รองหัวหน้าใหญ่กลับถึงเรือนจำก็ทำโทษสั่งแขวนคนแล้ว ทำให้คนทั้งเรือนจำโยวตูมีความสุขกันถ้วนหน้า
ปีศาจราตรีรู้สึกมีรสขมปร่าในใจ ปกติเวลาที่เขาโดนแขวนมักจะเป็นเพราะทำเรื่องสมควรตาย ซึ่งเขาก็เข้าใจได้
แต่ครั้งนี้เขาไม่รู้สาเหตุด้วยซ้ำ มันทำให้เขารู้สึกน้อยใจ!
ปีศาจราตรีพูดกับผีพยาบาท "ทำไม? ทำไมฉันถึงโดนจับแขวน บอกเหตุผลมาทีซิ?"
ผีพยาบาทเดินมาข้างกายของเขาอย่างสบายๆ ก่อนจะพูด "อามิตาพุทธ อาตมาช่วยคนโง่ไม่ได้หรอกนะ......"
ดังนั้นปีศาจราตรีจึงต้องถูกแวนล้อลมไว้คนเดียว ถึงแม้ฝีมือของเขาจะไม่ด้อย แต่พอโดนถอดเสื้อผ้าแล้วจับห้อยหัวแบบนี้ก็รู้สึกหนาวใช่เล่น
แถมตอนนี้ทุกคนก็ไปกินข้าวกันหมดแล้ว หลังมื้อเย็นนี้ไม่แน่ว่าอาจจะมีไอ้งั่งคนไหนมารังแกเขาซ้ำอีกก็ได้ คิดแล้วก็ปวดหัว
มื้อเย็นที่ฉีปู้อวี่สั่งมาล้วนอุดมสมบูรณ์ มีปริมาณมากพอให้ทุกคนกินกันถ้วนหน้า ทั้งหมดที่นำมาเสิร์ฟล้วนใส่ในจานใหญ่
บนโต๊ะนี้มีผู้ฝึกยุทธ์อยู่ตั้งสามคน แน่นอนว่าพวกเขาต้องกินเหมือนพายุแน่
มีผู้คุมเรือนจำสองสามคนไปช่วยกันยกขวดโหลที่บรรจุไวน์กระดูกเสือเอาไว้เข้ามา ปริมาณแอลกอฮอล์ประมาณหกสิบเปอร์เซนต์ ถือว่าสูงมาก
"ว่าแต่พ่อ ผมให้พ่อไปช่วยฆ่าคนที่ประเทศมี่เป็นเพื่อน ไม่ได้ให้ไปฆ่านายน้อยของตระกูลรอธไชล์ดสาขาย่อยที่ชื่อจิมมี่นั่น!" ฉีเติ่งเสียนพอเหล้าตกถึงท้อง ก็อดไม่ได้ที่จะบ่นออกมา
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ทำให้เขาลืมไม่ลง เพราะต้องจ่ายค่าเสียหายไปถึงหกพันล้านดอลลาร์
แต่การที่โดนคนตราหน้าว่าเป็นคนขายชาติไม่ได้ทำให้เขารู้สึกอะไร ดูอย่างหงเทียนตูสิ ไม่ใช่ว่าก็ดูสบายใจดีเหมือนกันหรอกหรือ?
แต่เพราะเรื่องของเจมี่ ทำให้เขาต้องกลายเป็นผู้ก่อการร้าย ทำให้เขาโดนจับตามองไปโดยปริยาย
แต่ยังไงการเป็นผู้ก่อการร้ายก็ไม่เหมือนกับสถานะก่อนๆที่โดนตราหน้ามา เพราะจะกลายเป็นศัตรูของทุกประเทศ ไปไหนก็เป็นเหมือนหนูข้างถนนตัวหนึ่ง โดนผู้คนรุมประนามทุบตี
เพราะฉะนั้นฉีเติ่งเสียนจึงจำต้องยอมจ่ายหกพันล้านเพื่อลบล้างสถานะของตนเอง
ฉีปู้อวี่ทำเพียงแค่นเสียงหัวเราะ ความหมายของเขาคือ เรื่องก็ผ่านไปแล้วจะเอามาพูดอีกทำไม? ในเมื่อทำไปแล้วก็ไม่ต้องไปคิดเสียใจอีก!
จิ่วเฮิงได้ฟังที่ฉีเติ่งเสียนพูด ก็อดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นมาว่า "เท่ากับว่า การที่คุณได้เป็นพระอัครสังฆราชไม่ได้ใช้ความสามารถอะไรเลย แต่ใช้เงินหกพันล้านซื้อตำแหน่งมา?"
ฉีเติ่งเสียนสีหน้ามืดครึ้ม "ก็ใช่น่ะสิ ถ้าผมยังตกเป็นผู้ก่อการร้ายต่อไป ไม่รู้ว่าวันข้างหน้าจะโดนขีปนาวุธตกใส่หัวเมื่อไหร่?"
จิ่วเฮิงยิ้มหยัน "เทคโนโลยีสมัยใหม่ทรงพลังมาก แน่นอนว่าเป็นศัตรูกับคนฝึกยุทธ์อย่างพวกเรา เมื่อมีขีปนาวุธ โล่ทองหรือเกราะเหล็กอะไรก็ใช้ไม่ได้อีกต่อไป แต่กังฟูของคุณสูงถึงระดับนี้ น่าจะหลบหลีกอันตรายได้ง่ายๆนี่ ไม่เห็นต้องเครียดมากขนาดนี้เลย?"
"คนเรามักจะมีช่วงเวลาที่เกียจคร้านเสมอ แถมผมยังกลายเป็นผู้ก่อการร้าย ใครจะกล้ามายุ่งกับผมอีก? เรื่องนี้เกี่ยวโยงถึงคนหลายคน" ฉีเติ่งเสียนพูดพลางส่ายหน้าอย่างจนใจ
"เป็นผู้ก่อการร้ายก็มีข้อดีเหมือนกันนะ จะทำอะไรผิดกฎหมายก็ได้ อยากฆ่าใครก็ฆ่า อยากขู่ใครก็ขู่ ไม่ผิดกฎหมายทั้งนั้น!" จิ่วเฮิงพูดอย่างครุ่นคิด จากนั้นแววตาก็เป็นประกาย ราวกับว่าอยากจะลองเป็นดูบ้าง
เซี่ยงตงชิงได้ฟังแล้วก็รู้สึกอยากหัวเราะ เป็นอย่างที่จิ่วเฮิงพูดจริงๆ ตอนฉีเติ่งเสียนกลายเป็นผู้ก่อการร้าย ก็ทำเรื่องผิดกฎหมายไปไม่น้อยเลย
สุดท้ายก็สลัดคราบผู้ก่อการร้าย กลับมาพร้อมชุดนักบวชสีแดง ทุกคนก็ทำอะไรไม่ได้ ทำได้เพียงแอบโจมตีเขาลับหลังเท่านั้น
ฉีปู้อวี่กระแอมไอด้วยสีหน้าเคร่งขรึม ก่อนจะทำสัญญาณมือ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...