มังกรผู้ทรงพลัง นิยาย บท 1246

เรือนจำโยวตูกำลังเตรียมตัวฉลองปีใหม่อย่างคึกคัก

แต่ว่าในป่าลึกนอกเรือนจำโยวตูกลับมีกลุ่มคนซุ่มซ่อนอยู่

คนเหล่านี้มีหน้าตาแบบคนตะวันตก รวมทั้งหมดสิบแปดคน

“พระอัครสังฆราชแห่งเขตใต้ของศาสนาศักดิ์สิทธิ์สร้างปัญหาให้ท่านเทพแดร็กคูล่าของเรามาก ทำให้ท่านเทพแดร็กคูล่าผู้ยิ่งใหญ่ต้องสูญเสียศิษย์ผู้ศรัทธาไปหลายคน คราวนี้เราเจอค่ายฐานของเขาแล้ว เราจะปล่อยเขาไปไม่ได้”

“พระอัครสังฆราชผู้นี้ยังสร้างมหาวิหารในหนานหยางด้วย หากเราปล่อยให้เขาเผยแพร่คำสอนของศาสนาศักดิ์สิทธิ์แบบนี้ อิทธิพลของศาสนาศักดิ์สิทธิ์จะต้องยิ่งใหญ่ขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย! เมื่อถึงเวลานั้นกลุ่มอัศวินศักดิ์สิทธิ์ก็จะก่อตัวขึ้นในหนานหยาง แล้วขอบเขตกิจกรรมของเราก็จะถูกบีบให้แคบลง”

“ดังนั้น คราวนี้เราต้องทำลายเขาให้ได้! ต้องถอนรากถอนโคนเขาให้สิ้น!”

หัวหน้าเหล่าสาวกของลัทธิแดร็กคูล่าสวมชุดรบภาคสนามสีเขียวเข้ม แววตาของเขาฉายประกายประหลาดจนทำให้ผู้คนหวาดกลัวจนตัวสั่น

“ครั้งนี้เราสามารถฆ่าเขาได้ง่ายขึ้นมาก เพราะเขาไม่มีกลุ่มอัศวินศักดิ์สิทธิ์คุ้มกัน แถมยังอยู่ในเรือนจำโทรมๆ นั่น” หัวหน้าสาวกกล่าวด้วยรอยยิ้มชั่วร้าย

คนอื่นพยักหน้าไปตามๆ กัน

พวกเขาพยายามจนได้รู้เบื้องลึกของฉีเติ่งเสียน จากนั้นก็ตามเขามาถึงเรือนจำโยวตูและเตรียมการอยู่ข้างนอกเพื่อจะฆ่าเขา แล้วค่อยทำลายเรือนจำแห่งนี้ให้สิ้นซาก

หัวหน้าเหล่าสาวกยังคงกำชับต่อไป “ใกล้จะถึงปีใหม่ของหัวกั๋วแล้ว ช่วงปีใหม่เป็นช่วงเวลาที่พวกเขาจะผ่อนคลายมากที่สุด! ยิ่งไปกว่านั้นในคืนปีใหม่แบบนี้ พวกเขามักจะโต้รุ่งกันถึงเช้า”

“เราจะลงมือในช่วงก่อนรุ่งสางและเราจะจัดการกับพวกเขาในตอนที่พวกเขาอ่อนล้าและผ่อนคลายที่สุด”

“เราต้องตัดหัวของพระอัครสังฆราชแห่งเขตใต้ผู้นั้นมาอย่างสมบูรณ์ แล้วส่งไปบูชายัญแด่เทพแดร็กคูล่าผู้ยิ่งใหญ่”

“เรื่องนี้จะทำให้เราจะรับความโปรดปรานจากท่านเทพอย่างแน่นอน!”

ทุกคนตะโกนว่า “เทพแดร็กคูล่าทรงพระเจริญ” แต่ละคนดูคันไม้คันมือและคึกกันอยู่ไม่น้อย

ลัทธิแดร็กคูล่าเป็นหนึ่งในลัทธินอกรีตที่ต่อต้านศาสนาศักดิ์สิทธิ์มากที่สุด และฉีเติ่งเสียนก็เป็นคนที่ปะทะพวกเขาก่อน ทำให้พวกเขาได้รับบาดเจ็บ ดังนั้นเขาจึงกลายเป็นหนามยอกอกของคนเหล่านี้ไปโดยปริยาย

“งั้นเอาตามแผนนี้แล้วกัน ทุกคนไปพักผ่อนตามอัธยาศัยและปรับทัศนคติ เมื่อถึงเวลาก็ทำหน้าที่ของตัวเองให้สำเร็จ!” หัวหน้าเหล่าสาวกโบกมือ

ในตอนนั้นเองก็มีเสียงฝีเท้าดังขึ้น ทำเอาทุกคนสะดุ้งตกใจ

เมื่อมองดีๆ ก็พบว่าเป็นเสือที่ร่างกายกำยำและเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อตัวหนึ่งกำลังเดินผ่านหน้าพวกเขาพร้อมสั่นหัวและกระดิกหาง

ทุกคนกลั้นหายใจด้วยความหวาดกลัว แต่เสือก็ยังหันหัวมา

ในตอนที่พวกเขากำลังลังเลว่าควรจะลงมือก่อนหรือไม่ เจ้าเสือก็ส่งเสียงทางจมูกหนึ่งครั้งและพ่นลมสีขาวเป็นทางยาวออกมาก่อนจะสั่นหัวกระดิกหางเดินออกไปอย่างสบายใจ

หัวหน้าเหล่าสาวกถอนหายใจด้วยความโล่งอกและพูดว่า “เทพแดร็กคูล่าคุ้มครองพวกเรา!”

