มังกรผู้ทรงพลัง นิยาย บท 1052

ฉีเติ่งเสียนผู้ครอบครอง Patek Philippe มูลค่ากว่ายี่สิบล้าน ไม่คาดคิดว่าเหตุการณ์ในวันนี้จะทำให้เขาต้องสูญเสีย

แม้ว่าเขาอยากจะเก็บไอ้หนุ่มหน้าขาวคนสุดท้ายไว้เพื่อดูว่าเขาจะขุดเหรียญทองออกมาได้อีกหรือเปล่า แต่ร็อบเบนก็ซื่อสัตย์และเคร่งศาสนาเกินไป จนทำให้ถูกฆ่าด้วยดาบเพียงเล่มเดียว

ความเร็วในการโจมตีของร็อบเบนตอนนี้เร็วมาก ดาบของเขาก็คมจนน่ากลัว

เขาหยิบดาบกางเขนขึ้นมาและตรวจสอบดู แต่ก็ยังไม่อาจสรุป เขาถือว่ามันเป็นความเชื่ออันอัศจรรย์ของศาสนาศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น

“ลัทธิของแดร๊กคูล่าเป็นนิกายประเภทไหน ทำไมถึงมุ่งเป้าไปที่ลัทธิศักดิ์สิทธิ์?” ฉีเติ่งเสียนถามอ

“นี่เป็นลัทธิที่มีมาหลายปีแล้ว แดร๊กคูล่าเป็นบรรพบุรุษของแวมไพร์ในตำนาน คนพวกนี้เชื่อในวิถีทางความเชื่อของพวกเขาและชอบกินเลือดมนุษย์เป็นหลัก”

“ตำนานแวมไพร์ยุคกลางในยุโรป จำนวนมากถูกสร้างขึ้นจากนิกายนี้”

“ถึงอย่างนั้น พลังของพวกเขามาจากความชั่วร้าย และพลังของศาสนาศักดิ์สิทธิ์ของเราก็สามารถยับยั้งพวกเขาได้”

ร็อบเบนพูดเบา ๆ ก่อนจะโบกมือ ก็มีคนแต่งตัวเป็นนักบวชก็โผล่ออกมาจากความมืดและเริ่มเก็บศพ

ฉีเติ่งเสียนตกตะลึงในขระที่มอง ก็รู้สึกว่าคนทางศาสนาดูเข้าใจยากจริงๆ!

ร็อบเบนพูดว่า: “คนพวกนี้ล้วนมาจากสำนักขับไล่วิญญาณ”

ฉีเติ่งเสียนถาม: “หน้าที่หลักของสำนักขับไล่วิญญาณคือการขับไล่ภูตผีปีศาจเหรอ? นี่เป็นองค์กรที่สมเด็จพระสันตะปาปาก่อตั้งสำนักเองหรือเปล่า?”

ร็อบเบนพยักหน้าเล็กน้อยและขมวดคิ้ว: “ในโลกนี้มีพวกคนนอกรีตมากมาย โดยปกติแล้วจะมีวิญญาณชั่วร้ายมากมาย ภารกิจของสำนักขับไล่วิญญาณคือการค้นหาและกำจัดพวกมันให้สิ้นซาก”

ฉีเติ่งเสียนพูด: “แต่พวกเขาดูเหมือนจะไม่มีความสามารถในการต่อสู้ ดูพวกเขาอ่อนแอมาก”

ร็อบเบนกล่าวว่า: “พวกหมอผีของสำนักขับไล่วิญาณพึ่งพาคาถา เครื่องลางของศักดิ์สิทธิ์เป็นหลัก งานกำจัดคนนอกรีตนั้นคืองานของพาลาดิน”

เป็นร็อบเบนหัวหน้าสำนักที่ลงมือ มันเป็นเรื่องยากสำหรับฉีเติ่งเสียน ที่จะรู้สึกถึงเลือดหรือกลิ่นอายของการฆาตกรรมในตัวเขา

นี่ต้องเป็นเพราะพลังของตระกูลศักดิ์สิทธิ์หรือศรัทธาอะไรบางอย่าง หลายสิ่งหลายอย่างในลัทธิศักดิ์สิทธิ์ไม่เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์

คทาของพระอัครสังฆราช สามารถยับยั้งคนนอกรีตพวกนั้นได้ ซึ่งเห็นได้ชัดว่าไม่เป็นไปตามหลักวิทยาศาสตร์

ตัวอย่าง ในบรรดานิกายลัทธิเต๋าในประเทศหัวกั๋ว ยังมีนักบวชลัทธิเต๋าที่เชี่ยวชาญเรื่องเหตุการณ์เหนือธรรมชาติ แม้แต่การปฏิบัติของพวกเขาก็ด้วย

“ครั้งนี้ฉันอยู่ที่เซียงซานเพราะฉันได้เรียนรู้เกี่ยวกับลัทธิของแดร็กคูล่า ดังนั้นฉันจึงต้องการปกป้องคุณอย่างลับๆ แต่ดูเหมือนว่าคุณมีจิตวิญญาณของอาจารย์แซมสันอยู่ในตัวคจริงๆ คุณกล้าหาญและเก่งในการต่อสู้ แม้ว่าฉันจะไม่ปรากฏตัวในวันนี้ แต่พวกคุณ ก็สามารถจัดการกับคนนอกรีตทั้งสี่นี้ได้อย่างง่ายดาย” ร็อบเบนเหลือบมองที่ฉีเติ่งเสียนแล้วพูดช้าๆ

หลังจากการต่อสู้ในวันนี้ร็อบเบนรับรู้ถึงความแข็งแกร่งของฉีเติ่งเสียนจากใจ

ฉีเติ่งเสียนพูดอย่างภาคภูมิใจ: “งั้นผู้พิพากษาแซมสันคือบุคคลอันดับหนึ่งในศาสนาศักดิ์สิทธิ์ที่สามารถพิชิตและต่อสู้ได้! หากมีวิญญาณจะถูกทุบตีจนตายด้วยคทาของฉัน”

“กัปตันเออร์วิน ยังมีน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์อยู่หรือเปล่า? ขอเพิ่มอีกหน่อยสิ”

“ฉันมีลางสังหรณ์ว่าเราจะต้องพบกับการโจมตีจากพวกคนนอกรีตมากกว่านี้เสียอีก.....”

ร็อบเบนพูดด้วยใบหน้าเข้ม: “ฉันชื่อร็อบเบน!”

“ตกลง หัวหน้าร็อบเบน” ฉีเติ่งเสียนพูด

เรียนรู้ศิลปะการต่อสู้และขายให้กับราชวงศ์ของจักรพรรดิ

แม้ว่าสมเด็จพระสันตะปาปาจะไม่ใช่จักรพรรดิของหัวกั๋ว แต่เขาเป็นจักรพรรดิ ถูกต้องแล้วที่จะขายให้กับราชวงศ์จักรพรรดิ!

“อัครสังฆราชอวาดา ภารกิจของคุณนั้นยังอีกยาวและยากลำบาก! คนนอกรีตพวกนั้นจะไม่แค่จับตามอง จะไม่แค่นั่งดูคุณสร้างโบสถ์ที่โอ่อ้าในหนานหยางแน่” ร็อบเบนตบไหล่ฉีเติ่งเสียนแล้วพูด

“ไม่เป็นไร แค่มาที่นี่...บางทีคุณอาจจะประหยัดแรงก็ได้” ฉีเติ่งเสียนพูดอย่างไม่ใส่ใจ “รีบกระจายข่าวไปยังโลกใต้ดินของยูโรปา ให้คนนอกรีตทั้งหมดมาฆ่าฉัน! ฉันต้องการแก้ปัญหาให้กับสมเด็จพระสันตะปาปาผู้ยิ่งใหญ่ ลดถอนแรงกดดันต่อศาสนาอันศักดิ์สิทธิ์”

ร็อบเบนสะดุ้ง จากนั้นใช้มือขวาแตะหัวใจ โค้งคำนับฉีเติ่งเสียนอย่างเคารพด้วยมารยาทดั่งอัศวิน และกล่าวว่า: “ท่านอัครสังฆราชอวาดา ก่อนหน้านี้ทั้งหมดเป็นความผิดของฉัน และฉันเข้าใจผิดว่าคุณเคารพต่อพระเจ้าผู้ศักดิ์สิทธิ์! ฉันอยากจะอยู่ที่นี่และขอโทษคุณจากจริงใจ”

“ไม่เป็นไร เราทุกคนเป็นสมาชิกของลัทธิศักดิ์สิทธิ์ และเราทุกคนต่างก็เป็นพี่น้องกัน!” ฉีเติ่งเสียนตบไหล่ร็อบเบนแล้วพูด

ร็อบเบนผู้ซื่อสัตย์คิดว่าฉีเติ่งเสียนเป็นคนศรัทธาที่ศรัทธาจากใจจริง ดังนั้นเขาจึงเกลียดคนนอกรีต ต้องการใช้ตัวเองเพื่อดึงดูดอำนาจและแบ่งปันความกังวลของพระสันตะปาปา.....

เขารู้ได้อย่างไรว่าผู้ชายคนนี้เงินขาด

ร็อบเบนพูดอย่างใจเย็นกับฉีเติ่งเสียน: “โปรดดูแลตัวเองด้วยอัครสังฆราช ถึงเวลาแล้วที่ฉันต้องกลับไปเทียนจู่กั๋ว ถ้าผู้นำไม่นั่งอยู่ที่สำนัก คนนอกรีต มีวิญญาณชั่วร้ายจำนวนมากอยากจะต้องการบุกรุก เพื่อทำร้าย พระสันตะปาปา”

ครั้งหนึ่งมีข่าวว่านักบวชในสำนักถูกวิญญาณชั่วร้ายเข้าสิง ต้องการลอบสังหารพระสันตะปาปา แต่ในที่สุดก็ถูกค้นพบและจับกุมโดยเหล่าอัศวิน

หลังจากปราบได้แล้ว ก็พบว่าเขาเป็นผู้ศรัทธาและไม่มีอาการป่วยทางจิต

ในที่สุด สมเด็จพระสันตะปาปาก็เข้ามาสวดภาวนาเพื่อบาทหลวง บาทหลวงกลับมาเป็นปกติและยังคงสามารถทำงานในสำนักต่อไปได้