จิ่วเฮิงแสดงให้เห็นถึงฝีมือของผู้มีฝีสูงส่งในแบบของเขา แต่เขายังมีความบกพร่องทางสมรรถภาพทางกายอยู่อย่างเห็นได้ชัด
หลังจากที่ฉีปู้อวี่เริ่มเอาจริงขึ้นมา ท่าปลิดชีพด้วยหมัดมวยต่างๆก็ถูกเผยออกมาทีละน้อย ซึ่งทำให้เห็นว่าจิ่วเฮิงมีข้อบกพร่องในการตั้งรับมากขึ้น
สุดท้ายทั้งสองคนก็ต่อยกันอย่างดุเดือดจนฝุ่นปลิวไปทั่วทุกทิศ
แต่แล้วเสียงการต่อสู้ก็หยุดกะทันหัน
เมื่อฝุ่นจางลง ทุกคนก็เห็นจิ่วเฮิงนั่งจุมปุ้กอยู่ที่พื้น เขาหายใจหอบหนัก เหงื่อท่วมไปหมด มือทั้งสองข้างยันไว้บนเข่า ท่าทางดูเหนื่อยล้ามาก
ฉีปู้อวี่ยืนอยู่ด้านข้าง เขาหายใจเร็วเพียงเล็กน้อย สีหน้ายังคงสงบเหมือนเคย
"ต่อยไปทั้งหมดสามสิบท่า ฉันกินเรียบ!" ฉีเติ่งเสียนหัวเราะพลางม้วนเก็บผ้าปูโต๊ะที่มีเงินเดิมพันอยู่ด้านในเต็มไปหมด
ปีศาจราตรีรู้สึกหัวเสีย ไอ้จิ่วเฮิงนี่จะไม่มาทำตัวเป็นเด็กเหลือขอที่นี่เหมือนรองหัวหน้าใหญ่ใช่ไหม? นี่มันกับดักชัดๆ!
จิ่วเฮิงอ้าปากหอบหายใจ ก่อนจะพูด "เก่งจริงๆ เก่งมากจริงๆด้วย! รู้งี้ฉันน่าจะมาตั้งนานแล้ว คิดไม่ถึงเลยว่าข้างนอกจะมีผู้มีฝีมือสูงส่งมากขนาดนี้"
ฉีปู้อวี่ยกนิ้วโป้งให้จิ่วเฮิง จากนั้นก็พยักหน้า เห็นได้ชัดว่ายอมรับในความแข็งแกร่งของจิ่วเฮิง
ฝีมือของจิ่วเฮิงห่างจากระดับพระเจ้าเพียงก้าวเดียวเท่านั้น แต่ก้าวนี้ สำหรับคนฝึกยุทธ์ทั้งหลายแล้วมันคือพรสวรรค์! เป็นเรื่องปกติที่ทั้งชีวิตนี้จะไม่มีทางบรรลุได้
ถึงแม้จิ่วเฮิงจะแพ้ แต่เขาก็ได้รับความเคารพจากคนไม่น้อย
ถึงขั้นกล้าท้าหัวหน้าใหญ่ แถมยังออกหมัดได้ถึงสามสิบกระบวนท่า เป็นเรื่องที่ไม่ได้เห็นได้ง่ายๆในเรือนจำโยวตูแห่งนี้......
"หัวหน้าใหญ่บอกว่านายเก่งมาก แข็งแกร่งพอที่จะสู้กับเขาได้" ผีพยาบาทพูดอยู่ด้านข้าง
จิ่วเฮิงส่ายหน้า "เรื่องการต่อสู้พวกนี้น่ะ ถึงจะบอกว่าความแข็งแกร่งไม่ได้เป็นตัวรับประกันชัยชนะ แต่การที่ปรมาจารย์ที่ฝึกปรือมาหลายปี จะพ่ายแพ้ให้กับคนรุ่นหลังที่เพิ่งก้าวเข้าสู่วงการนี้ได้ไม่นานก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ แต่นายมีประสบการณ์มากมาย แถมยังแข็งแกร่งมาก......แต่การจะเอาชนะความแข็งแกร่งด้วยความอ่อนแอมันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย"
ฉีปู้อวี่เป็นตัวแทนของคำว่า "มั่นคงไม่ไหวติง" ของแท้ นิสัยที่ดีของเขาอย่างหนึ่งก็คือตอนเริ่มต้นต่อสู้มักจะระเบิดพลังเต็มที่ เพราะฉะนั้นคนที่เคยประมือกับเขามาก่อนมักจะไม่ทันตั้งตัวและโดนซัดกระโหลกตายในที่สุด
แต่ก็ไม่มีทางเลือก เขาเองก็คิดแผนฆ่าคนมาล่วงหน้าเหมือนกัน ทนได้ไม่เท่าไหร่ แต่ถ้าทนไม่ไหวก็ทำได้เพียงแค่ซัดสมองกระจุยเท่านั้น......
