ซุนอิ่งซูบริจาคเงินเล็กน้อยให้ศาสนาศักดิ์สิทธิ์ และหลังจากร็อบเบนได้เงินแล้ว เขาก็ออกจากที่นั่นอย่างสุภาพ
ฉีเติ่งเสียนคิดว่าสิ่งนี้คุ้มค่ามาก ให้คุณนายซุนจ่ายเงินจำนวนวเล็กน้อย จากนั้นร็อบเบนก็กลายเป็นสมุนของเขา
แต่ซุนอิ่งซูกลับรู้สึกว่าฉีเติ่งเสียนนั้นร้ายกาจและน่ากลัวเกินไป แล้วก็เอาคำพูดของหลัวเหลยมาแปลอย่างแปลกประหลาด
ถ้าหลัวเหลยรู้ว่าฉีเติ่งเสียนแปลอย่างไร เดาได้ว่าเขาคงใช้เส้นสายทั้งหมดที่มีเพื่อบีบเขาให้ตาย
“คุณไม่เข้าใจหรอก สิ่งนี้เรียกว่าทหารที่สยบผู้อื่นได้โดยไม่ต้องสู้! ผมอยู่ในระดับที่ไม่จำเป็นต้องสู้กับใคร” ฉีเติ่งเสียนพูดนิ่งๆ
“...” ซุนอิ่งซูหมดคำจะพูด เธอแขวะว่าเขาร้ายกาจ แต่เขากลับภูมิใจกับมันนักหนา
แน่นอนว่าฉีเติ่งเสียนรู้สึกภูมิใจ เขาจัดการสองปู่หลานอย่างหลัวเหลยกับโหยวหยางซือได้โดยไม่ต้องลงมืออะไรทั้งนั้น แค่เป็นคนกลางที่ปลุกปั่นเท่านั้น
โหยวหยางซือได้รับบาดเจ็บจากคนของเฉินปาเซี่ย ส่วนหลัวเหลยก็ถูกกลุ่มอัศวินศักดิ์สิทธิ์ทำให้พิการ...
ฉีเติ่งเสียนเป็นดอกบัวขาวบริสุทธิ์ เลือดไม่เลอะแม้แต่ปลายเล็บ
แล้วก็เป็นอย่างที่คิด ผ่านไปไม่นานหลี่เหอถูก็ตรงไปหาซุนอิ่งซูเพื่อหาเรื่องฉีเติ่งเสียน
“คุณพูดให้มันดีๆ นะ ผมไม่ได้ทำอะไรเลย!” เมื่อฉีเติ่งเสียนเห็นหลี่เหอถูอ้าปากเตรียมจะโจมตี เขาก็เอ่ยเตือนอีกฝ่าย
“ใครเป็นคนทำ” หลี่เหอถูถาม
ฉีเติ่งเสียนพูดว่า “ผู้นำของกลุ่มอัศวินศักด์สิทธิ์ ร็อบเบนโอลิลาฟ! อยากได้เบอร์โทรศัพท์เขาไหม แล้วคุณก็หาคนไปล้มเขา”
หลี่เหอถูตกตะลึงเมื่อได้ยินเช่นนั้น ผู้นำของกลุ่มอัศวินศักดิ์สิทธิ์น่ะหรือ เขาจะขัดแย้งกับหลัวเหลยได้อย่างไร
“เกิดอะไรขึ้น ทำไมเขาถึงขัดแย้งกับผู้อาวุโสหลัว”หลี่เหอถูถาม
“ร็อบเบนบอกว่าทีมบราซิลเก่งมาก ส่วนหลัวเหลยบอกว่าทีมฟุตบอลชายของหัวกั๋วเก่งที่สุด จากนั้นทั้งสองฝ่ายก็เริ่มทะเลาะกัน” ฉีเติ่งเสียนพูดอย่างไม่แสดงอารมณ์
หลี่เหอถูชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นสีหน้าของเขาก็จริงจังขึ้น เขาพูดว่า “อย่ามาล้อเล่นที่นี่ ตกลงมันเกิดอะไรขึ้น”
ฉีเติ่งเสียนตอบว่า “ผู้อาวุโสหลัวสงสัยว่าผมเปิดเผยเบาะแสของโหยวหยางซือจนทำให้เขาถูกทำร้าย แต่เขาไม่มีหลักฐาน เขาจึงเตรียมที่จะทรมานเพื่อให้ผมสารภาพ สุดท้ายผู้นำกองทหารของเรามาพอดี เมื่อเห็นว่าเขากำลังลงมือกับผม เขาจึงคิดว่าผู้อาวุโสเหลยเป็นพวกนอกรีตที่คิดจะโจมตีศาสนาศักดิ์สิทธิ์!”
“คุณรู้ไหม ผมเป็นพระอัครสังฆราชแห่งเขตใต้ของศาสนาศักดิ์สิทธิ์ เขาทำร้ายผมต่อหน้าผู้นำกลุ่มอัศวินศักดิ์สิทธิ์ นี่มันไม่ใช่การหาเหาใส่หัวเหรอ”
“แถมยังมาโทษว่าผมไม่บอกให้เขาหยุด...”
