มังกรผู้ทรงพลัง นิยาย บท 115

ผู้เฒ่าเฉียวกระแอมพูดกับเฉียวชิวเมิ่งว่า “ชิวเมิ่ง ทำไมเธอไม่รีบไปหยิบแก้วมาดื่มกับคุณหลี่ล่ะ”

“โชคดีมากที่คุณชายหลี่มองเธอ!”

“น่าเสียดายที่พ่อของเธอเลือกไอ้ขี้แพ้ให้ ทำให้คนอื่นไม่เข้าใจ.....”

ใบหน้าของเฉียวชิวเมิ่งเปลี่ยนเป็นซีดเผือก เธอรู้ว่าหลี่เทียนลั่วไม่ได้ชื่นชมเธอจริงๆ และก็รู้ดีว่าเธอไม่สามารถดื่มไวน์ด้วยได้!

หลังจากดื่มไวน์นี้แล้ว คนอื่นจะมองอย่างไรต่อจากนี้? ดื่มกับผู้ชายคนอื่นต่อหน้าสามี? อีตัวดีๆ นี่เอง!

และเช่นเดียวกันหลังจากดื่มไวน์นี้ ฉีเติ่งเสียนจะมีหน้าไปพบคนอื่นอีกได้อย่างไร?ภรรยาของเขากำลังดื่มกับผู้ชายคนอื่นต่อหน้าเขา? ดักดาน!

ตามที่คาดไว้ สีหน้าของฉีเติ่งเสียนเริ่มดูเย็นชา เขาไม่คาดคิดว่าการกำจัดเป้าหมายของหลี่เทียนลั่วจะฉลาดขนาดนี้!

“เฉียวชิวเมิ่ง ทำไมเธอถึงต้องลังเล อย่าลืมว่าเธอเป็นประธานของเฉียวกรุ๊ปและทุกอย่างจะต้องกระทำโดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของฉียวกรุ๊ปเป็นหลัก!”

“ถูกต้อง เฉียวชิวเมิ่ง อย่าช้าในการทำเงินของพวกเราได้ไหม! หากเธอทำให้ขาดรายได้ในช่วงปลายปี เธอจะต้องจ่ายชดเชยทั้งหมด!”

“ทำไมเธอยังยืนเฉย แค่ดื่มไวท์ด้วยกันแค่แก้วเดียวคุณชายหลี่ก็จะมอบโครงการสิบล้านให้กับตระกูลเฉียว เธอกำลังดึงเชิงอะไรอยู่?”

ญาติๆ ทุกคนพูดขึ้นโดยหวังให้เฉียวชิวเมิ่งรีบๆดื่มกับหลี่เทียนลั่ว

เฉียวกั๋วเทายืนขึ้น ส่ายหัวแล้วพูดว่า “คุณพ่อ ชิวเมิ่งแต่งงานแล้ว เรื่องแบบนี้ไม่เหมาะสม”

หลี่เทียนลั่วหัวเราะและพูดว่า: “ผมแค่ชื่นชมคุณเฉียวชิวเมิ่งและต้องการเติมเต็มความปรารถนาเท่านั้น หากคุณไม่พอใจก็ลืมมันไปเถอะ และแกล้งทำเป็นว่าผมไม่ได้พูดถึงโครงการอะไรเลย!"

ในเวลานี้ตาของญาติๆ แดงก่ำ และพวกเขาแทบรอไม่ไหวที่จะกดขี่ เฉียวชิวเมิ่ง เพื่อไปดื่มกับหลี่เทียนลั่ว

พั่งซิ่วอวิ๋นเดินไปหาเฉียวชิวเมิ่ง ผลักเธอเบาๆ และกระซิบ: “ทำไมลูกถึงต้องลังเล ไปดื่มกับคุณหลี่เดี่ยวนี้!”

“แต่...” เฉียวชิวเมิ่งกัดฟันและปฏิเสธที่จะเห็นด้วย

“ลูกสนใจว่าฉีเติ่งเสียนเจ้าเด็กคนนี้จะคิดอย่างไรเหรอ?”

“เขาเทียบได้กับคุณหลี่ไม่ได้ด้วยซ้ำ? คุณหลี่เป็นหลานชายคนโตของตระกูลหลี่ และความสำเร็จในอนาคตของเขาจะยิ่งสูงขึ้นไปอีก!”

“ลูกขึ้นไปดื่มกับคุณหลี่ แล้วใช้โอกาสนี้เลิกกับฉีเติ่งเสียนแล้วหย่ากับเขาซะ แบบนี้เท่ากับยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวไม่ใช่หรอ?”

