ฉีเติ่งเสียนไม่เคยเข้าใจสำนวนโบราณที่ว่า "คำพูดล้อลมของหงส์ ดุจกระโปรงแต้มด้วยสีแดงทับทิม"
จนกระทั่งได้เห็นกระโปรงสีเขียวของคุณนายซุนที่ถูกย้อมด้วยดอกเหมยแดงสองสามจุด เขาจึงเข้าใจว่าที่จริงแล้วคนในสมัยโบราณก็ลามกสุดยอดไม่แพ้กัน ช่างรู้จักใช้คำเสียจริง!
คุณนายซุนได้สัมผัสกับพละกำลังของคนที่ไม่เคยตกปลา ไม่ท่องหนังสือ ไม่หยิบจับอะไรอย่างฉีเติ่งเสียนแล้ว รู้ดีเลยว่าร่างกายนี้แข็งแรงแค่ไหน
คุณนายซุนคิดว่า ชายหนุ่มที่มีร่างกายแข็งแรงแบบนี้ แต่ในหัวกลับมีแต่ขาอ่อนคนอื่น จะมีเวลาไปทำอย่างอื่นได้ยังไง
"ที่จริงแล้วฉันก็ยังคงอยากได้ร่างกายของเธออยู่ดี" ฉีเติ่งเสียนกลับใจในบาปและความหน้าซื่อใจคดของตัวเอง ในฐานะที่เป็นถึงผู้นำของศาสนาศักดิ์สิทธิ์ เขาไม่ควรทำตัวหน้าซื่อใจคด และควรเผชิญหน้ากับหัวใจของตัวเองด้วย
หลังเสร็จกิจ แววตาของซุนอิ่งซุก็ฉายแววอ่อนโยน ซ้ำยังชุ่มชื้นไปด้วยน้ำ รอยสีแดงจางบนผิวทำให้เธอดูอ่อนกว่าเยาว์ลงหลายปี
"ขอบคุณเหล่าชุยที่ป่วยหนัก! ชาติหน้าขอให้อายุยืนหมื่นปี!" ฉีเติ่งเสียนตะโกนสรรเสริญในใจ
ถ้าซุนอิ่งซูรู้ว่าในใจของเขาลามกแค่ไหน คาดว่าคงตีเขาตายแน่
"ตอนนี้นายไม่จำเป็นต้องดิ้นรนต่อสู้อะไรแล้ว มาโคกูรยอสิ ให้ฉันเลี้ยงดูนายเป็นไง?" ซุนอิ่งซูเอามือเท้าคาง นั่งพิงอย่างสง่างาม ก่อนจะถามพลางยิ้ม
"ก็แค่พูดเล่นๆ จะนับเป็นเอาจริงเอาจังได้ยังไง? เห็นผมเป็นพวกทะเยอทะยานเกินตัวพวกนั้นเหรอ?" ฉีเติ่งเสียนพูดอย่างแง่งอน
ซุนอิ่งซูหัวเราะ แน่นอนว่าเธอไม่เก็บคำพูดของฉีเติ่งเสียนมาเอาจริงเอาจัง อีกอย่าง เธอรู้ดีว่าไม่มีทางเป็นไปได้เลยที่เธอและฉีเติ่งเสียนจะไปถึงขั้นได้แต่งงานมีลูก ใช้ชีวิตฉันสามีภรรยาร่วมกัน
แต่ถ้าจะให้พูด สำหรับเธอแล้ว นอกจากฉีเติ่งเสียนก็ไม่มีตัวเลือกอื่นที่ดีกว่านี้แล้ว
ฉีเติ่งเสียนเองก็รู้ดี ว่าถ้าเกิดอะไรขึ้นกับผู้บริหารสาวสวยจากซ่างซิงจะไม่ได้ส่งผลเสียอะไรให้เขาเลยสักนิด ดังนั้นเขาจึงเป็นฝ่ายรุกก่อน
"พวกผู้ชายน่ะไว้ใจไม่ได้ ก่อนได้กินก็อย่างหนึ่ง หลังได้กินแล้วก็อีกอย่างหนึ่ง" ซุนอิ่งซูพูด
"คุณนาย พูดดีๆหน่อย ผมไม่ใช่ผู้ชายแบบนั้นซะหน่อย ผมน่ะเป็นนักรักอันดับหนึ่งของจงไห่!" ฉีเติ่งเสียนพูด
ซุนอิ่งซูได้ยินแล้วก็โมโหจนหัวเราะออกมา ก่อนจะคว้าหมอนทุบเขาพลางด่า "เมื่อก่อนเรียกพี่อิ่งซู เดี๋ยวนี้เรียกคุณนายซุน"
"ไม่เกี่ยวกันซักน่อย ผมแค่รู้สึกว่าถ้าเรียกแบบนี้อาจทำให้คุณมีความรู้สึกมากขึ้นแค่นั้นเอง......" ฉีเติ่งเสียนพูดอย่างจริงจัง
"???"
ซุนอิ่งซูสีหน้ามึนงง อะไรที่เรียกว่ามีความรู้สึก
"ข้าใช้ชีวิตเยี่ยงโจโฉมาตลอด เหตุใดต้องอธิบายให้เจ้าฟังด้วย!" ฉีเติ่งเสียนแสร้งพูดด้วยท่าทางอวดดี
ซุนอิ่งซูรู้สึกว่าไอ้หมอนี่จะเริ่มกลับมาติ๊งต๊องอีกแล้ว เธอจึงหันหลังให้อย่างเกียจคร้าน รู้สึกไม่อยากเสวนาด้วย
ฉีเติ่งเสียนจึงถือโอกาสนี้กอดเธอจากด้านหลัง ท่อนแขนแข็งแรงของเขาโอบรอบเอวบางของเธอ "ลืมความแค้นเรื่องที่เมื่อก่อนผมเคยแบล็กเมล์คุณร้อยล้านเถอะนะ"
-""
"เมื่อกี้ผมก็ชดใช้ให้คุณหมดแล้ว เกรงว่าจะใช้เกินไปหลายร้อยเลยด้วยนะ......" ฉีเติ่งเสียนพูดเสียงเบา
"นายคิดจะอยู่ที่นี่กี่วัน?" ซุนอิ่งซูถามเสียงเรียบ เธอหลับตาลงพลางซุกตัวเข้าหาอ้อมอกของฉีเติ่งเสียน ซึ่งให้ความรู้สึกปลอดภัยอย่างที่ไม่เคยได้รับมาก่อน
"ดูก่อนแล้วกัน" ฉีเติ่งเสียนคิดครู่หนึ่งก่อนจะตอบ
เพิ่งพูดจบก็ได้ยินเสียงลมหายใจแผ่วเบา เอ๋ แป๊บเดียวก็หลับแล้ว? ดูๆแล้วคุณนายแห่งซ่างซิงคนนี้จะเห็นเขาเป็นพื้นที่ปลอดภัยเหมือนกันนะเนี่ย
แน่นอนว่าฉีเติ่งเสียนไม่สามารถสะบัดตูดจากไปอย่างกะทันหันได้ ควรจะต้องอยู่เป็นเพื่อนเธอต่ออีกสักหน่อย
การที่คุณนายคนสวยงดงามมากหรือไม่ หุ่นดีหรือไม่ ยั่วยวนคนได้ดีแค่ไหน เรื่องพวกนี้ล้วนไม่เกี่ยวอะไรด้วยเลยสักนิด
เขาก็เป็นเพียงผู้ชายที่อบอุ่นคนหนึ่ง
ตอนกลางคืนจะได้นอนหรือไม่ก็ไม่เป็นไร
วันต่อมา ตอนที่กลับถึงบ้าน ซุนอิ่งซูยังคงรู้สึกเบิกบานใจ ราวกับว่ากำลังใช้ชีวิตอยู่ในช่วงฤดูใบไม้ผลิก็ไม่ปาน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...