“เฮ้อ...แต่ยังไงเขาก็แก่แล้ว ร็อบเบนก็รุนแรงเกินไปหน่อย!”
ซุนอิ่งซูที่อยู่ข้างๆ รู้สึกปวดท้องอีกครั้ง ศิลปะการชงชาของฉีเติ่งเสียนนี่สุดยอดจริงๆ ล้างมลทินให้ตัวเองเสียสะอาดหมดจด แถมยังพูดจาน่าฟังขนาดนี้
ฉีเติ่งเสียนถอนหายใจและพูดว่า “ยังไงชาวตะวันตกก็หยาบคายและป่าเถื่อนอยู่แล้ว ไม่เหมือนพวกเราชาวตะวันออก โดยเฉพาะผมที่เคารพผู้อาวุโสเมตตาเด็กและเป็นแบบอย่างทางศีลธรรม”
มุมปากของหลี่เหอถูสั่น เขาชี้ฉีเติ่งเสียนแล้วพูดว่า “คุณคงขุดหลุมพราง แล้วรอให้ผู้อาวุโสหลัวกระโดดลงไปใช่ไหม!”
ฉีเติ่งเสียนบอกว่า “ไม่ต้องห่วง คู่แข่งทั้งหมดก็ถูกจัดการหมดแล้ว ถ้าเขาไม่รับตำแหน่ง แล้วจะมีใครอีก เมื่อถึงเวลานั้นนายกหวงจะสนับสนุนเขา ตระกูลจี้จะสนับสนุนเขา ตระกูลเหลยก็จะสนับสนุนเขาเช่นกัน!”
หลี่เหอถูยื่นมืออกมาและชี้ไปที่ฉีเติ่งเสียนอย่างจนปัญญา จากนั้นเขาก็ส่ายหัวและเดินจากไป แม้ว่าการกระทำที่คาดไม่ถึงของชายคนนี้จะทำโดยโหยวหยางซือ แต่เฉินปาเซี่ยก็ต้องระวังเรื่องนี้ไว้เหมือนกัน
“ตอนนี้ตระกูลเหอกำลังจะล้มมิล้มแหล่และแทบจะไม่มีทางทำให้สถานการณ์กลับเป็นดังเดิมได้ เมื่อเรื่องเรือตระกูลเหลยจบลง พวกอกตัญญูเหล่านี้ก็จะต้องเจ็บใจกันหมด...” ฉีเติ่งเสียนครุ่นคิดในใจ
ซุนอิ่งซูกล่าวว่า “สไตล์การจัดการเรื่องราวของคุณไม่ค่อยดีเลยนะ เดิมทีคุณก็มีศัตรูนับไม่ถ้วนอยู่แล้ว แล้วตอนนี้คุณยังไปทำให้กองกำลังที่เคยมีความสัมพันธ์ที่ดีกับคุณต้องไม่พอใจ หากพวกเขากลายไปเป็นศัตรู เรื่องมันจะยิ่งแย่ลงอีก!”
ฉีเติ่งสียนพูดขึ้นว่า “ตราบใดที่หลี่เหอถูยังเป็นประธานสมาคม สมาคมหลงเหมินก็ไม่มีทางโกรธผมหรอก นอกจากนี้ เรื่องนี้ผมก็อยู่ฝั่งที่มีเหตุผล”
ซุนอิ่งซูส่ายหน้าก่อนจะพูดว่า “ฉันไม่ได้หมายความแบบนั้น ฉันหมายถึงสไตล์ในการทำเรื่องต่างๆ ของตุณ”
ฉีเติ่งเสียนหัวเราะและพูดว่า “เป็นเพราะว่าบางเรื่องผมยอมไม่ได้ ผมจึงได้รู้จักกับเพื่อนที่จริงใจซื่อตรงต่อกันอย่างแท้จริง! คุณคิดว่าตระกูลเหลยไว้ใจผมเพราะอะไร ถึงขั้นยกเรือตระกูลเหลยทั้งหมดให้เป็นของนครรัฐวาติกันและเลือกให้ผมเป็นผู้ดูแล”
หลังจากได้ยินสิ่งนี้ซุนอิ่งซูก็เงียบไปสักพัก ความไว้ใจแบบนี้ไม่มีทางเกิดขึ้นในโลกที่เธออยู่
ถึงขั้นที่เธอคิดว่าสิ่งที่เรียกว่าความภักดีนั้นมีอยู่แค่ในนวนิยายวิทยายุทธเท่านั้น
แต่สิ่งที่ฉีเติ่งเสียนทำกลับทำให้ความภัดีเหล่านี้ปรากฏในโลกแห่งความเป็นจริง
สิ่งที่เธอพูดอาจสมเหตุสมผล แต่สไตล์การทำเรื่องต่างๆ ของฉีเติ่งเสียนก็ใช่ว่าจะผิด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...