“ถ้าลูกไม่ทำตามคุณหลี่ ในอนาคตจะมีคนทั้งในและนอกตระกูลเฉียวที่จะดูถูกลูก”

พั่งซิ่วอวิ๋นกระซิบข้างๆ เฉียวชิวเมิ่ง อธิบายการเดิมพันและขอให้เธอไปดื่มเร็วๆ

ผู้เฒ่าเฉียวพูดด้วยน้ำเสียงทุ้ม: “ชิวเมิ่งแบบนี้มันไม่ผิด เธอก็ได้ยินเหมือนกันนี่ นี่เป็นเพียงเพื่อช่วยให้คุณหลี่สมปรารถนาเท่านั้น”

“ยิ่งไปกว่านั้น หากเธอทำแบบนี้แถมยังสามารถรับโครงการมูลค่าหลายสิบล้านมา มันสามารถช่วยเหลือตระกูลเฉียวทั้งหมดได้!”

“ฉันยังคิดว่าหลังจากนี้ เธอจะติดต่อกับคุณชายหลี่ได้มากขึ้น และวางแผนสำหรับอนาคตของเธอได้”

สิ่งที่นายเฉียวพูดในภายหลังทำให้ชัดเจนมากว่าเขากำลังดูถูกฉีเติ่งเสียนและต้องการให้ เฉียวชิวเมิ่งหย่ากับฉีเติ่งเสียนและใช้โอกาสนี้แต่งงานกับหลี่เทียนลั่ว

เฉียวชิวเมิ่งหน้าชา ตอนนี้ทุกคนในครอบครัวมีความคิดแบบนี้ได้อย่างไร?

ถึงแม้ฉีเติ่งเสียนจะมักพูดอะไรที่เธอจะไม่ชอบใจ แต่เขาขึ้นชื่อว่าเป็นสามีของเธอ และพวกเราก็เป็นครอบครัวเดียวกัน!

“พวกคุณแสดงละครพอแล้วหรือยัง?” ฉีเติ่งเสียนพูดอย่างใจเย็น

“หุบปาก แกไม่มีสิทธิ์พูด” เฉียวชิงอวี่ตะโกนด้วยความโกรธ

“ฉันเป็นพ่อของคุณ ทำไมฉันจึงไม่มีสิทธิ์” ฉีเติ่งเสียนเหลือบมองเฉียวชิงอวี่ถามด้วยรอยยิ้มมุมปาก

เฉียวชิงอวี่โกรธมากจนอยากจะฉีกปากของเขาออกเป็นชิ้น ๆ เรื่องของการคุกเข่าเรียกเขาว่าพ่อจะกลายเป็นบาดแผลที่ไม่มีวันลืมที่สุดในชีวิตของเธออย่างไม่ต้องสงสัย!

ผู้เฒ่าเฉียวใบหน้าเข้มขึ้น และพูดอย่างเย็นชา: “นายฉี นายมีสิทธิ์พูดเหรอ?”

“ถ้าจะพูดอะไรมากกว่านี้ก็ออกไปจากที่นี่ซะ!”

“ที่นี่ไม่ต้อนรับขยะอย่างนาย!”

เขาพูดอย่างไร้ความเมตตา

“ใช่ ความเมตตาของพระเจ้าที่มีต่อคนแพ้ชื่อ ฉีเติ่งเสียนก็คือเป็นปลิงเกาะติดตระกูลเฉียว ทำให้พอยังชีพได้ กล้าดียังไงมาอวดดีต่อหน้าผู้ใหญ่แบบนี้?”

“เขาเป็นแค่ผู้คุมสกปรกๆ พูดตรงๆ เป็นแค่สุนัขเฝ้าบ้าน ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเฉียวกั๋วเทาทำไมถึงเอาเขามาเป็นลูกเขย ที่มาเพื่อสร้างปัญหาให้กับตระกูลเฉียวของเรา?”

“คนสารเลวประเภทนี้ไม่คู่ควรกับชิวเมิ่งเลย เขาไม่คู่ควรกับผู้หญิงคนใดในตระกูล เฉียวของเราเลยด้วยซ้ำ! หากรู้ตัวดี นายควรหย่าและไปให้พ้น”

ญาติฝั่งนั้นก็มองเขาอย่างเย็นชาและเริ่มเยาะเย้ยเขาทีละคน

ฉีเติ่งเสียนหรี่ตาลงและพูดด้วยรอยยิ้ม: “แค่โครงการที่มีมูลค่าสิบล้านก็แทบจะอยากขายชิวเมิ่งแล้ว นี่ถ้าเป็นโครงการที่มีมูลค่าร้อยล้าน พวกคุณจะไม่คุกเข่าเรียกเขาว่าพ่อเลยเหรอ?”

เฉียวชิงอวี่ ยิ้มเยาะและพูดว่า: “ถ้านายทำโครงการร้อย ล้านได้จริงๆ ฉันจะคุกเข่าลงแล้วเรียกนายว่าพ่อทันที!”

“ใช่ ดูสิว่านายจะแค่ไหน นายคงมีหนี้ล้านด้วยซ้ำใช่ไหม!”

“หากนายสามารถมีโครงการร้อยล้านหยวนได้ ไม่ต้องพูดถึงเฉียวชิงอวี่คุกเข่าเรียกนายว่าพ่อ ฉันจะเรียกนายว่าบรรพบุรุษเลย!”

