มังกรผู้ทรงพลัง นิยาย บท 1081

สรุปบท บมที่ 1081 เจ็ดชิ้น: มังกรผู้ทรงพลัง

ตอน บมที่ 1081 เจ็ดชิ้น จาก มังกรผู้ทรงพลัง – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บมที่ 1081 เจ็ดชิ้น คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายนิยายโรแมนติกในเมือง มังกรผู้ทรงพลัง ที่เขียนโดย จาง หลงหู เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

ฉีเติ่งเสียนไม่เคยเข้าใจสำนวนโบราณที่ว่า "คำพูดล้อลมของหงส์ ดุจกระโปรงแต้มด้วยสีแดงทับทิม"

จนกระทั่งได้เห็นกระโปรงสีเขียวของคุณนายซุนที่ถูกย้อมด้วยดอกเหมยแดงสองสามจุด เขาจึงเข้าใจว่าที่จริงแล้วคนในสมัยโบราณก็ลามกสุดยอดไม่แพ้กัน ช่างรู้จักใช้คำเสียจริง!

คุณนายซุนได้สัมผัสกับพละกำลังของคนที่ไม่เคยตกปลา ไม่ท่องหนังสือ ไม่หยิบจับอะไรอย่างฉีเติ่งเสียนแล้ว รู้ดีเลยว่าร่างกายนี้แข็งแรงแค่ไหน

คุณนายซุนคิดว่า ชายหนุ่มที่มีร่างกายแข็งแรงแบบนี้ แต่ในหัวกลับมีแต่ขาอ่อนคนอื่น จะมีเวลาไปทำอย่างอื่นได้ยังไง

"ที่จริงแล้วฉันก็ยังคงอยากได้ร่างกายของเธออยู่ดี" ฉีเติ่งเสียนกลับใจในบาปและความหน้าซื่อใจคดของตัวเอง ในฐานะที่เป็นถึงผู้นำของศาสนาศักดิ์สิทธิ์ เขาไม่ควรทำตัวหน้าซื่อใจคด และควรเผชิญหน้ากับหัวใจของตัวเองด้วย

หลังเสร็จกิจ แววตาของซุนอิ่งซุก็ฉายแววอ่อนโยน ซ้ำยังชุ่มชื้นไปด้วยน้ำ รอยสีแดงจางบนผิวทำให้เธอดูอ่อนกว่าเยาว์ลงหลายปี

"ขอบคุณเหล่าชุยที่ป่วยหนัก! ชาติหน้าขอให้อายุยืนหมื่นปี!" ฉีเติ่งเสียนตะโกนสรรเสริญในใจ

ถ้าซุนอิ่งซูรู้ว่าในใจของเขาลามกแค่ไหน คาดว่าคงตีเขาตายแน่

"ตอนนี้นายไม่จำเป็นต้องดิ้นรนต่อสู้อะไรแล้ว มาโคกูรยอสิ ให้ฉันเลี้ยงดูนายเป็นไง?" ซุนอิ่งซูเอามือเท้าคาง นั่งพิงอย่างสง่างาม ก่อนจะถามพลางยิ้ม

"ก็แค่พูดเล่นๆ จะนับเป็นเอาจริงเอาจังได้ยังไง? เห็นผมเป็นพวกทะเยอทะยานเกินตัวพวกนั้นเหรอ?" ฉีเติ่งเสียนพูดอย่างแง่งอน

ซุนอิ่งซูหัวเราะ แน่นอนว่าเธอไม่เก็บคำพูดของฉีเติ่งเสียนมาเอาจริงเอาจัง อีกอย่าง เธอรู้ดีว่าไม่มีทางเป็นไปได้เลยที่เธอและฉีเติ่งเสียนจะไปถึงขั้นได้แต่งงานมีลูก ใช้ชีวิตฉันสามีภรรยาร่วมกัน

แต่ถ้าจะให้พูด สำหรับเธอแล้ว นอกจากฉีเติ่งเสียนก็ไม่มีตัวเลือกอื่นที่ดีกว่านี้แล้ว

ฉีเติ่งเสียนเองก็รู้ดี ว่าถ้าเกิดอะไรขึ้นกับผู้บริหารสาวสวยจากซ่างซิงจะไม่ได้ส่งผลเสียอะไรให้เขาเลยสักนิด ดังนั้นเขาจึงเป็นฝ่ายรุกก่อน

"พวกผู้ชายน่ะไว้ใจไม่ได้ ก่อนได้กินก็อย่างหนึ่ง หลังได้กินแล้วก็อีกอย่างหนึ่ง" ซุนอิ่งซูพูด

"คุณนาย พูดดีๆหน่อย ผมไม่ใช่ผู้ชายแบบนั้นซะหน่อย ผมน่ะเป็นนักรักอันดับหนึ่งของจงไห่!" ฉีเติ่งเสียนพูด

ซุนอิ่งซูได้ยินแล้วก็โมโหจนหัวเราะออกมา ก่อนจะคว้าหมอนทุบเขาพลางด่า "เมื่อก่อนเรียกพี่อิ่งซู เดี๋ยวนี้เรียกคุณนายซุน"

"ไม่เกี่ยวกันซักน่อย ผมแค่รู้สึกว่าถ้าเรียกแบบนี้อาจทำให้คุณมีความรู้สึกมากขึ้นแค่นั้นเอง......" ฉีเติ่งเสียนพูดอย่างจริงจัง

"???"

ซุนอิ่งซูสีหน้ามึนงง อะไรที่เรียกว่ามีความรู้สึก

"ข้าใช้ชีวิตเยี่ยงโจโฉมาตลอด เหตุใดต้องอธิบายให้เจ้าฟังด้วย!" ฉีเติ่งเสียนแสร้งพูดด้วยท่าทางอวดดี

ซุนอิ่งซูรู้สึกว่าไอ้หมอนี่จะเริ่มกลับมาติ๊งต๊องอีกแล้ว เธอจึงหันหลังให้อย่างเกียจคร้าน รู้สึกไม่อยากเสวนาด้วย

ฉีเติ่งเสียนจึงถือโอกาสนี้กอดเธอจากด้านหลัง ท่อนแขนแข็งแรงของเขาโอบรอบเอวบางของเธอ "ลืมความแค้นเรื่องที่เมื่อก่อนผมเคยแบล็กเมล์คุณร้อยล้านเถอะนะ"

-""

"เมื่อกี้ผมก็ชดใช้ให้คุณหมดแล้ว เกรงว่าจะใช้เกินไปหลายร้อยเลยด้วยนะ......" ฉีเติ่งเสียนพูดเสียงเบา

"นายคิดจะอยู่ที่นี่กี่วัน?" ซุนอิ่งซูถามเสียงเรียบ เธอหลับตาลงพลางซุกตัวเข้าหาอ้อมอกของฉีเติ่งเสียน ซึ่งให้ความรู้สึกปลอดภัยอย่างที่ไม่เคยได้รับมาก่อน

"ดูก่อนแล้วกัน" ฉีเติ่งเสียนคิดครู่หนึ่งก่อนจะตอบ

เพิ่งพูดจบก็ได้ยินเสียงลมหายใจแผ่วเบา เอ๋ แป๊บเดียวก็หลับแล้ว? ดูๆแล้วคุณนายแห่งซ่างซิงคนนี้จะเห็นเขาเป็นพื้นที่ปลอดภัยเหมือนกันนะเนี่ย

แน่นอนว่าฉีเติ่งเสียนไม่สามารถสะบัดตูดจากไปอย่างกะทันหันได้ ควรจะต้องอยู่เป็นเพื่อนเธอต่ออีกสักหน่อย

การที่คุณนายคนสวยงดงามมากหรือไม่ หุ่นดีหรือไม่ ยั่วยวนคนได้ดีแค่ไหน เรื่องพวกนี้ล้วนไม่เกี่ยวอะไรด้วยเลยสักนิด

เขาก็เป็นเพียงผู้ชายที่อบอุ่นคนหนึ่ง

ตอนกลางคืนจะได้นอนหรือไม่ก็ไม่เป็นไร

วันต่อมา ตอนที่กลับถึงบ้าน ซุนอิ่งซูยังคงรู้สึกเบิกบานใจ ราวกับว่ากำลังใช้ชีวิตอยู่ในช่วงฤดูใบไม้ผลิก็ไม่ปาน

ซุนอิ่งซูคิดอยู่ครู่หนึ่ง คิดว่าน่าจะได้

เธอไม่ได้คิดอะไรกับการกระทำของเขามาก แต่แค่นี้มันก็เพียงพอที่จะทำให้ชายหัวกั๋วคนนี้น้ำตาไหลได้

"ที่แท้แล้วฉันไม่ได้ต้องการร่างกายของเธอ แต่เป็นเธอต่างหากที่ต้องการร่างกายของฉัน!" ฉีเติ่งเสียนเหมือนจะคิดขึ้นได้ในตอนนี้ พลันรู้สึกขนหัวลุกไม่รู้ตัว

ฉีเติ่งเสียนเริ่มรู้สึกวิตก ตอนงานชุมนุมการต่อสู้ที่เซียงซานเขายังไม่วิตกเท่านี้เลย

ดังนั้น นับจากนี้ไปเขาจะต้องเริ่มตื่นเช้าเพื่อฝึกซ้อมให้หนัก เพราะพวกหลี่อวิ๋นหว่านก็ใกล้จะสามสิบกันแล้ว

ฉีเติ่งเสียนได้ปล่อยหมัดไปสองสามทีก็รู้สึกสดชื่นขึ้น ในขณะที่กำลังจะเตรียมตัวกลับโทรศัพท์ก็ดังขึ้น พอหยิบมาดูก็พบว่าเป็นเบอร์แปลก

"สวัสดีครับ พระอัครสังฆราชฉี!" อีกฝ่ายทักทายเขาด้วยตำแหน่งทันทีที่รับสาย

"หืม? ใครน่ะ?" ฉีเติ่งเสียนถามเสียงเรียบ

"ที่นี่คือกรมศาสนา การประชุมสามปีครั้งกำลังจะจัดขึ้น ในฐานะที่คุณเป็นพระอัครสังฆราชของเขตใต้ อย่าลืมเข้าร่วมด้วยนะครับ" ปลายสายกล่าวอย่างนอบน้อม

ฉีเติ่งเสียนรู้สึกหมดอาลัยตายอยากขึ้นมาดื้อๆ งานประชุมพวกนี้เขาเบื่อที่จะเข้าร่วมแล้ว แต่ตอนนี้เขาเป็นพระอัครสังฆราช จึงไม่มีทางเลือกมากนัก

จะทำยังไงได้อีก?

นอกจากต้องไป!

"เฮ้อ ตอนบ่ายต้องไปโบสถ์ใหญ่เซียงซานอีก เดี๋ยวให้คนตกแต่งสถานที่หน่อยแล้วกัน ต้องต้อนรับการมาของตาแก่......ฝ่าบาทผู้อาวุโส" ฉีเตอ่งเสียนเก็บโทรศัพท์กลับเข้าไปในกระเป๋าตามเดิม คิดอย่างจนใจ

"แล้วยังมีการประชุมนี่อีก เป็นฉันนี่ไม่มีอะไรง่ายเลยสักอย่าง......"

"ตอนนี้ฉันเป็นพระอัครสังฆราชของเขตใต้ ทำให้พวกศัตรูรู้สึกคับแค้นในอก พวกมันต้องใช้โอกาสนี้ฉีกหน้าฉันแน่"

"แต่ตอนนี้ต้องไปอ่านพระคัมภีร์และท่องจำคำสอนก่อน ถึงเวลาแล้วพูดไม่ถูกได้ขายหน้าของจริงแน่"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง