หลัวเหลยถูกหัวหน้ากลุ่มอัศวินศักดิ์สิทธิ์ทำให้ได้รับบาดเจ็บหนัก โหยวหยางซือถูกคนของเฉินปาเซี่ยทำให้ได้รับบาดเจ็บ
สองอาหลานนี้ ไม่มีใครได้รับผลลัพธ์ที่ดีเลย
แม้ว่าฉีเติ่งเสียนจะแย้งตำแหน่งกลับมาแล้ว ท้ายที่สุด คนที่สำคัญก็ล้มลงแล้ว แล้วท่าทางของหลี่เหอถูที่สนับสนุกเขา ต่อจากนี้ขอแค่จัดการดีๆก็พอแล้ว ไม่ต้องสนใจเรื่องอื่นมากมาย
ตอนกลางคืน อวี้เสี่ยวหลงโทรเข้ามา นัดเจอฉีเติ่งเสียน
ฉีเติ่งเสียนรู้สึกว่าสายนี้มันมาได้พอดิบพอดีมาก ช่วยเขาจากกองน้ำกองไฟ มื้อเย็นวันนี้ก็ถือว่าไม่ต้องเนื้อปลาแล้ว
“นายพลอวี้หาฉันมีเรื่องจะปรึกษาฉัน ฉันไปก่อนนะ!เดี๋ยวรอดูสถานการณ์ก่อนว่าจะกลับมาไหม”ฉีเติ่งเสียนพูดกับซุนอิ่งซู
ซุนอิ่งซูหัวเราะออกมาหนึ่งครั้ง ฉีเติ่งเสียนคนนี้รู้สึกไม่ค่อยอันตราย แต่เรื่องทำให้อาบอายนี่แกร่งมาก
หลังจากลากับคุณนายซุน ฉีเติ่งเสียนก็ไปที่ชั้นบนสูงของโรงแรมเทียนตี้ เพื่อมาพบเจออวี้เสี่ยวหลง
สวนดอกไม้กลางอากาศที่ฟุ่มเฟือยอย่างยิ่ง มีหญิงสาวสองคนนั่งอยู่ คนหนึ่งดูจากร่างกายกล้าหาญ กลิ่นอายดูมีเหมือนคลายผู้ชายและดูแล้วกล้าหาญกว่าผู้ชาย อีกหนึ่งคนสวยงามและมีกลิ่นหอมหรูหราและสงบ
ฉีเติ่งเสียนเห็นคนที่สอง ทนไม่ไหวตะลึงแล้วถามขึ้น: “ทำไมคุณถึงมาอยู่นี่?ตอนนี้ สถานการณ์ของตระกูลเฉินของคุณไม่ค่อยดีนักในประเทศหัวกั๋ว!”
ผู้หญิงที่สามารถประเมินว่าเป็น“หญิงสาวที่สวยงามในประเทศ” แน่นอนว่าไม่ธรรมดานั้นก็คือเฉินหยู ถ้าเขาอยู่ในสมัยโบราณก็เปรียบเสมือนเป่าซือและต้าจี ภัยพิบัติต่อประเทศและประชาชน
เฉินหยูหัวเราะพูดขึ้น : “ตรงนี้มีอะไรสนุกๆให้ดู ไม่มาได้ไงละ?เหอกรุ๊ปสั่นสะเทือน ฉันต้องลงมือกับตัว แบบนี้ถึงจะสามารถโกยผลประโยชน์เข้ากระเป๋าตระกูลเฉินได้มากที่สุด”
ฉีเติ่งเสียนกลับพูดขึ้นว่า: “คุณมาแล้ว มหาวิหารของฉันจะทำยังไง?มอบให้คนอื่น คุณไว้ใจหรอ!”
เฉินหยูมองเขาไปหนึ่งรอบ ช่วงนี้เขาอยู่ที่หนานหยาง ในหนึ่งวันเขาต้องสละเวลาในการทำงานไปช่วยฉีเติ่งเสียนจัดการมหาวิหารอวตารบ้าบอนี่
เพราะว่าการที่จะสร้างวิหารตรงทิศใต้มัยไม่ใช่เรื่องเล็กๆเลย ตั้งแต่เรื่องเล็กๆไปจนถึงเรื่องใหญ่ต้องคิดให้รอบคอบถึงจะทำได้
“สร้างวิหารนี้ให้คุณฉันเสียงแรงไปไม่น้อยเลย ยังจำปาเต็ก ฟิลลิปป์ที่คุณให้ฉันต่อราคาได้ไหม?”เฉินหยูถามอย่างนิ่งๆ
“หึม?”ฉีเติ่งเสียนพูด
“ฉันมอบให้ขุนศึกคนหนึ่งละ ขุนศึกคนนี้ฟังคำยุยงของสวีเอ้าเสวี่ยเพื่อรวบรวมเงินคุ้มครอง”เฉินหยูพูด
ฉีเติ่งเสียนตะลึง จากนั้นก็โกรธมากๆ สวีเอ้าเสวี่ยยังคงตั้งใจจะมีปัญหากับเขา กล้าเรียกขุนศึกมาเก็บค่าคุ้มครอบกับเขา!
แม้ว่าชื่อเสียงของศาสนาศักดิ์สิทธิ์จะยิ่งใหญ่ แต่ก็ไม่ทำให้ขุนศึกที่สมองอยู่ตรงเป้ากางเกงพวกนี้กลัวเลย อีกทั้งยังทำให้ความเชื่อทางหนานหยางนั้นไม่น่าเชื่อถือลง มาตรฐานการครองชีพก็ไม่สูงเช่นกัน เอาเวลาที่ไหนไปเชื่อเรื่องความเชื่อศาสนา?โดยเฉพาะขุนศึกที่สนับสนุนกองทัพและเคารพตนเอง ถ้าให้ทำให้พวกเขาไม่พอใจ ไม่สนหรอกว่าคุณจะนับถือศาสนาพุทธหรือศาสนาอะไร เขาเอาปืนใหญ่มาโจมตีหมด
ฉีเติ่งเสียนรู้สึกว่านี่มันไม่ธรรมดาแล้วนะ ถ้ารู้แบบนี้ก็ไม่สร้างวิหารที่หนานหยางแล้ว นี่มันทำตัวเองชัดๆ เสียเงินไปมากมายไม่ว่า ยังต้องมาจ่ายค่าคุ้มครองให้กับขุนศึก!
แต่ว่า เขาก็เกิดความสงสัย ทำไมตระกูลเฉินยังต้องกลัวขุนศึก?
“ตอนนี้หนานหยางยิ่งอยู่ยิ่งวุ่นวายแล้ว เรือบรรทุกเครื่องบินประเทศมี่ทั้งหมดมาถึงน่านน้ำใกล้เคียงแล้ว รัฐบาลมีความกล้าหาญ เวลานี้ยังไปทำให้ขุนศึกไม่พอใจอีก มันไม่คุ้มค่าเลย”เฉินหยูเป็นผู้หญิงฉลาด แวบเดียวก็มองความคิดของฉีเติ้งเสียนออกแล้ว ในทันทีเขาหัวเราะอย่างเย็นชาออกมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...