“นายคิดว่านายเป็นคนที่รวยที่สุดในประเทศจริง ๆหรือไง แค่ลงทุนสิบล้านเหรอ นายมันเป็นกบในบ่อน้ำจริงๆ”

ใบหน้าของฉีเติ่งเสียนเต็มไปด้วยความรังเกียจ และเขาพูดอย่างใจเย็น: “วิลล่าที่ฉันอาศัยอยู่ตอนนี้เกือบจะสามารถซื้อร้านสมุนไพรของหลี่กรุ๊ป หนึ่งร้อยล้านหยวนจะยากอะไร?”

“ฮ่าฮ่าฮ่า เจ้าโง่คนนี้เสียสติไปแล้ว ยิ่งพูดยิ่งขี้โม้!”

“มูลค่าตลาดของร้านยาหลี่กรุ๊ป อย่างน้อยสองสามพันล้าน มีวิลล่าที่มีราคาขนาดนี้ในโลกนี้เหรอ?”

“เขาอาศัยอยู่ในวิลล่าแบบไหน? อย่าบอกนะว่าเป็นบ้านสร้างเองที่สร้างขึ้นในชนบท!”

หลี่เทียนลั่วยิ้มเล็กน้อยและกล่าวว่า: “มีวิลล่ามูลค่าเกือบสามพันล้านหลัง เดียวอย่างวิมานอวิ๋นติ่งในอวิ๋นติ่งวิลล่าซึ่งเป็นพื้นที่วิลล่าชั้นนำของ จงไห่เดิมขายได้ในราคาสองพันล้าน”

“คุณฉี นายอาศัยอยู่ที่จงไห่หรือ? แล้วนายอาศัยอยู่ที่อวิ๋นติ่งหรือ? ฮ่าฮ่าฮ่า...”

เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ หลี่เทียนลั่วก็อดหัวเราะไม่ได้

“คุณพูดถูก ฉันอยู่ที่วิมานอวิ๋นติ่ง” ฉีเติ่งเสียนมองข้ามและพูดตามความจริง

“หึ!”

ทุกคนตกตะลึง จากนั้นเสียงหัวเราะที่ดังสนั่นก็ปะทุขึ้น

ใบหน้าของเฉียวชิวเมิ่งอับอาย เมื่อวานนี้เธอส่ง ฉีเติ่งเสียนกลับไปที่ อวิ๋นติ่งวิลล่า เมื่อถึงหน้าประตู “วิมานอวิ๋นติ่ง” ฉีเติ่งเสียนบอกว่าคีการ์ดอยู่ในกระเป๋าสตางค์และกระเป๋สตางค์ก็ถูกลืมไว้ บนเรือสำราญ

ยิ่งไปกว่านั้นได้พบกับอวี้เสี่ยวหลงที่นั่น

เมื่อพิจารณาจากรูปลักษณ์ของอวี้เสี่ยวหลง เขาน่าจะรู้จักเจ้าของ “วิมานอวิ๋นติ่ง”

หลังจากที่คำโกหกของฉีเติ่งเสียนถูกเปิดเผย เขาก็ใช้มันหลอกคนอื่นและพูดถึงมันอย่างปกติ...

เธออดไม่ได้ที่จะรู้สึกละอายใจ!

“ฉันหัวเราะหนักมาก ผู้ชายคนนี้บอกว่าเขาอาศัยอยู่ในวิมานอวิ๋นติ่ง! ฉันจะซื้อห้องสวีทในเมืองต้องห้ามแล้วไปอยู่ที่นั้นบ้าง!”

“ทำไมต้องอยู่ในเมืองต้องห้ามน่ะเหรอ? หากเราอยากอยู่ที่นั่น เราก็สามารถอยู่ในห้องโถงใหญ่ที่ผู้นำจัดการประชุมได้ แบบนั้นคงดูมีชื่อเสียงไม่น้อยเลยว่าไหม!”

“ถ้าเขาสามารถอาศัยอยู่ในอวิ๋นติ่งวิลล่าได้ ได้ฉันก็สามารถไปอยู่ในทำเนียบขาวที่สหรัฐอเมริกาได้นะสิ! ฮ่าฮ่าฮ่า...”

ใบหน้าของผู้เฒ่าเฉียวมืดสนิท ยังมีคนนอกอยู่ที่นี่ ฉีเติ่งเสียนเกี่ยวข้องกับตระกูลเฉียวเช่นกัน เขาจะทำให้ตระกูลเฉียวเสียหน้า ด้วยการพูดเรื่องงี่เง่าเช่นนี้!

“ออกไป ออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้!”

นายเฉียวชี้ไปที่ประตูแล้วไล่เขาอย่างรุนแรง

“ได้ งั้นผมจะฉีกสัญญาจากโครงการของเซี่ยงกรุ๊ปก่อน!” ฉีเติ่งเสียนเอื้อมมือไปในเสื้อ หยิบกระดาษสัญญาออกมาแล้วพูดอย่างใจเย็น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง