มังกรผู้ทรงพลัง นิยาย บท 1112

สรุปบท บทที่ 1112 ตกลงกันไม่ได้: มังกรผู้ทรงพลัง

สรุปตอน บทที่ 1112 ตกลงกันไม่ได้ – จากเรื่อง มังกรผู้ทรงพลัง โดย จาง หลงหู

ตอน บทที่ 1112 ตกลงกันไม่ได้ ของนิยายนิยายโรแมนติกในเมืองเรื่องดัง มังกรผู้ทรงพลัง โดยนักเขียน จาง หลงหู เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

โหยวหยางซือเป็นผู้ชายรูปร่างหน้าตาดี ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นคนที่มีความสามารถบางอย่าง

ฉีเติ่งเสียนหันไปมองเขาและเอ่ยเรียบๆ ว่า “งั้นเหรอ? นายคิดว่าตัวเองมีอิทธิพลโดดเด่นมากจนไม่จำเป็นจะต้องสนใจถึงการมีอยู่ของฉันเลยงั้นเหรอ”

หลัวเหลยเอ่ยโดยไม่รอคำตอบของโหยวหยางซือ “ถูกต้อง อาจารย์ฉีมีกำลังแข็งแกร่งก็จริง แต่การปกครองเซียงซานหลงเหมินไม่ใช่เรื่องที่จะพึ่งแค่กำลังเพียงอย่างเดียว”

“หลานชายของผมมีความสามารถโดดเด่นเป็นที่หนึ่ง บุคลิกมีเสน่ห์แข็งแกร่ง ให้เขาเป็นคนดูแลเซียงซานหลงเหมินน่าจะดีกว่าให้คนที่คุณบอกว่าชื่อสวี่ฉางเกออะไรนั่นดูแล”

“ยิ่งไปกว่านั้นนี่เป็นปัญหาของหลงเหมินของพวกเรา คนนอกอย่างคุณจะเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยทำไม? ที่นี่มีที่ว่างสำหรับความคิดเห็นของคุณด้วยหรือ”

โหยวหยางซือก็มีสีหน้าที่สงบไม่สะทกสะท้าน เขาเอ่ยช้าๆ ว่า “คุณปู่พูดถูก ปัญหาของหลงเหมิน ชาวหลงเหมินจะเป็นคนจัดการเอง อาจารย์ฉีไม่ได้เป็นคนของหลงเหมินอีกแล้ว แถมยังนับว่าเป็นสมาชิกไม่ได้ด้วยซ้ำ”

“คุณมีสิทธิอะไรถึงเข้ามามีส่วนร่วมในเรื่องใหญ่อย่างการปลดหรือแต่งตั้งนายหางเสือ?”

“บอกตามตรงว่าคุณไม่มีสิทธิมาควบคุมเรื่องนี้”

“ถ้าไม่ใช่เพราะประธานหลี่ให้ความสำคัญกับคุณ คุณคงไม่มีโอกาสได้พบกับพวกท่านผู้อาวุโสด้วยซ้ำ”

แววตาของฉีเติ่งเสียนเปลี่ยนไปเป็นเย็นชา เขาเอ่ยพลางยิ้มเยาะว่า “ต้อนรับฉันด้วยมื้ออาหารที่น่าประทับใจ แถมยังเชิญฉันดื่มชาเรียกน้ำย่อยที่หาดื่มได้ยาก แล้วตอนนี้ก็มาเล่นแง่กับฉัน?”

หลี่เหอถูโบกมือและบอกว่า “อาจารย์ฉีอย่าได้โกรธเลย ผมคิดว่าอาจารย์ฉียังเป็นพันธมิตรที่สำคัญมากของหลงเหมิน ถึงอย่างไรเราก็มีศัตรูร่วมกันไม่ใช่หรือ”

หลัวเหลยบอกว่า “ถึงไม่มีเขา โลกนี้ก็ยังหมุนได้เหมือนเดิม หลงเหมินอยู่แบบนี้มาหลายปีแล้ว ทำไมต้องสนใจคนนอกเพียงคนเดียวขนาดนี้ด้วย”

ฉีเติ่งเสียนเอ่ยด้วยสีหน้าที่เยือกเย็นว่า “ในเมื่อทุกคนคิดเช่นนี้ เช่นนั้นก็ช่างมันเถอะ แต่ถ้าไม่ใช่คนที่ฉันสนับสนุนเข้ารับตำแหน่งนายหางเสือหลงเหมิน ฉันก็จะไม่สนับสนุน!”

สีหน้าของหลัวเหลยอึมครึม เขาเอ่ยอย่างเยาะเย้ยว่า “งั้นผมจะคอยดูว่ามันจะเป็นยังไงถ้าไม่มีการสนับสนุนจากคุณ! ถึงเวลานั้นอย่าให้ถูกตอกหน้าจนหน้าบวมมองไม่เห็นคนอื่นล่ะ”

หลี่เหอถูถอนหายใจและบอกว่า “วันนี้คงไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมที่จะพูดคุยกันต่อ ทุกคนช่วยเห็นแก่หน้าฉันแล้วแยกย้ายกันไปก่อน! ในเมื่อเป็นแบบนี้ก็ค่อยกลับมาคุยกันทีหลัง!"

หลัวเหลยกับโหยวหยางซือไม่พูดอะไรต่อ ผู้อาวุโสที่เหลืออีกสองคนก็หยุดพูดเช่นกัน

ฉีเติ่งเสียนเองก็คร้านที่จะอยู่ที่นี่ต่อ หลัวเหลยผู้นี้คิดจะผลักดันหลานชายของเขาขึ้นสู่ตำแหน่ง ขัดขวางแผนการของเขา ทำให้เขาไม่พอใจเอามากๆ

ทว่าสิ่งที่หลัวเหลยพูดก็ถูกต้องแล้ว เรื่องนี้เป็นเรื่องของหลงเหมิน ตอนนี้เขาไม่ได้เป็นสมาชิกของหลงเหมินแล้วด้วยซ้ำ เขามีสิทธิ์อะไรถึงไปมีส่วนร่วมเรื่องการแต่งตั้งหรือถอดทอนนายหางเสือ?

“ช่างเถอะ ฉันเองก็ขี้เกียจจะมาสนใจเรื่องนี้ แต่ฉันต้องเอาฮาร์ดดิสที่ได้มาจากเซียวซิงออกไปขายให้เฉินปาเซี่ย ถ้าได้กินจากเขาไม่ถึงเจ็ดหรือแปดพันล้าน มันจะไม่จบ” ฉีเติ่งเสียนคิด

หยางกวนกวนคำนวณให้ฉีเติ่งเสียนอย่างคร่าวๆ แล้ว เงินสกปรกที่เฉินปาเซี่ยได้รับมาจากการร่วมมือกับเซียวซิงน่าจะอยู่ที่ประมาณหนึ่งพันล้าน ซึ่งส่วนใหญ่ได้มาจากการลักลอบขนของเถื่อน บางส่วนได้มาจากธุรกิจผิดกฎหมายรวมถึงจากการปั่นป่วนตลาดในทางที่ไม่ดี

ฉีเติ่งเสียนไม่ได้โลภมาก เขาเพียงแค่ต้องการเงินสกปรกทั้งหมดที่เฉินปาเซี่ยได้รับมา

มันมากและเบื่อที่จะขอ เพราะเฉินปาเซี่ยไม่มีทางให้แน่นอน

หลังจากออกมาจากวิลล่า เขาก็เตรียมจะมุ่งตรงไปที่บ้านของซุนอิ่งซู แต่แล้วกลับถูกหลี่เหอถูเรียกตัวไว้

“ผู้อาวุโสของสมาคมเป็นพวกหัวแข็งทั้งนั้น หากความคิดเห็นของทุกคนในเรื่องนี้ขัดแย้งกับความคิดเห็นของคุณ คงเป็นเรื่องยากที่จะทำให้สำเร็จ” หลี่เหอถูกล่าว

“แค่เป็นคนขายชาติก็แย่แล้ว คิดไม่ถึงว่าคุณยังกล้าไปสังหารบุคคลสำคัญของตระกูลซ่างกวนที่ซานฟรานซิสโกอย่างอุกอาจ ซึ่งสิ่งนี้ผลักดันความขัดแย้งระหว่างหลงเหมินกับสมาคมหงไปสู่จุดสูงสุด”

“ที่สำคัญไปกว่านั้นก็คือ นอกจากคุณจะสังหารคนของตระกูลซ่างกวน คุณยังระเบิดหัวของผู้นำตระกูลรอธไชล์ด ทำให้ตัวเองกลายเป็นผู้ก่อการร้ายที่น่ากลัว!”

“หลงเหมินของเราได้รับความสูญเสียมากมายเพราะการกระทำที่แสนวุ่นวายของคุณ!”

หลี่เหอถูถอนหายใจและบอกว่าตอนนี้เข้ารู้สึกปวดหัวเมื่อเห็นหน้าฉีเติ่งเสียน ผู้ชายคนนี้ก่อปัญหาได้มากเกินไป

ฉีเติ่งเสียนหัวเราะฮึๆ และตบไหล่ของหลี่เหอถูก่อนจะบอกว่า “ท่านประธานใจกว้างมากๆ ทั้งหมดนี่ไม่ได้สำคัญสำหรับผมหรอก ผมขอบคุณมากจริงๆ! คุณไม่ต้องห่วง ตราบใดที่โหยวหยางซือไม่ได้มุ่งเป้ามาที่ผม ผมก็จะไม่ไปยุ่งอะไรกับเขา”

หลี่เหอถูพยักหน้าและบอกว่า “อืม”

ฉีเติ่งเสียนหันหลังและเดินจากไป

แต่ทันทีที่เขาจากไป โหยวหยางซือก็โทรศัพท์เพื่อเตรียมกำลังคนพุ่งเป้าไปที่สวี่ฉางเกอ

หลัวเหลยเอ่ยอย่างเห็นด้วยว่า “หลานทำอย่างนี้ถูกต้องแล้ว ในเมื่ออยากเป็นนายหางเสือแห่งเซียงซานหลงเหมินก็ต้องแสดงความแข็งแกร่งออกมาให้เห็น! ทำให้คนกลัว ไม่กล้ามาแข่งกับหลาน”

“พอคนแซ่สวี่นี่หวาดกลัวซะแล้ว ต่อให้คนแซ่ฉีนั่นคิดจะผลักดันเขาอีกก็คงทำไม่ได้”

“แต่ต้องระวังด้วย อย่าทำให้เป็นเรื่องใหญ่เกินไป”

โหยวหยางซือยิ้มเล็กน้อยพลางเอ่ยว่า “แน่นอน ผมรู้อยู่แล้วว่าคนแซ่ฉีนั่นเป็นปรปักษ์ของประเทศศัตรู ยังไงก็ต้องไว้หน้าเขาบ้าง ผมจะสั่งสอนสวี่ฉางเกอแค่เบาะๆ เท่านั้น”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง