มังกรผู้ทรงพลัง นิยาย บท 1039

สรุปบท บทที่ 1039 สถานการ์ง่อนแง่นของตระกูลเหลย: มังกรผู้ทรงพลัง

สรุปตอน บทที่ 1039 สถานการ์ง่อนแง่นของตระกูลเหลย – จากเรื่อง มังกรผู้ทรงพลัง โดย จาง หลงหู

ตอน บทที่ 1039 สถานการ์ง่อนแง่นของตระกูลเหลย ของนิยายนิยายโรแมนติกในเมืองเรื่องดัง มังกรผู้ทรงพลัง โดยนักเขียน จาง หลงหู เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

อย่างที่ทุกคนรู้ โรงพยาบาลที่ชื่อว่าอ้ายคังนี้ได้ล่มจมไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ไม่ว่าจะทำอย่างไรก็กลับมาไม่ได้อีก

เหลยเจินหลินจะจัดการเรื่องนี้อย่างยุติธรรม ดังนั้น เจ้าหน้าที่จะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่

นอกจากนั้น อ้ายคังแต่เดิมก็ได้ทำร้ายคนไข้มามาก คนไข้เหล่านั้นได้แรงสนับสนุนจากเหลยเจินหลิน แน่นอนว่าจะต้องร่วมใจกันยืนออกมาแน่นอน

เมื่อถึงเวลานั้น แม้ว่าอ้ายคังจะมีความสัมพันธ์ไปถึงบนฟ้า ก็ห้ามอะไรไม่ได้ ทำได้เพียงปิดกิจการลงเท่านั้น

ใบหน้าโซ่งเหมวขาวซีดจนน่าตกใจ เธอรู้ว่า ชื่อเสียงของเธอจะต้องถูกทําลายอย่างสมบูรณ์เพราะเรื่องนี้แน่นอน

ยิ่งไปกว่านั้น หลังจากที่ประจบไปที่เหลยเจินหลินแล้ว เธอก็เอาใหญ่ แม้กระทั่งคนรวยและเหลียนเซิ่งก็ไม่ได้ไว้อยู่ในสายตา

หากไม่ได้มีที่หลบภัยของเหลยเจินหลินล่ะก็ เธอก็จะถูกคนฆ่าตายและจับไปเลี้ยงฉลามได้ทุกวินาที!

เมื่อได้คิดไปมา เธอเริ่มมีความคิดที่จะออกจากเซียงซานแล้ว ยังไงชีวิตนี้ก็หาเงินจนพอใช้แล้ว

ฉีเติ่งเสียนได้ตามเหลยเจินหลินและผู้จัดการเหลยไปที่ตระกูลเหลยเพื่อเป็นแขกรับเชิญ หลังจากที่เหลยเทียนซื่อเห็นเข้ากับฉีเติ่งเสียน ก็ดีใจเป็นอย่างมาก

“คนมีความสามารถจะเปิดเผยตัวตนไม่ง่ายเลยจริงๆ!” เหลยเทียนซื่อหัวเราะให้กับฉีเติ่งเสียน

“ตอนนั้นถูกสถานการณ์บังคับ จึงจำเป็นที่จะต้องปลอมตัวอย่างช่วยไม่ได้ หวังว่าผู้อาวุโสเหลยจะไม่ถือโทษ” ฉีเติ่งเสียนกล่าวขอโทษกับเหลยเทียนซื่อ

“ไม่เป็นไร ผมเคารพ การกระทำทุกอย่างของนาย ” เหลยเทียนซื่อกล่าว

แม้ว่าตระกูลเหลยจะไม่ค่อยได้ออกไปด้านนอก แต่สายข่าวของพวกเขากลับรวดเร็วเสมอ รู้หมดว่าฉีเติ่งเสียนทำอะไรมาบ้าง และเพราะเหตุใดถึงได้ทำลงไปแบบนั้น

“ผมได้ข่าวมาว่า เหมือนจะมีบางคนไม่พอใจตำแหน่งสูงสุดของตระกูลเหลยที่เซียงซาน?” ฉีเติ่งเสียนถาม

“เมื่อไม่กี่ปีก่อน ผมได้พูดบางอย่างที่ไม่พึงประสงค์ คาดว่าคนพวกนั้นน่าจะจดขึ้นบัญชีแค้นเรียบร้อย ผมก็รู้ว่าตระกูลเหลยสถานการณ์เป็ยยังไง ลูกชายทั้งสองก็ป่วยเรื้อรัง อีกทั้งตำแหน่งตระกูลเหลยที่อยู่ในเซียงซานก็พิเศษ ดังนั้น กี่ปีมานี้ จึงทำตัวให้ไม่โดดเด่น เรียกได้ว่าแทบจะไม่เข้าร่วมเรื่องหรือการต่อสู้ใดๆเลยก็ว่าได้”

ฉีเติ่งเสียนอดไม่ได้ที่จะเงียบไปครู่หนึ่งและพูดว่า“ในสายตาของคนทะเยอทะยานบางคน หากไม่สมรู้ร่วมคิดกับเขา จะถือเป็นการไร้เหตุผล”

เหลยเทียนซื่อกล่าว“ผมเหลยเทียนซื่อ ภักดีต่อประเทศมาตลอดชีวิต แต่ก่อนฝ่าความกดดันของคนตะวันตกส่งยาช่วยชีวิตให้กับคนภายในประเทศเป็นจำนวนมาก ก็ไม่ได้ร้องขอผมตอบแทนใดๆ......แต่ว่า มีบางคนที่จะถือโอกาสที่ผมแก่ตัวลง ทำให้ตระกูลเหลยเป็นหุ่นเชิดให้กับพวกเขา หรือไม่ก็หาวิธีกำจัดกระดูกสันหลังของพวกเราตระกูลเหลย นี่เป็นเรื่องที่ผมไม่สามารถทนได้!”

“ผมเหลยเทียนซื่อ ใช้ชีวิตด้วยความเที่ยงตรง ไม่มีทางที่จะทำเรื่องชั่วๆเด็ดขาด”

“พวกเขาจะมาก็ให้มันมา ผมไม่เคยทำเรื่องใดให้ละอายใจ!”

เหลยเทียนซื่อเป็นคนที่จิตใจอันทรนงองอาจ ใจรักชาติ รักในความชอบธรรม อาจเป็นเพราะนิสัยของเขา จึงทำให้ตระกูลเหลยครองตำแหน่งสูงสุดในเซียงซาน

และอาจจะเป็นเพราะนิสัยแบบนี้ของเขา จึงทำให้คนอื่นหมั่นไส้ ถึงขนาดที่เชิญยอดฝีมือมาออกแบบ“ทะเลขุนเขาฝังศพมังกร”ซึ่งเป็นแบบของฮวงจุ้ย เพื่อที่จะให้ตระกูลเหลยถูกทําลายอย่างเงียบๆ

อย่างไรก็ตาม สวีเอ้าเสวี่ยได้เชิญอู๋กั๋วฮั่วมาดูฮวงจุ้ย และบอกแนวทางแก้ไขเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

อู๋กั๋วฮั่วมีชื่อเสียงอย่างมากในโลกของฮวงจุ้ย หลังจากที่กลับไปยังเมืองหลวงแล้ว ก็ได้มีการสนทนาแลกเปลี่ยนวิชากับผู้อื่น จึงเป็นไปได้ยากที่จะไม่พูดถึง“ทะเลขุนเขาฝังศพมังกร”ของตระกูลเหลย

เมื่อข่าวนี้ได้แพร่ออกไป ราวกับต้องการให้ผู้ที่ต้องการกำจัดตระกูลเหลยเหล่านั้นนั่งไม่ติดพื้น

ฝ่ายฟู่เฟิงหยุนที่สู้กับตระกูลจ้าวตอนนี้ได้มาถึงช่วงที่ร้อนแรงที่สุด ไม่ว่าที่ใดเพียงแค่มีพลังในที่นั้น ก็เป็นไปได้ที่จะทำให้เกิดเรื่อง

การที่ตอนนี้หลงเหมินคึกคักเช่นนี้ ปัญหาขัดแย้งจากภายในที่รุนแรงเช่นนี้ มีส่วนเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ที่ซับซ้อน

“ผมออกจากเมืองหลวงไปสิบกว่าปีแล้ว มีหลายเรื่องที่ไม่รู้” ฉีเติ่งเสียนอดไม่ได้ที่จะยิ้ม พร้อมโบกมือไปมา

