ประมุขนักพรตของเขาเสวียนหวู่ นั่นถือว่าเป็นหนึ่งในบุคคลสำคัญที่มีฐานะสูงสุดในลัทธิเต๋า
แม้ว่าลัทธิเต๋าจะแบ่งเป็นสำนักใหญ่ แต่ว่า บรรพบุรุษที่แท้จริง ก็ยังเป็นเล่าจื้อ
แบ่งแยกออกมา ความอาวุโสของแต่ละสำนัก ความจริงสามารถเปรียบเทียบกันได้
ตราประทับเต่าและงูในมือของฉีเติ่งเสียน คำนวณตามความอาวุโสของอาจารย์ เขาอยู่ที่นี่ เปรียบเทียบกับชุดคลุมจีนสีม่วง สูงกว่าอย่างน้อยสองชั่วอายุคน
ประมุขสำนักต่างๆ นักพรตเห็นเขา ยังต้องเรียกเขาว่าปรมาจารย์
“ขอเทียนจุนอำนวยพรความสุขกับทุกคน!”
นักบวชลัทธิเต๋ายังไม่ทันได้พูดตอบ ก็มีนักบวชเต๋าเฒ่าเดินออกมา สวมชุดคลุมจีนสีม่วง
นักบวชลัทธิเต๋ารีบหันกลับไปคารวะ“ประมุขใหญ่!”
นักบวชลัทธิเต๋าเฒ่าในชุดคลุมสีม่วงที่อยู่ตรงหน้า ก็คือประมุขนักพรตของเขาเสวียนหวู่ มองดูผู้นำปัจจุบันของสำนักลัทธิเต๋าใหญ่ๆ เห็นเขาก็เรียกว่าศิษย์ผู้พี่ จนกระทั่งนักบวชที่อายุน้อยก็เรียกเขาว่าบรรพจารย์
“ทันทีที่สหายลัทธิเต๋าคนนี้ขึ้นมาที่เขาเสวียนหวู่ของฉัน รู้สึกว่าบรรยากาศเปลี่ยนไป ออกมาดู เป็นมังกรในหมู่มนุษย์จริงๆ เหมือนกับจักรพรรดิเสด็จ เหมือนกับสัญญาณแจ้งเหตุ!”อาจารย์จางเทียนยิ้มและพูดกับฉีเติ่งเสียน ใช้มือข้างเดียวคารวะ
“แอ่กๆ…หาที่สุดมิได้…อืม อาเมน!”ฉีเติ่งเสียนเพิ่งจะอยากยกมือขึ้นมา แต่นึกขึ้นได้ว่ายังมีผู้ศรัทธาจำนวนหนึ่งอยู่ข้างหลัง ยกมือขวาขึ้นทันที วาดบนรูปไม้กางเขนบนหน้าอกทันที
ถึงแม้อาจารย์จางเทียนจะสีหน้าอ่อนโยน แต่สายตามีความขับไล่รุนแรงมาก เห็นได้ชัดเจนว่าไม่ต้อนรับฉีเติ่งเสียนที่เป็นพระอัครสังฆราช
อาจารย์จางเทียนพูดเสียงเรียบเฉย“สหายลัทธิเต๋าไม่สามารถเข้าไปในห้องโถงใหญ่เพียงลำพังได้ ต้องรอให้ทุกคนมาด้วยกัน ถึงยังไง เพื่อนลัทธิเต๋าเป็นคนนอกรีต….”
ฉีเติ่งเสียนกลับพูดเสียงหนักแน่น“บังอาจ!”
พูดคำนี้ออกมา นักบวชลัทธิเต๋าก็ตกใจมาก แม้แต่สมาชิกศาสนาอันศักดิ์สิทธิ์อยู่ข้างหลังพวกเขาก็ตกใจไปด้วย
พวกเขาอยากจะโผเข้ามาล็อกฉีเติ่งเสียนไว้ บอกพี่ใหญ่คนนี้ว่าอย่าบุ่มบ่าม คนที่อยู่ตรงหน้า เป็นประมุขนักพรตที่มีอำนาจสูงสุดของเขาเสวียนหวู่!ถ้าคุณล่วงเกินเขา ถึงเวลานั้นลัทธิเต๋าทุกสำนักก็จะลุกขึ้นโจมตี
สมเด็จพระสันตะปาปาจะมาก็ช่วยไม่ได้ ถึงยังไงนี้ก็เป็นประเทศหัวกั๋ว ไม่ว่ายังไงศาสนาศักดิ์สิทธิ์ก็เป็นศาสนาต่างประเทศ
ลอร์ดเรียนก็อดไม่ได้ที่จะคิดในใจ“ไอ้เด็กเลวคนนี้บ้าบิ่นมาก นึกไม่ถึงว่าจะกล้าพูดแบบนี้กับอาจารย์จางเทียน ถ้าอาจารย์จางเทียนลงมือ ก็ส่งเขาไปพบกับพระเจ้าผู้ศักดิ์สิทธิ์แล้ว”
นักบวชลัทธิเต๋าได้ยินฉีเติ่งเสียนพูดตำหนิก็อดไม่ได้ที่จะโกรธ และพูด“พระอัครสังฆราช นี้คือเขาเสวียนหวู่ ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของลัทธิเต๋า ไม่ใช่คริสตจักรของคุณ!คุณกล้าพูดแบบนี้กับอาจารย์ลุง?ยังไม่รีบขอโทษอีก!”
สีหน้าของอาจารย์จางเทียนก็อดไม่ได้ที่จะเย็นชาขึ้นมา แม้แต่การแสดงออกก็ไม่เสแสร้ง พูดเสียงเย็นชา“สหายลัทธิเต๋า โปรดอย่าทดสอบความอดทนของลัทธิเต๋าผู้น่าสงสาร”
ฉีเติ่งเสียนสีหน้ามืดครึ้มและพูด“คุณเรียกผมว่าอะไร?”
“เรียกคุณว่าสหายลัทธิเต๋า และเกียรติมากแล้ว หรือว่า จะให้เรียกคุณว่าพระอัครสังฆราช?”อาจารย์จางเทียนพูดเสียงเย็นชา
ฉีเติ่งเสียนควักตราประทับเต่าและงูออกมา ไว้ที่หน้าอก หลีกเลี่ยงจากสายตาของสมาชิกศาสนาศักดิ์สิทธิ์ได้พอดี
อาจารย์จางเทียนก็ชะงักไปเล็กน้อย มองสำรวจดู สีหน้าก็เปลี่ยนทันที นี้ไม่ใช่ตราประทับเต๋าและงูศักดสิทธิ์ของลัทธิเต๋าไหม?ทำไมถึงอยู่ในมือของพระอัครสังฆราชได้ล่ะ!
“เข้าไปคุยข้างใน!”อาจารย์จางเทียนคำนับตัวลง เปิดทางให้ เชิญฉีเติ่งเสียนเข้าไปในห้องโถงใหญ่
ฉีเติ่งเสียนพยักหน้า เดินเข้าไป และหันไปพูดกับทุกคน“พวกคุณรอกองทหารที่หน้าประตู ฉันมีเรื่องจะคุยกับประมุข”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...