั้ง"
"ต้องปรึกษากับพระสันตะปาปาสักหน่อยแล้ว ว่าขายสิ่งนี้ให้ฉันได้ไหม ซื้อแล้วก็พกติดตัวไว้นิดหน่อย......"
"ถ้าเจอผู้มีฝีมือสูงส่ง ก็จะได้เพิ่มบัฟให้ตัวเองอย่างกะทันหันได้!"
ฉีเติ่งเสียนวางแผนในใจ แต่เขากลับรู้สึกว่าแผนการณ์นี้น่าจะไม่ได้ผล
ของสิ่งนี้ มีเงินก็ยังเหมือนจะซื้อไม่ได้
เขาได้แต่หวังว่าน้ำมนต์ที่อวี้เสี่ยวหลงส่งไปวิจัยจะได้ข้อมูลอะไรกลับมาบ้าง มิฉะนั้น ก็เท่ากับเงินที่เขาเสียไปนั้นล้วนสูญเปล่า!
ตกดึก หลังจากที่ฉีเติ่งเสียนเข้ามาในห้องของหยางกวนกวนแล้ว ความตั้งใจของเขาก็เหมือนจะเพิ่มมากขึ้น ของดีแบบนี้ จะต้องขอพระสันตะปาปาเยอะหน่อยแล้ว
บัฟนี้ฟังดูเกินจริง แต่มันได้ผลแบบทวีคูณ!
"วัวเหล็กไถนา" บวกกับน้ำมนต์ที่ช่วยที่ทำให้เกิด "ความอึด ถึก นาน" ทำให้เลขาหยางแทบจะร้องขอชีวิต
วันต่อมา ฉีเติ่งเสียนก็ให้ผู้คุมเรือนจำโยวตูมารับผีพยาบาทและปีศาจราตรีกลับไป
ทั้งสองคนหลังจากได้ยินฉีเติ่งเสียนคุยโทรศัพท์แล้วก็รู้สึกไม่พอใจ รองหัวหน้าใหญ่ ช่างถนัดการข้ามแม่น้ำรื้อสะพาน เสร็จงานฆ่าโคถึกเสียจริง!
พวกเขาอยู่ในเซียงซานฟรีๆมานานแล้ว ตอนนี้คนกลับมาแล้ว ก็ถึงเวลาที่จะต้องถีบหัวส่ง
แน่นอนว่าฉีเติ่งเสียนต้องส่งพวกเขากลับ ถ้าสองคนนี้ยังอยู่ที่นี่ เขาก็คงไม่ได้มานอนกกอยู่บนเตียงกับเลขาหยางแบบนี้หรอก เพราะมักจะต้องรักษาภาพลักษณ์ต่อหน้าสองคนนี้อยู่ตลอดเวลา
"ตอนนี้หินแร่ที่อวี้สือกั๋วราคาเพิ่มสูงอย่างบ้าคลั่ง เพิ่มขึ้นเป็นหกเท่า!" หยางกวนกวนในมือถือไอแพด พลางอ่านสถานการณ์ราคาหินแร่ให้ฉีเติ่งเสียนฟัง
"เพราะฉะนั้น ก็ส่งผลให้ราคาหยกเพิ่มขึ้นด้วย รวมถึงหยกในเซียงซานก็มีราคาแพงขึ้นด้วย"
"ตระกูลเหอลงทุนไปแล้วสี่พันล้าน"
แน่นอนว่าหยางกวนกวนรู้ดี ว่าฉีเติ่งเสียนใช้กลุ่มนายทุนบอสตันสร้างสถานการณ์ทั้งหมด ให้ตระกูลเหอก้าวเข้ามาทำตามความฝันที่จะสร้างช่องทางรวยในประเทศมี่ ไหนจะคนฆ่าสัตว์ที่รบอย่างบ้าคลั่งอยู่ที่ตู๋ซานเจี่ยวทั้งวันทั้งคืนอีก เรื่องพวกนี้ไม่ใช่แค่ทำให้ราคาหยกพุ่งสูง แม้แต่ของเถื่อนเองก็ราคาพุ่งสูงด้วยเหมือนกัน
"อืม......ใกล้แล้วล่ะ รอเวลาอีกสักพัก ให้ตระกูลเหอลงทุนมากกว่านี้อีกหน่อย เฉินกรุ๊ปจิวเวลรี่ลดราคาลง ให้ทุกฝ่ายร่วมมือกัน สินค้าของประเทศมี่ก็จะขายไม่ได้ แล้วก็จะล้มละลายในไม่ช้า" ฉีเติ่งเสียนพูด
สถานการณ์นี้สามารถดำเนินไปได้เพราะความสามารถของคนฆ่าสัตว์ เขานำกองทัพตลอดทั้งวันเพื่อสู้กับกองทัพต่างๆ แถมเขายังวางระเบิดถล่มเหมืองไปอีกหลายแห่งด้วย
ตอนนี้สถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศแถบนี้ล้วนได้รับผลกระทบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาล นักธุรกิจ หรือว่าทหารประจำการท้องถิ่น ล้วนต้องการฉีกทึ้งเนื้อของไอ้อ้วนนี้แล้วกลืนลงท้องกันทั้งสิ้น
หยางกวนกวนได้ยินแล้วก็หัวเราะ "ดูๆแล้ว จุดเด่นของคนจากเรือนจำโยวตูคือรับเงินแต่ไม่ทำงานให้สินะ แถมยังชอบหักหลังคนให้เงินด้วย!"
"ใช่ที่ไหนล่ะ? ผมช่วยคุณมาตั้งเยอะ ไม่ได้เอาอะไรจากคุณเลยสักนิดเดียว!" ฉีเติ่งเสียนพูด
"แน่ใจเหรอว่าไม่ได้เอา?" หยางกวนกวนยิ้มเย็น
"งั้นผมเอาอะไร?" ฉีเติ่งเสียนถาม
"ร่างกายฉันไง!" หยางกวนกวนพูดอย่างดูถูก
ฉีเติ่งเสียนอดไม่ได้ที่จะรู้สึกประหลาดใจหลังจากได้ยินหยางกวนกวนพูด ฝีมือการต่อสู้ของเธอดีขึ้นเรื่อยๆ แต่นิสัยก็เหมือนผู้ชายมากขึ้นเรื่อยๆด้วย นี่ไม่ใช่เรื่องดีอะไรนัก
ฉีเติ่งเสียนกลับไปเอาชุดนักบวชสีแดงที่ห้อง เตรียมจะออกไปข้างนอก
"นายจะไปไหน?" หยางกวนกวนถามอย่างสงสัย
"คุณคิดว่าตำแหน่งพระอัครสังฆราชเป็นกันง่ายๆหรือไง? มีเรื่องต้องทำเหมือนกันนะ!"
"ในเซียงซานมีคนนับถือศาสนานี้เยอะ ก็เลยมีคนเชิญผมไปเทศน์ที่โบสถ์! แถมยังต้องเป็นผู้ไถ่บาปให้ผู้ศรัทธาที่มาโบสถ์ด้วย"
ฉีเติ่งเสียนถอนหายใจ พลางตอบอย่างจนใจ
หยางกวนกวนสีหน้าแปลกประหลาด "ให้นายไปเทศน์? จะได้ไปสาปคนอื่นมากกว่าล่ะสิ?!"
ฉีเติ่งเสียนสีหน้ามืดครึ้ม "ผมศึกษามาดีน่า! ถึงวันประชุมศาสนาของหัวกั๋วเมื่อไหร่ ผมก็จะเข้าร่วมในนามของพระผู้เป็นเจ้าด้วย"
หลังพูดจบก็ไม่อยู่เถียงกับหยางกวนกวนอีก ขับรถไปที่โบสถ์ใหญ่ของเซียงซานทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...