ทุกคนพยักหน้าตามๆ กันและมีความมั่นใจในการลงมือครั้งนี้มากขึ้น

หลังจากเดินออกจากที่นั่น เจ้าเสือก็เยื้องย่างมาที่ประตูเรือนจำโยวตู พอดีกับฉีปู้อวี่ที่เดินออกมาพร้อมกับหมูครึ่งตัวในมือ

เมื่อเห็นต้าหวงที่ตนเลี้ยงไว้ ฉีปู้อวี่ก็หัวเราะและโยนหมูในมือออกไป

ต้าหวงคำราม จากนั้นก็เริ่มเพลิดเพลินกับอาหารมื้อใหญ่จากงานส่งท้ายปีเก่า

หลังจากกินจนอิ่มหนำ ต้าหวงก็เลียริมฝีปาก เดินเข้าไปใกล้ฉีปู้อวี่และเอาหัวถูต้นขาเขา

เมื่อเซี่ยงตงฉิงเห็นฉากนี้จากด้านในเรือนจำ เธอก็ได้แต่ตะลึงและคิดว่าเรือนจำแห่งนี้มีแต่เรื่องพิลึกกึกกือจริงๆ เลี้ยงเสือไว้เนี่ยนะ...

เซี่ยงตงฉิงตะลึงหลังจากได้ฟังและพูดด้วยความประหลาดใจว่า “จริงเหรอ”

“แน่นอนสิครับ!” ฉีเติ่งเสียนกล่าว เมื่อวานเขาเพิ่งพูดประโยคนี้กับหยางกวนกวนไป จะพูดกับเซี่ยงตงฉิงอีกครั้งคงไม่มากเกินไป

อย่างไรแล้วเซี่ยงตงฉิงก็ไม่ได้มีศีลธรรมสูงเท่าเฉินหยู เธอจึงถูกหลอกด้วยคำพูดของฉีเติ่งเสียนและรอยยิ้มเขินอายก็ปรากฎบนใบหน้าของเธอ

เมื่อเห็นเธออึ้งไป ฉีเติ่งเสียนก็เหยียบหางของต้าหวงเบาๆ

ต้าหวงเจ็บจนคำรามออกมาเสียงดัง กระโดดโหยงแล้วทำหน้าตาบิดเบี้ยว

อย่างไรแล้วมันก็เป็นสัตว์ร้ายและเซี่ยงตงฉิงก็ยังกลัวมัน เมื่อเห็นมันโมโห เธอก็กรีดร้องด้วยความหวาดกลัวและหมุนตัวพุ่งเข้าสู่อ้อมกอดของฉีเติ่งเสียน

ฉีเติ่งเสียนกอดเธอและพูดว่า “ไม่ต้องกลัวหรอก ถ้าผมอยู่ด้วยจะไม่มีใครทำร้ายคุณได้”

ต้าหวงหันหัวมาแยกเขี้ยวและคำรามใส่ฉีเติ่งเสียน จากนั้นก็สะบัดหัวอย่างแรงพร้อมกับส่งเสียงฟึดฟัดแล้วเดินจากไป

เห็นได้ชัดว่ามันไม่อยากอยู่กับฉีเติ่งเสียนอีกต่อไป

เซี่ยงตงฉิงหวาดกลัวอย่างเห็นได้ชัด เธอขดตัวอยู่ในอ้อมกอดของฉีเติ่งเสียนและยังตัวสั่นไม่หยุด...

ความกล้าหาญของเธอมีไม่น้อย แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะกล้าเผชิญหน้ากับเสือที่ดุร้าย

“ทะ...ทำไมจู่ๆ มันถึงโมโหแบบนี้ล่ะ” เซี่ยงตงฉิงถามอย่างอกสั่นขวัญแขวน น้ำเสียงของเธอสั่นเทา

“เอ่อ เดาว่ามันน่าจะหาแม่เสือที่โหยหาไม่เจอ มันก็เลยรำคาญนิดหน่อย” ฉีเติ่งเสียนตอบกลับอย่างมั่วๆ

ผ่านไปสักพักเซี่ยงตงฉิงก็หายจากอาการตกใจและถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ จนถึงตอนนี้เท้าของเธอยังรู้สึกเหมือนเหยียบอยู่บนฝ้ายอยู่เลย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง