ถึงแม้ว่าร็อบเบนจะไม่ได้เป็นชาวยุทธดั่งฉีเติ่งเสียน แต่เขาเป็นคนดุดันที่สามารถทําหน้าที่เป็นผู้นําของกลุ่มอัศวินศักดิ์สิทธิ์ได้!
อย่ามองว่าการที่ฉีเติ่งเสียนชนะร็อบเบนในตอนนั้นจะไม่ได้ออกเเรงอะไรมาก ก็จะนึกว่าร็อบเบนเป็นขยะที่จะทำอะไรด้วยได้ง่ายๆ
นั้นเป็นเพราะพลังของฉีเติ่งเสียนสามารถยืนอยู่เหนือมนุษย์ ถึงกระทั่งว่าเกินขีดจำกัดไปแล้ว ความแข็งแกร่งของร็อบเบนนั้น เทียบได้กับปรมาจารย์ที่มีทักษะลึกซึ้งอย่างสมบูรณ์
ตาแก่หลัวเหลยนี่ ใช่คู่ต่อสู้ของร็อบเบนซะที่ไหน?
ถึงแม้ว่าชื่อของทุกคนจะมีคำว่า“หลัว” แต่หลัวเหลยก็สูงอายุแล้ว พลังไม่เหมือนตอนหนุ่มสาว บอกเข้ากับ เขาเป็นผู้อาวุโสที่ใช้ชีวิตอย่างมีเกียรติ น้อยมากที่จะลงมือกับคนอื่น พลังที่ลดลงนั้นค่อนข้างเยอะเลยทีเดียว
ฉีเติ่งเสียนเข้ามาเผือกอย่างรวดเร็วจึงเห็นเข้ากับฉาก......ถุย!แอร์วิน สมิธตีหลัวเหลยอย่างบ้าคลั่ง
“การที่เป็นพระอัครสังฆราชนี่มีนสะบายซะจริง เมื่อมีเรื่องทะเลาะวิวาท ขอเพียงแค่ มีกลุ่มอัศวินศักดิ์สิทธิ์อยู่ ฉันก็จะนั่งดูอยู่ข้างๆได้!” ฉีเติ่งเสียนคิดอย่างสบายใจ
ซุนอิ่งซูที่เห็นร็อบเบนทุบตีหลัวเหลยอย่างบ้าคลั่งนั้น ใบหน้าก็เหยเก“นี่ลงมือหนักเกินไปหน่อยไหม อย่างน้อยเขาก็แก่แล้ว......”
ฉีเติ่งเสียนมองเธอแวบหนึ่ง“ในสายตาหมอนี่ ไม่มีหรอกเด็กผู้หญิงคนแก่อะไรแบบนี้ เขาสนใจแค่ฝ่ายตรงข้ามเป็นนอกรีตหรือเปล่า หรือต้องการที่จะทำรลายชื่อเสียงของเจ้านายตนไหม!”
ร็อบเบนเคร่งในศาสนาศักดิ์สิทธิ์อย่างถึงที่สุด ทั้งชีวิตเขาศรัทธาอยู่เพียงผู้เดียวคือพระเจ้า เขาได้ปฏิญาณตนมานานแล้วว่าชั่วชีวิตของเขานั้นจะอุทิศตนให้กับศาสนาศักดิ์สิทธิ์ โดยการเผยแพร่ศาสนาและประกาศพระกิตติคุณของพระเจ้า
หากเจอเข้ากับพวกนอกรีต เขาจะลงมือ โดยตาไม่กระพริบเลยทีเดียว
“ตูม!”
หลัวเหลยหันข้างใช้ด้านแขนรับเข้ากับหมัดของร็อบเบน แต่ร่างกายของเขาก็อดไม่ได้ที่จะลื่นออกไปด้านหลัง
นี่ทำให้เขาตกใจเป็นอย่างมาก หนุ่มร่างใหญ่ตรงหน้านี้ ทั้งๆที่ไม่ได้มีเลือดลมและกำลังภายในที่โหมซัดสาด แต่พลังที่ระเบิดออกมานั้น กลับอยู่เหนือตนเป็นอย่างมาก!
ร็อบเบนเลิกคิ้ว พูดด้วยเสียงเย็น“นอกรีต มีความสามารถอะไรก็ใช้มันออกมาซะ!ไม่อย่างนั้น อีกสักพักก็จะหมดโอกาสแล้ว!”
หลัวเหลยที่ได้ฟังร็อบเบนพร่ามนั้น ก็อดที่จะแสยะยิ้มออกมาไม่ได้“ไม่รู้ว่าไอ้ฝรั่งอย่างแกพูดอะไรอยู่!”
ฉีเติ่งเสียนหันไปพูดกับร็อบเบน“เขาบอกว่า เขาศรัทธาในเทพเจ้า ที่สามารถบดขยี้แสงสว่างของพระเจ้าได้”
ร็อบเบนฟังแล้ว จึงโมโหเป็นอย่างมาก ถึงขนาดที่ว่าผมแทบจะตั้งขึ้นมาเลยทีเดียว ร่างกายที่ใหญ่โตของเขาสั่น สองเท้ากระทืบไปที่พื้น ตึ้งๆสองที ได้ปรากฏหลุมใหญ่ออกมา พุ่งเข้าไปราวกับเสือดุร้ายที่ลงจากภูเขา!
ซุนอิ่งซูหมดคำพูดไปสักพักหนึ่งจากนั้นมองไปที่ฉีเติ่งเสียน“นายทำแบบนี้......จะดีหรอ?”
“ทำไมหรอ?ฉันเพียงแค่ช่วยตาแก่แปลภาษาเพียงเท่านั้น ไม่ได้ปรุงแต่งใดๆทั้งสิ้น” ฉีเติ่งเสียนรู้สึกได้ถึงการเหยียดหยาบ
เธออดไม่ได้ที่จะถอนหายใจในใจ การกระทำหยาบกร้านของหมอนี่ มักเป็นชุดต่อชุดตลอด หรือว่าวันนี้จะต้องให้เธอติดต่อกับศาสนาศักดิ์สิทธิ์ เพื่อที่จะบอกว่าจะบริจาคทรัพย์ให้แก่ศาสนาศักดิ์สิทธิ์
แท้จริงแล้ว เขาก็รู้อยู่แล้วว่าหลัวเหลยจะมาหาถึงที่ อีกทั้งหลัวเหลยยังเป็นถึงผู้อาวุโสของสมาคมหลงเหมิน ไม่เหมาะที่จะลงมือก่อน ดังนั้นจึงยืมมือร็อบเบนเพื่อฆ่าคนสินะ......
ล้วนแซ่“หลัว” ใยต้องขับเคี่ยวจนวางวาย!
“คนแซ่ฉี นายกลบให้คนต่างชาติมาจัดการฉัน หากเรื่องนี้แพร่ออกไป ฉันก็จะดูซิว่านายจะยังมีที่ยืนในหัวกั๋วไหม!” หลัวเหลยที่ถูกทุบตีอย่างบ้าคลั่ง อดไม่ได้ที่จะหันไปด่าฉีเติ่งเสียน“แน่จริง ก็มาจัดการฉันด้วยตัวเองสิ!”
หากฉีเติ่งเสียนลงมือกับหลัวเหลยล่ะก็ แน่นอนว่าฝั่งตรงข้ามรับไม่ไหวแน่นอน แน่นอนว่าแบบนี้ เขาก็ต้องมีเรื่องกับสมาคมหลงเหมิน ซึ่งมันไม่มีความจำเป็น
หมัดของร็อบเบนได้กระแทกไปที่หลัวเหลยจนแทบจะล้มลงไป จากนั้นจึงหันไปถามฉีเติ่งเสียน“เขาพูดอะไร?!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...