จิ่วเฮิงพูดถูก กระบวนท่าหมัดมากมายและความแข็งแกร่งไม่ใช่ตัวรับประกันชัยชนะ แต่ถ้าคู่ต่อสู้คือฉีปู้อวี่ จะชนะได้ก็ต่อเมื่อแข็งแกร่งกว่าเท่านั้น นอกจากนั้นก็ไม่มีทางชนะได้เลย
"ไม่ได้เห็นหัวหน้าใหญ่ต่อยตีกับคนอื่นมานานแล้ว พระรูปนี้สุดยอดมาก!" ผู้คุมคนหนึ่งอดไม่ได้ที่จะพูดอย่างชอบใจ
"สุดยอดมาจริงๆ! แถมดูผ่านๆก็เหมือนไม่ได้เสียเปรียบอะไรมากเลยด้วย สุดท้ายแพ้แค่เพราะพละกำลังน้อยกว่าเท่านั้นเอง" ผู้คุมอีกคนพูด
การต่อสู้ของจิ่วเฮิงใกล้จะถึงจุดสูงสุดแล้ว ภายใต้ความแข็งแกร่งที่มี นับว่ามากพอที่จะต่อสู้กับผู้มีฝีมือสูงส่งอย่างฉีเติ่งเสียนและฉีปู้อวี่ได้หลายรอบ
แต่เขาก็แค่ใกล้เคียงพระเจ้า ไม่ใช่พระเจ้าตัวจริง!
"ถ้าวันหนึ่งผมไปถึงขั้นพระเจ้าได้แล้ว ฝีมือก็ไม่น้อยหน้าใคร ถึงตอนนั้นเรามาสู้กันอย่างมีความสุขสักรอบเถอะ!" จิ่วเฮิงพูด
พูดจบก็ลุกขึ้นยืนจากพื้น
หลังจากที่ลุกขึ้นก็รู้สึกเหมือนกล้ามเนื้อและกระดูกปวกเปียกไปหมด ร่างกายไร้เรี่ยวแรง เกิดจากการที่โดนโจมตีอย่างรุนแรงและออกแรงมากเกินไป
"การระเบิดพลังและโจมตีจุดตายเป็นแก่นแท้ของศิลปะการต่อสู้ ผู้ที่ชนะการประลองมักจะเป็นคนที่ออกสามกระบวนท่าสองแบบ ความแข็งแกร่งและความอดทนเป็นเพียงแค่ลำดับรอง แต่ถ้าต้องต่อสู้ในระดับนี้ การจะเอาชนะด้วยเวลาเพียงสั้นๆแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย ไม่มีใครฆ่าอีกฝ่ายได้เพียงแค่กระบวนท่าเดียว เพราะฉะนั้นผู้ชนะคนสุดท้ายคือสิ่งสำคัญ" จิ่วเฮิงพูดอย่างครุ่นคิด
ฉีเติ่งเสียนพูดเสียงเรียบ "คุณพูดถูก กระบวนการต่อสู้ของคุณถึงจุดสูงสุดแล้ว ไม่มีผิดพลาดง่ายๆแน่ แต่ต่อให้มีก็ไม่ใช่ว่าคนอื่นจะจับจุดนี้ได้ แต่ระดับพระเจ้านั้น จะทำให้มนุษย์ควบคุมความลึกลับของร่างกายได้ และความแข็งแกร่งก็จะเพิ่มขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ......"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...