“ให้เธอเข้ามา” เหลยเทียนซื่อกล่าว

จ้าวหมิงลู่อายุไม่มาก ตอนนี้ก็อยู่ที่สามสิบ เขาเพิ่งเริ่มปรากฏตัวในตระกูลจ้าวที่มีความสามารถในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ฉีเติ่งเสียนไม่ได้ยินชื่อเขามาก่อน ก็ไม่แปลก

จ้าวหมิงลู่มีลูกมืออยู่สี่คน ล้วนแต่เป็นผู้หญิง ซึ่งลวี่ฉ่าย เป็นหนึ่งในนั้น

ลวี่ฉ่ายผู้นี้อายุราวยี่สิบห้ายี่สิบหก การแต่งกายก็ค่อนข้างละเอียด มองปราดเดียวก็รู้ว่าเติบโตในตระกูลใหญ่ นอกจากนั้น ยังให้บรรยากาศที่สูงส่ง ราวกับไม่ใช่สาวรับใช้ แต่เป็นคุณหนูผู้สูงส่งแทน

“สวัสดี ผู้อาวุโสเหลย” หลังจากที่ลวี่ฉ่ายเดินเข้ามา ก็ประสานมือโค้งคำนับเหลยเทียนซื่อหนึ่งที“คุณชายหมิงลู่ให้ฉันมา เพื่อที่จะถามผู้อาวุโสว่าตัดสินใจได้หรือยัง?”

เหลยเทียนซื่อขำ“จ้าวหมิงลู่ต้องการสัดส่วนการถือหุ้นเรือตระกูลเหลยสามสิบเปอร์เซนต์ ทำไมถึงไม่มาด้วยตัวเองล่ะ?”

“สุภาพบุรุษไม่ยืนใต้กําแพงที่อันตราย ผู้สูงส่งย่อมไม่นั่งใต้ชายคา คนของตระกูลเซี่ย ไม่รู้กฎเกณฑ์เรื่องนี้ เลยประสบความสูญเสียครั้งใหญ่” ลวี่ฉ่ายพูด

ฉีเติ่งเสียนก็อยู่ที่เซียงซาน บุคคลสําคัญของตระกูลจ้าวปรากฏตัวที่นี่ก็คงจะบ้าไปแล้ว!

คำพูดของลวี่ฉ่าย มีเหตุมีผล ราวกับกำลังบอกว่าตอนนั้นที่ฉีปู้อวี่ตบนายน้อยของตระกูลเซี่ยให้ตายที่ประตูรัฐสภาด้วยหนึ่งฝ่ามือ และก็เหมือนจะพูดว่าเซี่ยเทียนเฉียวที่ถูกคนฆ่าสัตว์ควบคุมตัวที่ตู๋ซานเจี่ยว

เหลยเทียนซื่อพูดเสียงเรียบ“เขาอยากได้ ก็ให้มาคุยด้วยตัวเอง ให้สาวรับใช้มา มันหมายความว่ายังไง?กำลังดูถูกเหลยเทียนซื่อฉันอย่างนั้นหรอ?”

ลวี่ฉ่ายกลับส่ายหน้าไปมา“ผู้อาวุโสเหลย ฉันและคนอื่นอีกสามคน ไม่ว่าไปที่ไหน ก็สามารถที่จะแทนคุณชายหมิงลู่ได้ทั้งนั้น!การที่คุณพูดแบบนี้ กำลังดูถูกฉันอยู่ หรือไม่ได้เห็นคุณชายหมิงลู่อยู่ในสายตากันแน่?”

เมื่อเหลยเทียนซื่อได้ฟัง แววตาจึงปรากฏความเยือกเย็นวาบผ่านอย่างอดไม่ได้ จากนั้นจึงกล่าวด้วยเสียงเย็นชา“ตอนนั้นฉันสู้กับผีที่ตะวันไม่ตกดิน สู้กับการเมืองประเทศมี่ สู้กับคนของประเทศเจี๋ยเผิง ไม่เคยที่จะเกรงกลัว!คนรุ่นหลังอย่างจ้าวหมิงลู่ นับเป็นอะไร กล้าที่จะมาข่มขู่ฉัน?!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง